วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / กีฬา
‘ซูเปอร์เสี่ย’เดอะ ซีรี่ส์  เชลซี-เสี่ยหมี-ชีวิต-ฟุตบอล

‘ซูเปอร์เสี่ย’เดอะ ซีรี่ส์ เชลซี-เสี่ยหมี-ชีวิต-ฟุตบอล

วันอาทิตย์ ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2565, 06.15 น.
Tag :
  •  

เป็นข่าวที่น่าตกใจ และน่าสนใจยิ่ง เมื่อ “เสี่ยหมี” โรมัน อบราโมวิช ประกาศที่จะขาย “สิงห์บลูส์” เชลซี

เป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าแบรนด์ของเชลซีเติบโตและเป็นที่รู้จักไปค่อนโลก มาจากการทำงานของ อบราโมวิช


19 ปี กับการเป็นแชมป์มากมาย 19 รายการ และท้าทายบัลลังก์จาก “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างเต็มตัว ยิ่งกว่า “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ด้วยซ้ำไป เพราะ เชลซี ยืนหยัดได้ยาวนานกว่า

ก่อน โรมันในคราบรัสเซีย จะแลนดิ้งที่เคนซิงตัน สถิติชี้ชัดว่า เชลซี เป็นแชมป์ลีกได้หนเดียว และกลายเป็นทีมที่มี“แฟชั่น” มากกว่า “แพชชั่น” ในยุคปลายทศวรรษที่ 90 ต่อด้วยยุคมิลเลนเนียม เพราะผู้เล่นต่างชาติที่เข้ามานั้น ถ้าไม่ใกล้ปลดระวาง ก็เป็นประเภทไฟกำลังจะมอด

สุดท้าย โรมันเปลี่ยนทุกอย่างตั้งแต่ซีซั่นแรกที่มาถึง และทำให้ เชลซี กลายเป็นมหาอำนาจได้อย่างรวดเร็วยิ่งกว่าเนรมิต

ทุกคนคิดว่าเขาจะ “ขายทีมทิ้ง” หลังจากครองเจ้ายุโรป ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2012 แต่กลายเป็นว่า เขาเลือกที่จะอยู่ต่อนั่นเป็นการตอกย้ำว่า นอกจากรวยแล้วต้องชอบด้วย

 

 

สุดท้าย อบราโมวิช ต้องประกาศขายสิ่งที่เขารักอย่างอาวรณ์ หลังจากถูกกดดันอย่างหนักเนื่องจากมีความสนิทสนมกับ วลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ซึ่งส่งกองกำลังเข้ารุกราน ยูเครน

เป็นการ “เปิดแผล” ที่ร้าวรานมานานสี่ซ้าห้าปี ตั้งแต่รัฐบาลอังกฤษ กับรัฐบาลรัสเซีย ทำให้ “ซูเปอร์เสี่ย” ไม่ได้รับวีซ่าเข้าเกาะยูเค

ทุกอย่างเลื่อนไปหมด ทั้งการลงทุนซื้อนักเตะ รวมไปถึงการทุ่มทุนสร้างเดอะ บริดจ์ ที่เดิมแต่จะปรับปรุงใหม่ให้ใหญ่โต

การตั้งราคา 3 พันล้านปอนด์ (ราว 132,000 ล้านบาท) จนมีเครื่องหมายคำถามที่ว่าเมื่อ โรมัน ไม่อยู่จริงๆ แล้ว

Live after Roman จะเกิดอะไรขึ้น

แต่ที่แน่ๆ จะหาคนแบบนี้ รวยแบบนี้ บ้าบอลแบบนี้......ที่ไหนกันล่ะหรือ!!!

 

 

l ปีแรกก็จ่ายแหลกลาญ

จำได้หรือไม่ ตามตัวเลขการเดินทางเข้ามาของ “เสี่ยหมี” นั่นคือ ปี 2003 และลุยตลาดซัมเมอร์นั้นทันทีถึง 14 คนด้วยกัน!!!

นักบอลที่ออกไปก็คือ จิอันฟรังโก้ โซล่า ปิดตำนาน 7 ปีที่เดอะ บริดจ์ กลับอิตาลี ด้วยวัย 37 ปี ไปอยู่กับ กายารี่, โจดี้ มอร์ริส ย้ายไป ลีดส์ ตาม เคน เบตส์ ประธานเก่า, แกรม เลอ โซ
ไปทิ้งทวนกับ เซาแธมป์ตัน และนายประตูดัทช์อย่าง เอ๊ด เด ฮุย ไปอยู่สโต๊ค

14 แข้งที่ดึงตัวมา รวมแล้วเป็นเงินสด 121 ล้านปอนด์ โดย 12 คนต้องจ่าย อีกสองคนฟรี

ดึงประตูมา 3 คน นั่นคือ นีล ซุลลิแวน จากสเปอร์ส5 แสนปอนด์ บวกกับ 2 ตัวฟรี คือ เยอร์เก้น มาโช่ จากซันเดอร์แลนด์ และมาร์โก้ อัมโบรซิโอ จากคิเอโว่

กองหลังรักษา จอห์น เทอร์รี่ เอาไว้ได้อย่างจวนเจียน เพราะเจ้าตัวทำท่าจะขึ้นเหนือ และเติมแบ๊กสองฝั่ง คือ เกล็น จอห์นสัน ดาวรุ่งทางขวาของเวสต์แฮม 6 ล้าน และเวย์น บริดจ์ ทางซ้ายจากเซาแธมป์ตัน 7 ล้าน

กองกลางได้แข้งรัสเซีย อเล็กเซ สเมอร์ติน จากบอร์กโดซ์ 3.4 ล้าน, จอมอึด เฌเรมี่ ไนจ์แทป(หรือ เอ็นจิตั๊ป) จากเรอัล มาดริด 7 ล้าน, ดึงตัว ฮวน เวรอน ที่ล้มเหลวกับแมนฯยูไนเต็ด ราคา 15 ล้าน, “รังนกปากกา” สก็อตต์ ปาร์คเกอร์ จากชาร์ลตัน 10 ล้าน และจั๋งหนับสุด ๆ คงไม่พ้น โคล้ด มาเกเลเล่ จากเรอัล มาดริด 16 ล้าน

ได้นักบอลเชิงรุก เดเมี่ยน ดัฟฟ์ ปีกซ้ายไอริช จากแบล็คเบิร์น 17 ล้าน กับ โจ โคล ดาวรุ่งที่เล่นเกมรุกได้หลาก
ตำแหน่งจากเวสต์แฮม 6.6 ล้าน

ขณะที่กองหน้าคว้า เอร์นาน เครสโป หอกอาร์เจนไตน์ มาจากอินเตอร์ มิลาน 16.8 ล้านปอนด์ และเอเดรียน มูตู จากโรมาเนีย ที่เล่นกับ ปาร์ม่า 15.8 ล้าน

เชลซี จบซีซั่นได้อันดับ 2 แต่เป็นรองแชมป์ไร้พ่ายอย่าง อาร์เซนอล 11 คะแนน

เข้ารอบตัดเชือกแชมเปี้ยนส์ลีก แต่แพ้ โมนาโก

รานิเอรี่ โดนปลดจากตำแหน่ง และเสี่ยก็ไป “ไฮแจ๊ค” ตัวของ โชเซ่ มูรินโญ่ เข้ามาแทน

 

 

l การจ่ายเงินชดเชยบันลือโลก

นับตั้งแต่ปี 2003 ที่ “ซูเปอร์เสี่ย” เข้ามาถือบังเหียน มีกุนซือในยุคของเขา

เคลาดิโอ รานิเอรี่ ทำงานอยู่ก่อนหน้านั้น ก่อนจะเลือกโชเซ่ มูรินโญ่ เป็นกุนซือเมื่อปี 2004 และทำงานถึง 2 รอบ

ต่อด้วย อัฟราม แกรนท์, หลุยส์ เฟลิปเป้ สโคลารี่, คาร์โล อันเชล็อตติ, อังเดร วิลลาช-โบอาส, โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ,
อันโตนิโอ คอนเต้, เมาริซิโอ ซาร์รี่, แฟรงค์ แลมพาร์ด จูเนียร์ และโธมัส ทูเคิ่ล คืนคนล่าสุด

กุนซือชั่วคราว กุส ฮิดดิ้งค์ 2 รอบ, ราฟา เบนิเตซ และสตีฟ ฮอลแลนด์

เขาจ่ายเงิน 95.9 ล้านปอนด์ ในการฉีกสัญญาเพราะปลดผู้จัดการทีม!!!!

แพงสุดคือ โชเซ่ มูรินโญ่ เดือนกันยายน 2007 จ่ายไป 18 ล้านปอนด์ ตามด้วย หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ กุมภาพันธ์ 2009 จ่ายไป 12.6 ล้านปอนด์ และ อันเดร วิลลาส-โบอาส มีนาคม 2012 จ่าย 12 ล้านปอนด์

l การใช้เงินของเสี่ย-กำไรแค่ 4 ซีซั่น

การลงทุนคือหัวใจสำคัญในการนำ เชลซี บรรลุถึงเป้าหมาย และในช่วงที่ไม่มีกฎการซื้อ “ซูเปอร์เสี่ย” ทำอย่างเต็มที่ เพื่อให้ทีมเดินหน้ามาถึงจุดสูงสุด

มันมาจากการทุ่มเท

ผมรวบรวมสถิติการซื้อขายของ เชลซี ตั้งแต่การเข้ามาของ “ซูเปอร์เสี่ย” ปรากฏว่า มีอยู่แค่ 4 ฤดูกาลเท่านั้นที่ รายได้บวกมากกว่าลบเฉพาะในการซื้อนักบอล

2003-04 : ซื้อ 121.15 ล้านปอนด์ ขาย 500,000 ปอนด์

2004-05 : ซื้อ 94.4 ล้านปอนด์ ขาย 2.2 ล้านปอนด์

2005-06 : ซื้อ 58.4 ล้านปอนด์ ขาย 22.6 ล้านปอนด์

2006-07 : ซื้อ 56.6 ล้านปอนด์ ขาย 31 ล้านปอนด์

2007-08 : ซื้อ 43.7 ล้านปอนด์ ขาย 25 ล้านปอนด์

2008-09 : ซื้อ 24.6 ล้านปอนด์ ขาย 34.9 ล้านปอนด์ (กำไร)

2009-10 : ซื้อ 23 ล้านปอนด์ ขาย 10.85 ล้านปอนด์

2010-11 : ซื้อ 101.3 ล้านปอนด์ ขาย 13.7 ล้านปอนด์

2011-12 : ซื้อ 81.2 ล้านปอนด์ ขาย 24.85 ล้านปอนด์

2012-13 : ซื้อ 86.2 ล้านปอนด์ ขาย 20 ล้านปอนด์

2013-14 : ซื้อ 108.4 ล้านปอนด์ ขาย 56.1 ล้านปอนด์

2014-15 : ซื้อ 108.6 ล้านปอนด์ ขาย 112.8 ล้านปอนด์(กำไร)

2015-16 : ซื้อ 68 ล้านปอนด์ ขาย 60 ล้านปอนด์

2016-17 : ซื้อ 118.2 ล้านปอนด์ ขาย 100.4 ล้านปอนด์

2017-18 : ซื้อ 252.3 ล้านปอนด์ ขาย 176.8 ล้านปอนด์

2018-19 : ซื้อ 190.3 ล้านปอนด์ ขาย 69.1 ล้านปอนด์

2019-20 : ซื้อ 41.1 ล้านปอนด์ ขาย 159.7 ล้านปอนด์(กำไร)

2020-21 : ซื้อ 222.6 ล้านปอนด์ ขาย 68.4 ล้านปอนด์

2021-22 : ซื้อ 102 ล้านปอนด์ ขาย 144 ล้านปอนด์(กำไร)

l เกิดมาเพื่อกันและกัน

นับตั้งแต่ โรมัน ซื้อ เชลซี จาก เคน เบตส์ เมื่อปี 2003 ในราคาไม่ต่ำกว่า 140 ล้านปอนด์ และในยุคของเขาที่รวยจริง บวกกับการชอบทีมจริงจัง ทุ่มเงินไม่อั้นพร้อมกับพา เชลซี คว้าแชมป์มากมาย

ถือเป็นต้นแบบในการเทคโอเวอร์

พร้อมกับเนรมิตการเป็นแชมป์ให้กับ เชลซี กลายเป็นทีมที่แข็งแกร่งทั้งในสนาม และนอกสนาม แบรนด์ของพวกเขากลายเป็นที่รู้จัก แถมยังกลายเป็นมหาอำนาจลูกหนังของประเทศ รวมถึงผงาดแชมป์ระดับทวีป รวมถึงเป็นแชมป์สโมสรก่อนที่เขาจะขายทีม

สรุปแชมป์ของเชลซี ในยุคโรมัน พรีเมียรลีก อังกฤษ 5 สมัย : (2004-2005, 2005-06, 2009-10, 2014-15 และ 2016-17), เอฟเอ คัพ 5 สมัย : (2006-07, 2008-09, 2009-10,2011-12 และ 2017-18), ลีก คัพ: 3 สมัย : (2004-05, 2006-07 และ 2014-15), เอฟเอ คอมมูนิตี้ ชิลด์ 2 สมัย : (2005 และ 2009), ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 สมัย : (2011-12 และ 2020-21), ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก 2 สมัย : (2012-13 และ2018-19), ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 1 สมัย : (2021) และ ชิงแชมป์สโมสรโลก 1 สมัย : (2021)ถ้าย้อนกลับไปก่อนที่ “ซูเปอร์เสี่ย” จะแลนดิ้ง นั้น ตลอด 98 ปีก่อนหน้า เชลซีได้แชมป์ลีกสูงสุดหนเดียวคือ 1954-55, เอฟเอ คัพ 3 ครั้ง 1969-70, 1996-97 และ 1999-2000, แชมป์ลีกคัพ 2 สมัย 1964-65 กับ 1997-98, แชมป์คัพ วินเนอร์สคัพ 2 สมัย 1970-71 กับ 1997-98 และซูเปอร์คัพ ปี 1998

สรุปง่ายๆ แทบจะคนละเรื่องกันเลยทีเดียว!!!

l ไปต่อไม่ได้-แล้วใครจะมา

เมษายน ปี 2018 อังกฤษ ไม่ตอบรับการต่อวีซ่าใหม่ให้ โรมัน มีการคาดเดากันว่า อาจเป็นเพราะเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของ อังกฤษ และ รัสเซีย อยู่ในภาวะตึงเครียด

เวลานั้น ข่าวการวางยาพิษ เซอร์เกย์
สกรีปัล อดีตสายลับหมีขาว ที่อาศัยอยู่ในอังกฤษเมื่อเดือนมีนาคม 2018 และทางการเชื่อว่า รัสเซีย อยู่เบื้องหลัง

บวกกับการที่ อบราโมวิช มีความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนกับ วลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีของ รัสเซีย จากการเผยแพร่รายชื่อของ สหรัฐอเมริกา อาจเป็นอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้ทางการของ อังกฤษ ดึงเรื่องการต่อวีซ่าให้ล่าช้ามากขึ้น

มาหนนี้ไม่เพียงแค่ 2 ชาติ และประเด็นหลักคือ รัสเซีย บุก ยูเครน

เมื่อทุกคนรู้ดีว่า โรมัน สนิทกับ ปูติน มาตั้งแต่ ปูติน ยังไม่เป็นผู้นำสูงสุด เช่นเดียวกันกับ โรมัน ยังไม่มาลงทุนที่เชลซี
ทุกคนจับจ้องเรื่องที่ ปูติน เอื้อให้ โรมัน ได้สัมปทานมากมายในด้านพลังงาน, เครื่องอุปโภค-บริโภค และการคมนาคม

จึงไม่แปลกอะไรเมื่อ โรมัน จะโดนหมายหัว

ทีนี้น่าสนใจว่า ใครจะมาคุมทัพพื้นที่ตรงนี้

ตัวเต็งเบอร์แรกที่จะเข้ามาเป็นเจ้าของทีมคนใหม่ของ เชลซี แทนเสี่ยหมี คนแรก เซอร์จิม อาร์เธอร์ แรตคลิฟฟ์ หรือ (Sir James Arthur Ratcliffe) วัย 69 ปี เป็นชาวอังกฤษ เป็นประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของกลุ่มเคมีภัณฑ์ Ineos รวยสุดอันดับ 55 ของโลก และอันดับ 2 ของสหราชอาณาจักร

แต่ปฏิเสธไปเรียบร้อย

คนต่อมา คือ ฮันส์ยอร์ก วิสส์ (Hansjörg Wyss) ชาวสวิตเซอร์แลนด์ วัย 86 ปี เป็นมหาเศรษฐีใจบุญ เป็นจอมบริจาค และข้อมูลล่าสุดคือ ซื้อที่ 900 เอเคอร์ ซื้อที่ทำปศุสัตว์ กับ ไร่องุ่น ที่แคลิฟอร์เนีย โดยปีก่อน บลูมเบิร์ก ระบุรวยสุดอันดับ 235 ของโลก

มีกระแสอีกรายก็คือ มูห์ซิน บายรัค มหาเศรษฐีชาวตุรกี เป็นประธานของ เอบี โฮลดิ้ง กรุ๊ป บริษัทที่ลงทุนทั้งด้านพลังงาน, การขุดเหมือง และสกุลเงินคริปโต คาดว่ามีสินทรัพย์ 7.6 พันล้านปอนด์

นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอจากมหาเศรษฐีที่ไม่เปิดเผยชื่อ จำนวน 2.5 พันล้านปอนด์ รวมไปถึง คอเนอร์ แม็คเกรเกอร์ อดีตแชมป์โลกการต่อสู้แบบผสมผสาน หรือ มิกซ์ มาร์เชียล อาร์ต (MMA) ยื่นมา 1,500 ล้านปอนด์

เขาตั้งราคาขายไว้ 3,000 ล้านปอนด์ ทำให้ทุกข้อเสนอไม่ผ่าน

โจ ราวิตช์ ผู้ร่วมก่อตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนเรนท์ กรุ๊ป แอลแอลซี เป็นผู้รับผิดชอบในการหาเจ้าของรายต่อไปของเชลซี ยืนยันว่า ไม่ใช่ราคาที่เหมาะสม หรือมีเงินเพียงอย่างเดียวแล้วจะซื้อทีมได้

แต่จะต้องมีวิสัยทัศน์ในการนำพาทีมก้าวไปข้างหน้าอีกด้วย

ซึ่งไม่ง่ายแน่นอน!!!!

_____ บี แหลมสิงห์ _____

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ครั้งประวัติศาสตร์!อังกฤษลุยถ้วยใหญ่ยุโรป6ทีม ครั้งประวัติศาสตร์!อังกฤษลุยถ้วยใหญ่ยุโรป6ทีม
  • ปรีวิว-ฟันธง!ผีเปิดรังดวลบิลเบาจ่อชิงยูโรป้า ปรีวิว-ฟันธง!ผีเปิดรังดวลบิลเบาจ่อชิงยูโรป้า
  • ได้คู่ชิงถ้วยยุโรป!‘เปแอสเช’ย้ำชัยปืนลิ่วดวลอินเตอร์ ได้คู่ชิงถ้วยยุโรป!‘เปแอสเช’ย้ำชัยปืนลิ่วดวลอินเตอร์
  • ปรีวิว-ฟันธง! ปืนพิงฝาบุกปารีสลุ้นชิงยุโรป ปรีวิว-ฟันธง! ปืนพิงฝาบุกปารีสลุ้นชิงยุโรป
  • 3กำปั้นดังนำทัพ!มวยไทยตะลุยสก็อตแลนด์ 3กำปั้นดังนำทัพ!มวยไทยตะลุยสก็อตแลนด์
  • สุดยอดแมตช์! งูพลิกนรกต่อเวลาโค่นบาร์ซ่า4-3เข้าชิงถ้วยยุโรป สุดยอดแมตช์! งูพลิกนรกต่อเวลาโค่นบาร์ซ่า4-3เข้าชิงถ้วยยุโรป
  •  

Breaking News

มิตรภาพแน่นแฟ้น! 'ปูติน-สี จิ้นผิง'ร่วมชมขบวนพาเหรดวันแห่งชัยชนะ

อดทนต่อคำปรามาส! 'นิพิฏฐ์'ขอบคุณทุกฝ่าย ยืนหยัดต่อสู้'คดีชั้น 14'

มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 9-15 พ.ค.68

(คลิป) แนวหน้าTAlk : 'กูพูดไม่ได้' ย้อนอดีตเพื่อนรัก สุรนันทน์ ถึง บุญทรง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved