เกมคุณภาพระดับโลกของศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ที่สนามแอนฟิลด์ จบลงด้วยผลเสมอกันระหว่าง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล กับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-2 ปิดฉากการดวลแข้งนัดที่ 7
เจอร์เก้น คล็อปป์ บอสหงส์กล่าวหลังเกมว่าครึ่งแรก เราเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานที่เป็นค่าเฉลี่ย เราอยู่เฉยๆ กันเกินไป ทั้ง ช่วงเวลาที่มีและไม่มีบอล เราเล่นไปเข้าทางแมนเชสเตอร์ซิตี้ทั้งหมด ผมยอมรับว่า เป็นครึ่งที่แย่ที่สุดที่เราเคยเล่นกับพวกเขา
“ผมพอใจมากกว่า เมื่อได้ยินเสียงนกหวีดหมดครึ่งแรก และเราไม่เสียประตู เราต้องปรับตัวหลายๆ อย่าง และเราก็ทำได้ในครึ่งหลัง ซึ่งแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ถ้าเราเล่นแบบครึ่งหลังผมก็อยากจะชนะ แต่ถ้าเล่นแบบครึ่งแรกผมก็ความสุขกับ 1 คะแนนที่ได้รับ”
ขณะที่ลูกยิงสุดยอดของ โมฮาเหม็ดซาลาห์ ที่แหวก 4 เข้าไปสังหารนั้น คล็อปป์บอกว่า มันไม่ใช่ประตูแรกที่ โม ซาลาห์ ยิงได้แบบนี้ผมคิดว่าในเกมกับนาโปลี และท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ต่างก็เป็นประตูที่คล้ายคลึงกัน
“ลูกยิงของเขามันคือการยิงระดับโลกอย่างแท้จริง เป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยม ทั้งการจ่ายให้ มาเน่ ทำประตูแรก และการทำประตูของเขาเอง คุณภาพของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ คือคุณภาพระดับโลก”
ทางฝั่ง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือของแมนเชสเตอร์ซิตี้ บอกว่า นี่คือเกมที่สุดยอดมาก โดยการเล่นในวันนี้เป็นเหตุผลที่หลายปีที่ผ่านมาแมนฯ ซิตี้ และลิเวอร์พูล อยู่ในจุดที่ยอดเยี่ยมเสมอน่าเสียดายที่เราไม่สามารถชนะ แต่เราไม่ได้แพ้ และขอชื่นชมว่า ลิเวอร์พูล คือ 1 ใน 3 ทีมที่ดีที่สุดในโลกเวลานี้
อย่างไรก็ตาม เป๊ป หลุดขยี้พูดถึงเจมส์มิลเนอร์ ว่า มันเป็นใบเหลืองที่สอง มันชัดเจนมาก!!!!
“มันเป็นใบเหลืองที่สอง มันชัดเจนเกินไปแต่ที่นี่คือแอนฟิลด์ มันคือโอลด์แทรฟฟอร์ดในสถานการณ์เช่นนี้ ถ้าเป็นผู้เล่นของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะถูกไล่ออก!!!”
สำหรับบทสรุปเกมนัดที่ 7 พรีเมียร์ลีก ก่อนจะหยุดพักไปเล่นทีมชาติมีดังนี้
l จ่าฝูงเปลี่ยนมืออีกครั้ง เมื่อ “สิงห์บลูส์” เชลซี ผงาดขึ้นเป็นผู้นำเดี่ยว และจะนำแบบนี้ไป 2 สัปดาห์ เนื่องจากฟีฟ่าเดย์ โดยที่ เชลซี ยังเป็นทีมที่ชนะได้มากที่สุดของซีซั่น นั่นคือชนะได้ 5 ครั้ง คว้าไปแล้ว 16 คะแนน พร้อมกับเสียประตูน้อยที่สุดเท่ากับ แมนฯซิตี้ นั่นคือ 3 ลูก
l ลิเวอร์พูล เป็นทีมเดียวในลีกที่ยังไม่แพ้ใครจากการออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ ด้วยสถิติชนะ 4 เสมอ 3 และเป็นทีมที่ยิงประตูได้มากที่สุดคือ 17 ประตู
l ทีมในตอนบนของตารางคะแนนมีคะแนนที่น่าสนใจมาก เมื่อ เชลซี ทีมนำมีอยู่ 16 แต้ม โดยที่ ลิเวอร์พูล มี 15 คะแนน จากนั้นมีอีกถึง 4 ทีมที่คะแนนเท่ากันที่ 14 คะแนน นั่นก็คือแมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,เอฟเวอร์ตัน และไบรท์ตัน ที่วีคนี้พวกเขาจบลงด้วยผลเสมอทั้งหมด
l สองทีมจากนอร์ท ลอนดอน สลับตำแหน่งกันอีกแล้ว หลังจาก อาร์เซนอล บุกไปเสมอ ไบรท์ตัน 0-0 ขณะที่ สเปอร์ส ชนะ วิลล่า 2-1 ทำให้ สเปอร์ส กลับมาแซง อาร์เซนอล คืนได้อีกครั้ง ด้วยการมี 12 ต่อ 10 คะแนน
l แฮร์รี่ เคน กองหน้าทีมชาติอังกฤษ ยังคงยิงประตูในพรีเมียร์ลีกไม่ได้มา 6 นัดติด เป็นสถิติที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ฤดูกาล 2015-16 หรือ 6 ปี
l สองทีมที่ยังไม่มีผลเสมอเกิดขึ้นเลยในซีซั่นนี้เหลือออยู่แค่ 2 ทีมนั่นก็คือ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่มีสถิติ ชนะ 4 แพ้ 3 และอีกทีมคือ วูล์ฟส์ สถิติชนะ 3 แพ้ 4
l ลีดส์ คว้าชัยนัดแรกของฤดูกาลได้สำเร็จแล้วหลังจากเปิดบ้านเฉือนชนะ วัตฟอร์ด 1-0ทำให้ตอนนี้มีทั้งหมด 4 ทีมที่ยังไม่ชนะใครนั่นคือ เซาแธมป์ตัน, เบิร์นลี่ย์, นิวคาสเซิ่ลและนอริช ซิตี้
l นอริช ซิตี้ เป็นทีมสุดท้ายของพรีเมียร์ลีก ที่ได้คะแนนแรกของฤดูกาล หลังจากบุกไปยันเสมอกับ เบิร์นลี่ย์ แบบลืมใส่รสดี 0-0 ที่เทิร์ฟ มัวร์
l อันดับดาวซัลโว โมฮาเหม็ด ซาลาห์ปีกของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทะยานนำด้วยการยิง 6 ประตู เท่ากับ เจมี่ วาร์ดี้ ดาวยิงฮอตแอนท์แห่ง เลสเตอร์ ซิตี้ และ มิคาอิล อันโตนิโอ ทำได้ 5 ประตู
l “สโมสรผึ้งน้อย”เบรนท์ฟอร์ด กลายเป็นน้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ เมื่อทำสถิติไร้พ่ายในเกมเยือน 4 นัดแรกของซีซั่นได้เป็นทีมแรกในรอบ 12 ปี
เมื่อมีสถิติชนะ 2 เสมอ 2 โดยเกมล่าสุดนี้บุกไปสอย เวสต์แฮม คาที่ 2-1 โดยทีมที่ทำได้ดีที่สุดก่อนหน้านี้คือ “เสือน้อย” ฮัลล์ ซิตี้ เมื่อฤดูกาล 2008-09
l ไมเคิ่ล โอลิเซ่ กลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดในรอบ 23 ปีของสโมสร หลังจากยิงให้ คริสตัล พาเลซ ด้วยวัย 19 ปี 295 วัน
l ปิดท้ายกลายเป็น “ฮอร์เนตส์”วัตฟอร์ด เป็นทีมแรกที่ประกาศไล่กุนซือออก “ซิสโก้”หรือ ฟรานซิสโก้ ฮาเวียร์ มูญอส ยอมพาร์ต ออกจากตำแหน่งกุนซือแล้ว หลังจาก ซิสโก้ รับงานที่วิคาเรจ โร้ด ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคมปีที่แล้ว แต่อยู่ไม่ถึง 10 เดือนก็ถูกปลดออกไป
ซิสโก้ คุมทีม 36 นัด ชนะ 21 เสมอ 4 แพ้ 11แต่เขาถูกโจมตีว่า ไร้ไอเดีย ไม่มีความเป็นผู้นำเท่าที่ควร และไม่มีแผนการทำงานที่ชัดเจนซึ่ง ตำแหน่งผู้จัดการทีมวัตฟอร์ดเหมือนโดนสาป นับตั้งแต่ ฆาบี การ์เซีย พาทีมเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ ปี 2019 ใช้โค้ชไปแล้วถึง 4 คนนั่นคือ 1.กีเก้ ซานเชซ ฟลอเรส : 84 วัน, 2.ไนเจล เพียร์สัน : 226 วัน, 3.วลาดิเมียร์ อีวิช : 126 วัน และ 4.ซิสโก้ : 286 วัน
วัตฟอร์ด อาจจะเหมือนกับ นอริช นั่นคือดีเกินไปในเดอะ แชมเปี้ยนชิพ
แต่อาจจะไม่ดีพอในพรีเมียร์ลีก...
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี