l กัลโช่ เซเรียอา อิตาลี
การลุ้นแชมป์สคูเด็ตโต้ส่วนใหญ่ลงเล่นไป 22-23 เกมทีมนำกลายเป็น “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน แชมป์เก่าภายใต้การคุมทีมของ ซิโมเน่ อินซากี้ 22 นัด ชนะ 16 เสมอ 5 แพ้ 1มีอยู่ 53 คะแนน
อันดับ 2 คือ นาโปลี ที่ผลงานแผ่วปลายหลังจากออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยมไม่แพ้ใครใน 12 เกมแรก ตอนนี้ลงเล่น 23 นัด ชนะ 15 เสมอ 4 แพ้ 4 มี 49 แต้มตามหลัง อินเตอร์ มิลาน 4 คะแนน และแข่งมากกว่า 1 นัด
อันดับ 3 เป็น “ปีศาจแดง-ดำ” เอซี มิลาน ที่ลงเล่นเท่ากับนาโปลี 23 เกม มีคะแนนเท่ากัน 49 แต้ม สถิติแพ้ชนะก็เหมือนกันเป๊ะ ชนะ 15 เสมอ 4 แพ้ 4 ขณะที่อันดับ 4 คืออตาลันต้า ของ จาน ปิเอโร่ กาสเปรินี่ ลงเล่นไป 22 เกมมี 43 คะแนนจากการชนะ 12 เสมอ 7 แพ้ 3
โซนท้ายตารางอันดับบ๊วยคือ น้องใหม่ อย่าง ซาแลร์นิตาน่าที่มีแค่ 11 คะแนน จากการลงเล่น 22 เกม รองบ๊วย คือ เจนัวที่ล่าสุดเปลี่ยนโค้ชมาแล้ว 4 รายผลงานก็ยังไม่ดีขึ้นมี 13 คะแนนจาก 23 นัด อันดับ 18 คือ “ชาวเกาะ” กายารี่ ของวอลเตอร์ มาซซารี่ มี 17 แต้ม จากการลงเล่น 23 เกม ตามหลังโซนปลอดภัยคืออันดับ 17 เวเนเซีย อยู่ 1 คะแนน
ส่วนอันดับดาวซัลโวล่าสุดผู้นำคือ ดูซาน วลาโฮวิชหัวหอกฟอร์มฮอตจาก “ม่วงมหากาฬ” ฟิออเรนติน่า ที่ซัดไปแล้ว 17 ประตู เท่ากับ ซิโร่ อิมโมบิเล่ จาก “อินทรีฟ้าขาว” ลาซิโอ้ ตามมาด้วย โจวานนี่ ซิเมโอเน่ จากเวโรน่า ที่กดไปแล้ว12 ประตู
l ลาลีกา สเปน
บอลกระทิงผ่านไปแล้ว 22 เกมผู้นำคือ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ผลงานถือว่าคงเส้นคงวาแม้ว่านัดล่าสุดจะไล่ตามตีเสมอ เอลเช่ 2-2 พวกเขาลงเล่นไปแล้ว 22 นัด ชนะ 15 เสมอ 5 แพ้ 2 มี 50 คะแนน
ตามมาด้วยอันดับ 2 เซบีญ่า ของฆูเลน โลเปเตกี ที่มี46 แต้มจาก 22 เกม ตามหลังอยู่ 4 คะแนน อันดับ 3 ค่อนข้างเซอร์ไพรส์กลายเป็น เรอัล เบติส จากแคว้นอันดาลูเซีย ที่โผล่พรวดขึ้นมาด้วยการมี 40 คะแนน มากกว่าอันดับ 4 อย่างแชมป์เก่า “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด ที่มีแค่ 36 แต้ม
เท่านั้น
“เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า มีอยู่ 35 แต้มจากการลงเล่น 21 เกม อยู่ในอันดับ 5 ไปอยู่ในส่วนของการดิ้นรนไปบอลยุโรปไปแล้ว
ในโซนหนีตกชั้น “ค้างคาวน้อย” เลบันเต้ ผลงานน่าเป็นห่วงสุดๆ 21 เกม ชนะได้แค่ 1 เสมอ 8 แพ้ไปถึง 12มีแค่ 11 แต้มเท่านั้นจมบ๊วยของตาราง อันดับ 19 คือเดปอร์ติโว่ อลาเบส มีอยู่ 17 คะแนน ตามหลังอันดับ 18 อย่าง กาดิซ อยู่ 1 แต้ม ส่วนโซนปลอยภัยคือ อันดับ 17 เรอัลมายอร์ก้า มี 20 คะแนน
ดาวซัลโวในตอนนี้ผู้นำคือ คาริม เบนเซม่า จากเรอัลมาดริด กดไป 17 ประตู ตามหลังมาด้วยคู่ซี้อย่าง วินิซิอุสจูเนียร์ ที่ทำไป 12 ประตูเท่ากับ ฆวนมี่ จากเรอัล เบติส และราอูล เด โตมาส จากเอสปันญ่อล
l บุนเดสลีกา เยอรมนี
“เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงกุนซือแต่พวกเขายังคงแข็งแกร่งลงเล่น 20 เกมมี 49 คะแนนตามด้วยอันดับสองอย่าง “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ที่มี 43 คะแนน ตามจ่าฝูงอยู่ 6 แต้ม กลายเป็นคู่นี้ที่มาชิงแชมป์กันอีกครั้ง
อันดับ 3 ค่อนข้างทิ้งระยะห่างกันพอสมควร เป็นของ “ห้างขายยา” ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ที่มี 35 แต้มจากการลงเล่น 20 เกม โดยมี อูนิโอน เบอร์ลิน ที่แข่งเท่ากันไล่ตามมาติดๆ มี 34 แต้ม
โซนท้ายตารางน้องใหม่ กรอยเธอร์ เฟือร์ธ เตรียมจองศาลาตกชั้นได้เลย เพราะผลงานย่ำแย่สุดๆ มี 10 แต้ม จาก20 เกม ห่างจากอันดับ 17 อย่าง “ม้าขาว” สตุ๊ตการ์ท ถึง8 แต้ม ส่วนอันดับ 16 ที่จะได้สิทธิ์เพลย์ออฟกับทีมจากลีกา 2คือ เอาก์สบวร์ก มีอยู่ 19 แต้ม
ที่น่าตกใจคืออันดับ 15 กลายเป็นของ “หมาป่า”โวล์ฟสบวร์ก ทีมที่ได้สิทธิ์ไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปีนี้ซะงั้นส่วนอันดับดาวซัลโว โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ จาก บาเยิร์นมิวนิค ที่กดไปแล้ว 23 ประตู ทิ้งอันดับ 2 อย่าง พาทริค ชีค จากเลเวอร์คูเซ่น ที่ยิงไป 18 ประตู ตามมาด้วย เออร์ลิ่ง เบร้าท์ฮาแลนด์ จากดอร์ทมุนด์ 16 ประตู
l ลีกเอิง ฝรั่งเศส
ผู้นำเป็น ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่หมายมั่นปั้นมืออยากจะทวงบัลลังก์คืนลงเล่นไป 22 เกม ชนะ 16 เสมอ 5 แพ้ 1 มี 53 แต้มอันดับ 2 คือ นีซ ลงเล่น 22 เกม ชนะ 13 เสมอ 4 แพ้ 5 มีอยู่42 แต้ม เรียกได้ว่าทิ้งกันถึง 11 คะแนน อันดับ 3 เป็นของโอลิมปิก มาร์กเซย ที่มีอยู่ 40 แต้ม จากการลงเล่น 21 นัด อันดับ 4ถือว่าเซอร์ไพรส์ไม่น้อยเพราะเป็น สตราส์บูร์ก ที่ก้าวขึ้นมามี35 คะแนนจากการลงเล่น 22 เกม แต่คะแนนตั้งแต่อันดับ 4 ไปจนถึง11 ค่อนข้างสูสีกันมาก เพราะตามหลังบวกลบแล้วไม่เกิน 3 แต้ม
ในโซนท้ายตาราง แซงต์ เอเตียน อดีตทีมที่เคยยิ่งใหญ่สถานการณ์ย่ำแย่รั้งบ๊วยของตารางมีอยู่ 12 คะแนนจากการลงเล่น 21 เกม พวกเขาตามหลัง ลอริยองต์ อันดับ 19 อยู่ 5 แต้มส่วนอันดับ 18 คือ เม็ตซ์ ที่มีอยู่ 19 คะแนน
ส่วนอันดับดาวซัลโวผู้นำคือ วิสซาม เบน เยดแดร์ ดาวยิงจาก โมนาโก ที่กดไปแล้ว 13 ประตู ตามมาด้วย โจนาธาน เดวิด จากลีลล์ 12 ประตู ขณะที่อันดับ 3 มี 4 คนคือ ลูโดวิซ อาฌอร์กง(สตราส์บูร์ก), คิลิยัน เอ็มบาปเป้ (เปแอสเช), มาแต็ง เตอร์ริเย่ร์(แรนส์) และอามีน กูอิรี่ (นีซ)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี