ลิเวอร์พูล โชว์ฟอร์มเก่งบุกชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 5-0 ในเกมที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทำแฮตทริก ขณะที่ ปอล ป็อกบา ลงสำรองได้ใบแดง ในฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดเมื่อ24 ตุลาคม2564 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ฟิตทันลงเล่นแนวรุกร่วมกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ส่วน ลิเวอร์พูล เลือกให้ อิบราฮิม่า โกนาเต้ ลงเล่นเกมรับ ส่วนแนวรุกมี โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ดิโอโก้ โชต้า เริ่มเกมมา 5 นาที ลิเวอร์พูล ออกนำรวดเร็วจากการต่อบอลกันสวยก่อนเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ รอจังหวะและไหลให้ นาบี เกอิต้า วิ่งเติมเข้าเขตโทษก่อนยิงด้วยขวาผ่านมือ ดาบิด เด เคอา เป็น 1-0 นาทีที่ 10 ผีแดงมีโอกาสบ้างเมื่อแรชฟอร์ด เบียดกับผู้เล่น ลิเวอร์พูล ก่อนได้ยิงด้วยขวาหน้าเขตโทษ บอลพุ่งแรงใช้ได้ แต่หลุดเสาออกหลังไปนิดเดียวลิเวอร์พูลยิงประตู 2-0 ได้ในนาที 13 จากการผิดพลาดในแนวรับของผีแดงที่ แม็กไกว์ กับ ชอว์ กั๊กกันเอง เกอิต้า จึงได้ไหลบอลให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เปิดจากขวากลับมาหน้าประตู โชต้า พุ่งชาร์จนิ่มๆ ไม่เหลือ
นาทีที่16 หงส์แดง ต้องเปลี่ยนตัวเมื่อ เจมส์ มิลเนอร์ บาดเจ็บจากจังหวะลื่นเองเสียหลัก เคอร์ติส โจนส์ จึงได้ลงมาเล่นแทน ผี มีโอกาสในนาที 29 บรูโน่ แฟร์นันด์ส จ่ายบอลให้ เมสัน กรีนวู้ด โยกแล้วยิงด้วยซ้าย แต่ อาลีสซง เบ็คเกอร์ ยังปัดเอาไว้ได้ มานาที 32 ซาลาห์ ได้จังหวะควบไปยิงมุมแคบหลังจากบอลกระฉอกเข้าทาง แต่ เด เคอา ออกมาปิดมุมดีทำให้บล็อกเอาไว้ได้ หงส์ นำห่าง 3-0 จนได้ในนาที 38 ที่มาจากการต่อบอลลื่นไหลอีกครั้งก่อนเป็น ซาลาห์ ยิงจังหวะแรกติดเซฟ บอลไปเข้าทาง เกอิต้า ตบจากขวากลับเข้ามาหน้าประตูให้ ซาลาห์ ยิงจ่อๆ โรนัลโด้ ได้ใบเหลืองหลังเบียดแย่งบอลกับ โจนส์ แล้วหัวเสียไปหวดทั้งบอลทั้งคนใส่กองกลางหงส์แดง ทดเจ็บ ลิเวอร์พูล หนีไปไกลเป็น 4-0 โชต้า ไหลบอลให้ ซาลาห์ ยืนยิงโล่งๆ ในเขตโทษฝั่งขวาส่งบอลเบียดเสาแรกเข้าไป และจบ 45 นาทีแรกที่สกอร์นี้ครึ่งหลังเริ่มได้ 4 นาที นาทีที่ 49 ลิเวอร์พูล ได้ประตูนำ 5-0 จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ได้บอลกลางสนามก่อนดีดตัดแนวรับ แมนฯ ยูไนเต็ด ให้ ซาลาห์ ควบเข้าเขตโทษก่อนดีดบอลสวนตัว เด เคอา เข้าไป กลายเป็นแฮตทริกของ ซาลาห์ ในเกมนี้
ผีแดงส่งบอลตุงตาข่ายได้ในนาที 52 แม็กไกวร์ ตักบอลไปให้ โรนัลโด้ ดูดบอลลงในเขตโทษก่อนโยกหนีผู้เล่นหงส์แดงแล้วยิงเสียบเสาไกลสวยงาม มีการเช็กวีเออาร์พบว่าดาวเตะทีมชาติโปรตุเกสล้ำหน้านิดเดียวสถานการณ์ของผีแดงเลวร้ายลงไปอีกในนาที 60 เมื่อเหลือผู้เล่น 10 คนหลัง ปอล ป็อกบา ที่เพิ่งลงสำรองครึ่งหลัง ถูกไล่ออกในจังหวะเสียบหนักใส่ เกอิต้า โดยตอนแรกผู้ตัดสินแจกใบเหลืองแต่มาเช็กวีเออาร์ก่อนเปลี่ยนเป็นใบแดง และจังหวะนี้ เกอิต้า ก็เจ็บจนถูกหามออก อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ได้ลงเล่นแทน จากนั้น ลิเวอร์พูล ก็ไม่ได้เร่งเครื่องมากนักแม้ตัวผู้เล่นมากกว่า โดยนาที 80 ซาดิโอ มาเน่ ที่ลงมาเป็นสำรองได้ยิงด้วยซ้ายในเขตโทษ แต่ติดบล็อก ผี น่าจะได้ประตูตีไข่แตกในนาที 83 จากฟรีคิกที่ ดีโอโก้ ดาโลต์ เปิดเข้าเขตโทษให้ แม็คโทมิเนย์ โหม่งย้อนให้ คาวานี่ ตวัดจ่อๆ ชนขา แอนดี้ โรเบิร์ตสัน แล้วไปชนคานอย่างจัง ช่วงเวลาที่เหลือ ไม่มีประตูเกิดขึ้นอีก จบเกม ลิเวอร์พูล บุกชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เหลือ 10 คนไปขาดลอย 5-0 รายชื่อ นักเตะทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา - อารอน วาน บิสซาก้า, วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ลุค ชอว์ - สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, เฟร็ด - เมสัน กรีนวู้ด, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด - คริสเตียโน่ โรนัลโด้
ลิเวอร์พูล : อาลีสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, นาบี เกอิต้า, เจมส์ มิลเนอร์ - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ดิโอโก้ โชต้า
แมตซ์นี้นับเป็นนัดที่ 236 ที่ดวลแข้งกันในทุกๆถ้วย ฝั่งหงส์ชนะ 79 แพ้ 89 เสมอกัน 68 เป็นหนแรกที่โม ซาลาห์ยิงแฮตทริกในฤดูนี้ นับเป็นชัยชนะในโอลด์แทร๊ฟฟอร์ดของหงส์แดงหนที่ 18 ในรอบ 127 ปีที่2ทีมแข่งขันกันมาตั้งแต่ปี วันที่ 28 เมษายน1894 ในแมตซ์อุ่นเครื่องของทั้ง 2 ทีม ขณะนั้นผีแดงใช้ชื่อทีมว่า นิวตัน ฮีท "หงส์แดง" เก็บชัยชนะในศึกแดงเดือดได้ขาดลอยที่สุดอีกนัดด้วยการบุกฝัง "ผีแดง" ถึงโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 5-0 ในเกมพรีเมียร์ลีก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม แต่มีผู้เล่นบาดเจ็บถึง 2 ราย ในครึ่งแรก เจมส์ มิลเนอร์ เสียจังหวะเองจนได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้อขาซ้ายและเล่นต่อไม่ไหวต้องส่ง เคอร์ติส โจนส์ ลงมาแทนในนาที 25 ส่วนในครึ่งหลัง นาบี เกอิต้า คนยิงประตูแรกของทีมก็เจ็บหนักถึงขั้นถูกหามใส่เปลออกจากสนามในนาที 60 หลังโดน ปอล ป็อกบา สไลด์เปิดปุ่มขาคู่เข้าใส่อย่างจังซึ่งกองกลางผีแดงก็ได้ใบแดงในจังหวะนี้หลังผู้ตัดสินไปเช็กวีเออาร์อีกรอบ ส่วน ฟาบินโญ่ กองกลางบราซิเลียนก็หลุดโผไม่มีชื่อทั้งตัวจริงและสำรองหลังบาดเจ็บหัวเข่าจากเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ ผีแดง ทำผลงานย่ำแย่อีกนัดในเกมพรีเมียร์ลีกนัดแดงเดือดเมื่อปล่อยให้ ลิเวอร์พูล นำห่างถึง 4-0 ในครึ่งแรก ทำให้ช่วงพักครึ่ง แฟนผีหลายคนตัดสินใจเดินออกจากสนาม ในต้นครึ่งหลัง สถานการณ์ของผีแดงก็ยังไม่ดีขึ้นเมื่อโดนหงส์แดงทะลวงประตู 5-0 แถม ปอล ป็อกบา ที่เพิ่งลงสำรองก็มาได้ใบแดงหลังเสียบหนักใส่ นาบี เกอิต้า หลังเป็นรองทั้งสกอร์และตัวผู้เล่น กล้องถ่ายทอดสดตัดภาพไปมุมสูงนอกสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ที่ได้เห็นแฟนผีจำนวนมากเดินออกจากสนามกลับบ้านหลังทีมรักหมดลุ้นแม้การแข่งขันจะเหลืออีกร่วมครึ่งชั่วโมงก็ตาม จากนั้นมีข่าวแพร่สะพัดทันทีว่า ตระกูลเกลเซอร์เจ้าของทีมอาจจะพิจารณาปลด "กุนซือ" ชาวนอร์เวย์อย่าง" โอเล กึนนา โซลชา" ต้องไปจากหน้าที่หลังแพ้คาบ้านหมดรูป ในแดงเดือด มีข่าวว่า แม้ผีแดง จะทาบทาม โค้ชอัลยีเรีย สัญชาติฝรั่งเสสคือ ซิเนอดีน ซีดาน แต่เขาปฏิเสธเพราะเขาไม่เข้าใจระบบฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ หากมาทำแล้วอาจจะเสียชื่อเสียงได้ง่ายๆนั่นเอง เป็นไปได้ว่า
ในเวลานี้ เบรนดอน ร็อดเจอร์ เฮดโค้ชของเลสเตอร์ซิตี้ชาวไอร์แลนด์เหนือ กลายเป็นตัวเต็งมากกว่าใครๆในการเข้ามาผ่าตัดผีแดง แต่เขามีค่าเงินที่จะต้องจ่ายให้ทีมจิ้งจอกสยาม มากโข ในวันนี้ ทางผีจะยอมจ่ายให้หรือไม่เท่านั้น หงส์นั้น คล๊อปป์กุนซือ เยอรมันถูกแฟนบอลหงส์มากกว่า100 ล้านคนสดุดีกันยกใหญ่ ที่เป็นทีมเงินน้อยเอาชนะผีแดงได้เช่นนี้ ส่วนซาลาห์เองนั้น ชื่อเขาดังไปทั่วแอฟริกา มากกว่าโรนัลโดและเมสซี่ แล้วเขาคือยอดนักเตะมุสลิมในพ.ศ.นี้จริงๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี