กำปั้นไทยปิดฉากโอลิมปิกเกมส์ ด้วยการได้เหรียญทองแดงประวัติศาสตร์ของ “แต้ว” สุดาพร สีสอนดี กำปั้นหญิงวัย 29 ปีจากนครราชสีมา ทำให้ผลงานของทีมมวยสากลไทย ดีกว่าเมื่อ5 ปีก่อนที่ “ริโอเกมส์” ซึ่งครั้งนั้นจบด้วยมือเปล่า
“แต้ว” สุดาพร สีสอนดี ขึ้นชกในรอบรองชนะเลิศ รุ่น 60 กิโลกรัมหญิง ควงกำปั้นตะบันหน้า เคลลี่ แอนเน่ แฮร์ริงตัน เต็ง 1 ของรายการจากสาธารณรัฐไอร์แลนด์ เจ้าของตำแหน่งแชมป์โลกรุ่นไลท์เวท ปี 2018 ถือเป็นการล้างตากัน เพราะครั้งนั้น แฮร์ริงตัน ชนะ สุดาพร ในนัดชิงชนะเลิศ ที่กรุงนิวเดลีประเทศอินเดีย
การชกจบลงด้วยชัยชนะของ แฮร์ริงตัน ไปอย่างไม่เป็นเอกฉันท์ 3-2 ที่โกกุงิกัง อารีน่า ด้วยคะแนน 29-28, 29-28,28-29, 29-28 และ 28-29 ทำให้เธอผ่านเข้าไปลุ้นเหรียญทองสมัยแรก ไปเจอกับ เบทริซ แฟร์เรยร่า จากบราซิล ที่ชนะคะแนน มิร่า พ็อตโคเน่น จากฟินแลนด์ ทำให้ สุดาพร กับ พ็อตโคเน่นได้เหรียญทองแดงไปครอง
ภายหลังการชก สุดาพร เปิดเผยว่า พอใจกับผลงานของตัวเองในการชกครั้งนี้ที่ได้เหรียญรางวัลประวัติศาสตร์มาครอง เพียงแต่เสียดายโอกาสที่ไม่สามารถที่จะเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้เนื่องจากคู่ชกก็ทำผลงานได้ดี เป็นมวยตัวใหญ่ที่คล่องแคล่วและ เปลี่ยนการ์ดได้รวดเร็ว
“เราวางแผนมาและแก้ไขได้ดีแล้ว แต่ต้องยอมรับว่าคู่ชกทำได้ดีจริงๆ ขณะที่เรื่องการตัดสินของกรรมการนั้น ผลออกมาถือว่าเป็นที่สุดแล้วไม่ได้ติดใจอะไร ส่วนการที่จะชกต่อหรือไม่จะไปแข่งขันต่อที่ประเทศฝรั่งเศสในอีก 3 ปีข้างหน้าหรือเปล่าคงต้องกลับไปพิจารณาตัวเองอีกครั้ง เพราะต้องดูในเรื่องของสภาพร่างกาย เป็นลำดับแรก”
สุดาพร กล่าวต่อไปอีกด้วยว่า นี่คือสิ่งที่ภูมิใจอย่างมาก ในฐานะนักชกจากประเทศไทย และคว้าเหรียญรางวัลให้กับประเทศดีใจที่ทำตามฝันของตัวเองได้ และนี่คือความภูมิใจที่สุดในชีวิตนี้
ขณะที่ แฮร์ริงตัน ให้สัมภาษณ์ที่มิกซ์โซน ว่า เกมนี้ต่อสู้กับ
“ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าจะพูดอะไร วันนี้ฉันพูดน้อยไปหน่อยฉันดีใจจนพูดไม่ออก” แชมป์โลกไอริช กล่าว “มันไม่ใช่การต่อสู้ที่ง่ายเลย การแข่งขันครั้งนี้ยากมาก พูดตรงๆ นะ เปรียบเหมือนการชกครั้งนี้เหมือนกับหมากรุกที่สนุกมาก เราช่วงชิงจังหวะอยู่ตลอดเวลา และนี่คือการชกที่ท้าทาย”
ทางด้านการแข่งขันในวันศุกร์นี้ มีการชิงเหรียญทองวันที่ 14 รวม 24 เหรียญทอง ประกอบด้วย กรีฑา 8 เหรียญทอง,จักรยาน, คาราเต้ และ มวยปล้ำ กีฬาละ 3 เหรียญทอง,วอลเลย์บอลชายหาด, มวยสากล, ฟุตบอลหญิง, ฮอกกี้,ปัญจกีฬาสมัยใหม่, ปีนหน้าผา และเทเบิลเทนนิส กีฬาละ1 เหรียญทอง
โดยที่ “โปรเหมียว” ปภังกร ธวัชธนกิจ และ “โปรเม” เอรียาจุฑานุกาล 2 นักหวดวงสวิงสาวไทย ยังต้องสู้ต่อในกอล์ฟหญิงวันที่ 3 โดย โปรเหมียว ตีสองวันยังอยู่ที่อีเวนท์พาร์ ตามหลังผู้นำห่างถึง 13 สโตรค ส่วน โปรเม ตีได้ 4 อันเดอร์พาร์รวมสองวัน ยังเกินอยู่ที่ 2 โอเวอร์พาร์ ตามหลังผู้นำถึง 15 สโตรกโดยผู้นำตอนนี้คือ เนลลี่ คอร์ด้า โปรสาวสหรัฐอเมริกา ที่ตีได้ถึง13 อันเดอร์พาร์ ซึ่งเธอตีวันเดียวกระจุย 8 อันเดอร์ฯ
ขณะเดียวกัน นายสิงห์ทอง ลาภพิเศษพันธุ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ช่วงเวลานี้นับเป็นช่วงเวลาที่ต้องจับตามอง เนื่องจากผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในญี่ปุ่นสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ แต่ไม่ได้มีการเชื่อมโยง หรือเกี่ยวพันกับการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ แต่อย่างใด
“บทบาทและหน้าที่ของสถานทูต คือการประสานงานกับคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย เพื่อคอยอำนวยความสะดวกให้กับนักกีฬาและคณะเจ้าหน้าที่ของไทย ซึ่งที่ผ่านมาสถานทูตรับหน้าที่ส่งอาหารกล่องให้กับนักกีฬาไทย เพื่อที่จะได้ไม่ต้องไปนั่งทานในโรงอาหารภายในหมู่บ้านนักกีฬาโอลิมปิก เพื่อการป้องกันความเสี่ยง ซึ่งเมนูยอดนิยมที่ของนักกีฬา ได้เน้นหนักไปทางเมนูอาหารไทย อาทิ ข้าวเหนียว, ส้มตำ, ไก่ย่าง, ผัดกะเพราส่วนเมนูที่มีกะทิ เราหลีกเลี่ยง เพราะเสียง่าย”
นาย สิงห์ทอง กล่าวในตอนท้ายอีกว่า ประเทศญี่ปุ่น รวมถึงฝ่ายจัดการแข่งขัน พยายามจะจุดประกายความหวังเล็กๆ ในการเดินวิถีชีวิตใหม่ด้วยเกมกีฬา ถึงแม้ทั่วโลกกำลังเผชิญกับความโหดร้ายของโรคระบาด โดยแสดงให้เห็นผ่านทางนักกีฬาที่ต้องสู้กับตัวเอง, สู้กับคู่แข่ง ยังต้องสู้กับโรคด้วย ผมก็มองว่าการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ จะเพิ่มแรงใจให้ทุกคนลุกขึ้นมาต่อสู้และผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปให้จงได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี