เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานแถลงข่าวความพร้อมในการจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับโลก รายการ "อะเมซิ่ง ไทยแลนด์มาราธอน แบงค็อก พรีเซ็นต์ บาย โตโยต้า" ครั้งที่ 4 หรือ "วิ่งผ่าเมือง" โดยมี นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม รองผู้ว่าการ ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล, นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ แจสุรภาพ ประธานกรรมการมาตรฐานการวิ่ง สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ, นายกอบเกียรติ แสงวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทยแลนด์ไตรลีก และผู้แทนภาคเอกชน ร่วมงานอย่างคับคั่ง
การแข่งขันครั้งนี้ ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติตยาภาฯ พร้อมเงินรางวัลรวม 1,729,500 บาท หลังจากที่ได้รับการอนุมัติจาก ผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร ให้จัดแข่งขันได้ แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดฯ อย่างเคร่งครัด โดยในปีนี้ กำหนดจัดงาน 2 วัน ในวันเสาร์ที่ 26 ก.พ. 65 แข่งระยะ 10 กม. 5 กม. ปล่อยตัว ณ โลหะปราสาท ถนนราชดำเนิน และวันอาทิตย์ที่ 27 ก.พ. 65 แข่งระยะ 42 กม. 21 กม. ปล่อยตัว ณ ราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก คาดมีนักวิ่งร่วมแข่งขันรวม 2 หมื่นคน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ กล่าวว่า ตนรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้มีโอกาสมาเป็นประธานในงานแถลงข่าวความพร้อมของการจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ได้รับการรับรองจากสมาคมกรีฑาโลก ให้เป็น 1 ในการแข่งขันมาราธอนในเมืองหลวงระดับต้นๆ ของโลก รายการ "อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อก พรีเซ็นต์ บาย โตโยต้า" ครั้งที่ 4 หรือ "วิ่งผ่าเมือง" ถือเป็นรายการวิ่งมาราธอนที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งในปี 2559 โดยได้มอบหมายให้ ททท. เป็นแม่งานหลัก ซึ่งตนขอชมเชยแก่ท่านผู้ว่าการ ททท. และคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขันทุกท่าน ที่สามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ของการจัดงานวิ่งในเมืองหลวงได้ด้วยดี จนทำให้รายการนี้ได้รับการยอมรับจาก World Athletics ให้เป็นรายการมาราธอนที่จัดขึ้นในเมืองหลวงระดับต้นๆ ของทวีปเอเชีย
"การแข่งขันครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงเหล่านักวิ่ง อาสาสมัคร เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่อื่นๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ด้วยการร่วมกันมาประกาศความพร้อมของการจัดงานในวันนี้ ผมขออวยพร ให้การดำเนินการจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับโลก "อะเมซิ่ง ไทยแลนด์มาราธอน แบงค็อก พรีเซ็นต์ บาย โตโยต้า" ครั้งที่ 4 ประสบความสำเร็จไปด้วยดี สามารถสร้างพลังขับเคลื่อนของกลุ่มผู้รักการออกกำลังกาย ให้หันกลับมาใส่ใจในสุขภาพของตัวเอง ซึ่งถือเป็นภูมิคุ้มกันโรคภัยไข้เจ็บได้ดีกว่าทุกสิ่งทุกอย่าง อีกทั้งยังเป็นการประกาศสู่ทั่วโลกว่าประเทศไทยสามารถที่จะจัดงานอีเว้นท์ระดับโลกได้ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19" นายพิพัฒน์กล่าว
รายการนี้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ พระราชทานถ้วยรางวัลของรายการจำนวนทั้งสิ้น 8 ถ้วย ได้แก่ ถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 2 ถ้วย
สำหรับผู้ชนะในประเภทบุคคลทั่วไปชาย และบุคคลทั่วไปชายไทย ระยะมาราธอน, ถ้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จำนวน 2 ถ้วย สำหรับผู้ชนะในประเภทบุคคลทั่วไปหญิง และบุคคลทั่วไปหญิงไทย ระยะมาราธอน และถ้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ จำนวน 4 ถ้วย สำหรับผู้ชนะในประเภทบุคคลทั่วไป ชายและหญิง ระยะฮาล์ฟมาราธอน และผู้ชนะในประเภทบุคคลทั่วไป ชายไทยและหญิงไทย ระยะฮาล์ฟมาราธอน นอกจากนี้การแข่งขันยังเป็นรุ่นกลุ่มอายุต่างๆ โดยมีถ้วยรางวัลให้ชิงชัยกันทั้งสิ้น จำนวน 200 รางวัล มีเงินรางวัลรวมเป็นเงิน 1,729,500 บาท คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมการแข่งขัน ทั้งสิ้นประมาณ 20,000 คน จากยอดผู้สมัคร 26,500 คน โดยแบ่งเป็นระยะ 10 กม. และ 5 กม. ในวันเสาร์ที่ 26 ก.พ. จำนวน 7,000 คน และระยะ 42.195 กม. และระยะ 21.1 กม. ในวันอาทิตย์ที่ 27 ก.พ. อีกจำนวน 13,000 คน
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี