สแลงจำเพาะของฟุตบอลได้ถูกกลับมาใช้อีกครั้ง หลังจากผลการดวลแข้ง 2 เกมยูโร ที่เหมือนกันโดยบังเอิญใน 90 นาทีจบลง
สเปน ตามหลัง โครเอเชีย 0-1 ก่อนจะรัวนำ 3-1 แต่โดนตีเสมอนาทีสุดท้าย 3-3
ฝรั่งเศส ตามหลัง สวิส 0-1 ก่อนจะรัวนำ 3-1 แต่โดนตีเสมอนาทีสุดท้ายเช่นกัน 3-3
สุดท้ายบทจบไม่เหมือนกัน เมื่อ สเปน กลับมาชนะได้ในช่วงต่อเวลา 5-3 เกือบทาบสถิติยิงมากสุดนัดเดียวตลอดกาลที่ ฝรั่งเศส กับ ยูโกสละเวีย ทำไว้ 9 ลูกเมื่อ 61 ปีก่อน
ผิดกับ ฝรั่งเศส เมื่อตกรอบแบบพลิกล็อกสุดๆ หลังจากดวลจุดโทษแพ้
ว่ากันถึงประเด็นการตกรอบของ ฝรั่งเศส ที่สิ้นลายแชมป์โลก, เต็ง 1 และรองแชมป์เก่ารายการนี้
มองไปทั้งหมด 2 เรื่องด้วยกัน
ข้อ 1.คำถามเรื่องสมาธิ-สปิริตทีม
หลายคนหวั่นใจว่า จะเกิดเรื่องแบบนี้กับ ฝรั่งเศส ด้วยความหมายเหตุ“ชาติพันธุ์” แล้วก็เหมือนกับมี “สัญญาณเตือน” ก่อนทัวร์นาเมนท์ เมื่อ คีลิยันเอ็มบัปเป้ หัวเสียกับบทสัมภาษณ์ของโอลิวิเยร์ ชิรูด์ หลังจบเกมที่ดวลกับ บัลแกเรีย อย่างมาก เพราะชิรูด์ พูดว่า แม้จะวิ่งทำทางแค่ไหน ก็ไม่มีใครส่งให้ผม
มันเป็นเรื่องที่ “ไม่ควรจะพูด” ของ ชิรูด์ ที่ก็ต้องรู้สภาพตัวเองในยุคปัจจุบัน
หลายคนแอบจะหวั่นๆ ใจกับเรื่องนี้เพราะเคยมีประเด็น “แคมป์แตก” เมื่อปี 2010 พังแบบไม่มีชิ้นดีในบอลโลกฉบับแอฟริกา
เรื่องนี้ถูกหยิบยกมาไม่น้อยกว่า4 ครั้ง กับข้อสังเกตประเด็นเรื่องสมาธิและสปิริตภายในทีม
ยิ่งการเป็น “แชมป์โลก” และ“เต็ง 1” ทำให้การคาดหวังมาก และถูกกดไว้ที่หัวไหล่แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว
ข้อ 2.อันนี้หนักเลยก็คือ “วิธีการ”
ผมวิเคราะห์ไปก่อนทัวร์นาเมนท์จะเริ่มต้นขึ้น เกี่ยวกับ วิถีการการเล่นของทีมชุดนี้ว่า ไม่เหมือนกับ ปี 2018 ที่ได้แชมป์โลกอาจจะดูแกร่งกว่าเข้มข้นกว่า แต่.......
แต่จะมีคนเล่นให้กับทีมน้อยกว่าเดิม
ถ้าทีมใดมีสตาร์ทั้งทีม ผลลัพธ์มันอาจจะไม่สวยหรูก็ได้ ทุกคนคงคิดถึงประเด็น แบลส มาตุยดี้ นักบอลผู้ปิดทองหลังพระตัวจริงในกาลศึกที่รัสเซีย 2018 เมื่อเขาวิ่งทำทางจนทุกคนทำได้งานเต็มประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผล
หนนี้ มาตุยดี้ ไม่อยู่ บอลจากพื้นที่แนว 40 หลาไม่ค่อยมี เพราะ อาเดรียงราบิโอต์ อาจจะเทคนิคดีกว่า แต่เคลื่อนที่น้อยกว่า บวกกับคนที่วิ่ง “ทะลวงซ้าย”อย่าง ลูก้าส์ แอร์กนองเดซ และลูก้า ดีญโชคร้ายดวงแตกบาดเจ็บ
เดส์ชองป์ ไม่สามารถหยิบจับอะไรแล้ว “ใช่หมด” ได้เหมือนตอนเป็นแชมป์โลก ครั้งนั้นพวกเขาเสีย “แบ๊กสองข้าง”ก่อนวันเปิดสนามไม่ถึง 2 วัน เพราะฟิตไม่พอ แต่ เบนฌาแม็ง ปาวาร์ กับ ลูก้าส์แอร์กนองเดซ เกิดขึ้นมาทันพอดี
วิธีการหนนี้ที่ว่า ชิรูด์ ไม่ได้คมกว่า คาริม เบนเซม่า แต่บอลที่พักและกระจายออกไปนั้น ชิรูด์ ดูเหลื่อมๆ กว่า
อีกทั้งแท็กติกแปลกๆ ตั้งแต่เกมกับ ฮังการี ที่ให้ อองตวน กรีซมันน์ ออกไปเน้นเล่นด้านข้าง มากกว่าเล่นตัวฟรีอยู่หลังกองหน้า
สำคัญที่สุดก็คือ ต่อให้นักบอลเจ็บขนาดไหน ฝรั่งเศส ไม่ควรเล่นกองหลัง 3 คนให้เสียเวลาไปตั้งแต่แรก ไม่เหมาะไม่ควรจริงๆ ในเกมกับ สวิส จนรู้ตัวว่า ไม่ไหวอย่าบอกนะว่าไหว
ส่วนของ ตัวความหวังอย่าง เอ็มบั๊ปเป้ ที่โดนแฟนบอลบางกลุ่มโจมตีถึงฟอร์มการเล่นอะไรต่างๆ แต่คาดกันว่ามาจากการ “ยิงเป้าพลาด” และทัวร์นาเมนท์นี้ยิงไม่ได้
แน่นอนว่าโดนสาปส่ง แต่ใครไม่เอา.....ผมเอานะ!!!!!
ทั้งหมดคือประเด็นของทัพ“เลส เบลอส์” และน่าสนใจก็คือ แท็กติกการเล่นแบบ “ถาโถม” ของ สวิส ที่เล่นแบบไม่มีอะไรจะต้องเสียในช่วงตามหลัง 2 ประตู
สิ่งสำคัญก็คือ พวกเขาเล่นได้ไม่ดีเลยในรอบแรก และไม่มีวี่มีแววว่าจะเร่งเครื่องฟุตบอล และเดินหน้าใส่เกียร์ได้แรงขนาดนี้
เมื่อมาบวกกับ ฝรั่งเศส ที่ไม่น่าเชื่อว่า จะเปราะบางถึงขนาดนี้
อีกประเด็นทีมลืมไม่ได้ก็คือ อุบัติเหตุทางฟุตบอล เกิดขึ้นได้เสมอ.......
เมื่อฝ่ายหนึ่งที่ไม่มีอะไรเลย กลับคายพิษสงออกมาในจังหวะที่พอเหมาะพอดี สู้แบบลืมตายถวายชีวิตในสไตล์ของนักบอลหลายคนของสวิส ที่สู้กับเรื่อง
ภายนอกมาตั้งแต่เด็กๆ และได้ผลลัพธ์ที่น่าพิศวงและควรได้รับการปรบมือ
ฟุตบอลนี่มีอะไรให้คุยกันไม่มีวันจบจริงๆ............
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี