ไม่ได้กินอาหารที่อยากกิน ไม่ได้กินอาหารที่ถูกปากสักไม่กี่วัน หลายคนอาจจะอยู่ในอาการไม่ปกติ
“หนูอยากกินพิซซ่า,อยากกินเครป อยากกินสุกี้ แต่หนูไม่ได้กินมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ เพราะต้องซ้อมหนัก หนูต้องร้องไห้แล้วร้องไห้อีก เพราะต้องซ้อมกับผู้ชาย หนูโดนไล่เตะไล่ยำจนปวดไปหมด แต่หนูอดทน อดทนเพื่อมาให้ถึงวันนี้”
........ชัยชนะของ พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ หรือ “น้องเทนนิส” ผู้พิชิต “เทควันโด” มีหลายแง่มุมเหลือเกินที่สะท้อนออกมาให้เราได้ศึกษา
จากขุนศึกผู้พ่ายแพ้ในโอลิมปิกเกมส์ ฉบับ “ริโอเกมส์ 2016” ก่อนจะทะยานขึ้นสู่ยอดเสาในครั้งนี้ “โตเกียวเกมส์ 2020”(เลื่อนมาแข่งในปี 2021)
ทุกอย่างมันยากลำบากอย่างยิ่ง เพราะ........
ก่อนแข่งเดือนนึงยังไม่แน่ใจเลยว่า จะมากันได้หรือไม่
ความเจ็บปวด, คราบน้ำตา และรอยแผลเป็นที่ยาวนานถึง 5 ปี หากว่ากันตามเชิง แข่งกันตามปฏิทินเดิม 2020 รับรองได้เลยว่า “เทนนิส” จะคว้าเหรียญทองได้ค่อนข้างแน่ เพราะตอนนั้นเธอคือ “ผู้ชนะสิบทิศ” ในพิกัดเดียวกัน ประเภทเดียวกันทั้งโลกา
แต่พอยืดการแข่งขันมา 1 ปี การซ้อมที่หนักหน่วงต่อเนื่อง สภาพร่างกายที่เจองานหนักต่อเนื่อง แถมจิตใจเราเชื่อเหลือเกินว่า ต้องถูกทดสอบอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน
เนื่องจากซ้อมหนักซ้อมโหด ก็ยังไม่มีใครตอบได้เหมือนกันว่า “จะได้แข่งหรือไม่”
การทดสอบร่างกายและจิตใจ สุดท้าย “ส่งผล” ให้เห็นอย่างชัดเจนที่สุด เมื่อตกเป็นฝ่ายตามหลังในช่วง 27 วินาทีสุดท้าย
“ตอนนั้นไม่ได้สนเวลา แต่หาจังหวะที่จะเข้าทำ และเชื่ออยู่เสมอว่า เมื่อเวลายังไม่หมด เรายังมีโอกาสอยู่เสมอ” เธอ บอกกับพวกเราผู้สื่อข่าวที่สังเวียน มาคุฮาริ เมสซึ เมืองชิบะ หลังได้รับชัยชนะครั้งสำคัญในชีวิต
ช่วงเวลาที่ เทนนิส คุยกับผู้สื่อข่าวไทยกว่า 6 นาที สิ่งที่ชัดประเด็น และสะกิดความรู้สึกมากที่สุด คงไม่พ้นเรื่องของ “ความคิด”
เรื่องนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก และเป็น “ธงแรก” ก่อนที่จะเดินไปปักธงต่อไป
ทำไมต้องเป็นประเด็นนี้
“ตั้งใจในทุกวินาที เมื่อไหร่ก็ตามที่ยังไม่หมดเวลาเรามีโอกาสที่จะชนะ ที่สำคัญก็คือไม่ได้กดดันตัวเอง รวมถึง โค้ชและผู้บริหารก็ไม่ได้กดดัน ทุกคนบอกแต่เพียงว่า น้ำตาที่เสียไปจากการซ้อมหนัก อย่าให้สูญเปล่า ลงไปเล่นให้โค้ชดูหน่อยว่า ที่ซ้อมมาหนักหนาสาหัสขนาดไหนและได้อะไรบ้าง ลงไปเล่นทำหน้าที่ให้สมบูรณ์แบบที่สุด ผลลัพธ์จะได้เหรียญหรือไม่ได้เหรียญก็ไม่เป็นไร”
เธอบอกว่า จากแนวคิดตรงนี้ทำให้ไม่กดดันอะไรเลย
ก่อนที่แนวคิดจะแสดงผลต่อถึงความเยือกเย็น, ความมั่นใจและสำคัญยิ่งคือทัศนคติที่ดี มีลบน้อยกว่าบวก
ประสบการณ์ที่สั่งสมมา รู้จักคำว่าแพ้ และเดินต่อรอคอยสู่ชัยชนะ ได้แสดงให้เราทุกคนได้เห็นในช่วงท้ายปลายทาง หรืออาจจะเรียกว่า “7 วินาทีสุดท้าย”
เป็น 7 วินาทีที่เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งอย่างไปตลอดกาล
เป็นรางวัลแห่งความตอบแทนความพยายามมา “ทั้งชีวิต”
ผมรู้สึกโล่งใจที่ เทนนิส บอกว่า เป้าหมายต่อไปของเธอคือ การครองแชมป์โลกสมัยที่ 3, ครองเหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์ สมัยที่ 2 และสำคัญที่สุด ยิ่งใหญ่ที่สุด
“หนูอยากป้องกันแชมป์โอลิมปิก อีกแค่ 3 ปีเองพร้อมสู้!!!!”
เท่ากับว่า หากเป็นไปตามนี้ เราจะเห็น เทนนิสพิชิตเทควันโด ต่อไปที่ “ปารีสเกมส์ 2024”
เช่นเดียวกัน ทุกอย่างต้องเดินทางไปด้วยกัน การบริหารจัดการของสมาคมที่เดินมาถึงวันนี้ได้และรอคอยกันมาอย่างยาวนาน ด้วยความอดทนมุ่งมั่นตั้งแนวตรงมาโดยตลอด นั่นคือฝีมือของ ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย
เมื่อการบริหารจัดการถึง ก็มาถึงตำแหน่งของผู้ฝึกสอนที่สำคัญสุดๆ นั่นคือ เช ยอง ซอก ที่พวกเรานักข่าวระบุกันว่า
นี่คือที่สุดของที่สุดโค้ชที่เป็นมากกว่าโค้ชอย่างแท้จริง
คนเกาหลีใต้ แต่หัวใจคือไทยไปนานแสนนาน เรื่องสัญชาติมันแค่เส้นบางๆ ไม่ต้องนำมาเป็นดราม่า แต่สิ่งที่เขาทุ่มเทและพยายามมันเกินหน้าที่ เกินเงินเดือนที่ได้รับ แถมยังทำให้ประเทศไทย มากกว่าที่หลายคน “ควรจะ” ทำ
โค้ชเช อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของนักกีฬาไทย นับตั้งแต่เทควันโด ได้รับการบรรจุใน “เอเธนส์เกมส์ 2004” จากเหรียญทองแดงวันนั้น มาจนถึงเหรียญทองประวัติศาสตร์ในวันนี้
975 วันบวกไปเรื่อยๆ กับการ “ไร้พ่าย” ของ พาณิภัค
365 วันคูณ คูณ คูณ ปีเข้าไปของ โค้ชเช และผู้บริหารสมาคม
นี่คือความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ เป็นสมาคมกีฬาลำดับที่ 3ที่ได้เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ ต่อจาก มวยสากล และยกน้ำหนัก
พวกคุณคือตำนานตลอดไป และสำคัญที่สุดก็คือ “แนวคิด” และ “บทพิสูจน์” การทำงานในครั้งนี้
เป็นตัวอย่างที่ควรศึกษา และปฏิบัติในทุกอาชีพได้โดยแท้จริง
ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ในยามที่คนไทยกำลังทุกข์โศกจากโรคร้าย
หวังเหลือเกินว่า ชัยชนะครั้งนี้จะช่วยเยียวยา...มากบ้างน้อยบ้าง
ก็พอให้ชื่นใจ......
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี