การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก ได้ทีมผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายไปแล้ว 29 ประเทศ ส่วนอีก 3 ที่ว่างจะไปเตะเพลย์ออฟกันอีก 5 เกมในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งพิธีจับสลากการแข่งขันจะมีขึ้นในวันที่ 1 เมษายนนี้ โดยบทสรุปต่างๆ ที่น่าสนใจมีดังนี้
l โซนยุโรป
การเตะเพลย์ออฟได้อีก 2 ทีมเข้ารอบเพิ่มในโซนนี้ หลังจาก“ฝอยทองผยองเดช” โปรตุเกส ตีตั๋วเข้าสู่รอบสุดท้าย หลังจากเปิดบ้านที่ดราเกา เอาชนะจอมพลิกล็อกอย่าง นอร์ท มาซิโดเนียลงได้ 2-0 จากการเหมายิงของ บรูโน่ เฟอร์นานเดส กองกลางตัวสำคัญ ทำให้ทีมตีตั๋วเป็นสมัยที่ 8 นับเป็นสมัยที่ 6 ติดต่อกันอีกด้วย
ภายหลังเกม เฟอร์นานโด ซานโต๊ส กุนซือโปรตุเกส ประกาศตั้งเป้าในการเป็นแชมป์โลก เพราะตอนนี้เราได้แชมป์กันมาแล้ว 2 รายการนั้นคือ ยูโร 2016 และเนชั่นส์ลีก 2019 จึงไม่แปลกที่เราจะคิดถึงแชมป์ที่ 3 นั่นคือแชมป์ฟุตบอลโลก
ขณะที่ “อินทรีขาว” โปแลนด์ เล่นในบ้านบดชนะ สวีเดน ลงได้ 2-0 ได้ไปฟุตบอลโลก สมัยที่ 9
ส่วนอีก 1 โควตาของโซนยุโรป จะเตะกันในเดือนมิถุนายนนี้ “มังกรแดง” เวลส์ รอพบผู้ชนะระหว่าง “วิสกี้” สกอตแลนด์ หรือ ยูเครน
l โซนแอฟริกา
การดวลแข้งโซนกาฬทวีป นัดสอง รอบ 3 น็อกเอาท์สเตจจบลงด้วยการได้ 5 ทีมผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย 5 ทีมเข้ารอบคือ เซเนกัล ไปบอลโลกสมัยที่ 3, กานา สมัยที่ 4, แคเมอรูน สมัยที่ 8, โมร็อกโก สมัยที่ 6 และตูนิเซีย สมัยที่ 6
ผลการดวลแข้งคือ เซเนกัล ชนะ อียิปต์ 1-0 สกอร์รวมสองนัด 1-1 ก่อนดวลจุดโทษ เซเนกัล ชนะ 3-1, ไนจีเรีย เสมอ กานา 1-1สกอร์รวมสองนัด 1-1 กานา เข้ารอบด้วยกฎอเวย์โกล์, แอลจีเรีย แพ้ แคเมอรูน 0-1 ทำให้สกอร์รวมเสมอ 1-1 ต่อเวลาพิเศษ แคเมอรูน ชนะ 2-1 สกอร์รวมสองนัด 2-2 แคเมอรูน เข้ารอบด้วยกฎอเวย์โกล์, โมร็อกโก ชนะดีอาร์ คองโก 4-1(สกอร์รวมสองนัด โมร็อคโก ชนะ 5-2) และตูนิเซีย เสมอ มาลี 0-0 (สกอร์รวมสองนัด ตูนิเซีย ชนะ 1-0)
ในเกมบิ๊กแมทช์ที่เดียมเนียดิโอ โอลิมปิก สเตเดี้ยม ดาการ์ ซึ่ง เซเนกัล ย้ำแค้น อียิปต์ อีกครั้งด้วยการยิงจุดโทษชนะ หลังจากเพิ่งกำชัยด้วยการดวลเป้าคว้าแชมป์แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ มาหมาดๆ เมื่อเดือนก่อน ปรากฏว่าก่อนแข่ง สมาคมฟุตบอลอียิปต์ ได้แจ้งไปยัง สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า และ สหพันธ์ฟุตบอลแอฟริกา หลังจากรถบัสของทีม ถูกขว้างปาด้วยของแข็งจนทำให้กระจกรถเสียหาย จากนั้นในช่วงวอร์มอัพ ก็ถูกแฟนบอลขว้างปาขวดน้ำเข้าใส่นักเตะ พร้อมกับมีการโพสต์ภาพด่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่เป็นเป้าหมายสำคัญ
จากนั้นก็มียิงเลเซอร์ใส่หน้านักเตะอียิปต์ โดยเฉพาะช่วงเวลาการยิงจุดโทษ ซึ่ง ซาลาห์ เป็นเป้าหมายโดยตรง ต่อด้วยช่วงที่จบเกม มีแฟนบอลพยายามเข้าไปให้ถึงตัว ซาลาห์ โดยไม่มีใครทราบว่า มีเจตนาอะไรกันแน่ แต่ในช่วงที่เจ้าหน้าที่นำตัว ซาลาห์ ออกจากสนามนั้น มีการขว้างปาสิ่งของใส่ ซาลาห์ อีกด้วย ซึ่งการยิงเลเซอร์มีการวิพากษ์วิจาณ์อย่างกว้างขวาง เนื่องจากฝั่งเซเนกัล ก็ระบุว่า เคยโดนแบบนี้มาตลอดในเกมที่เจอกับ อียิปต์ จึงต้องการเอาคืน
ในเกมที่โมชูด อบิโอลา เนชั่นแนล สเตเดี้ยม กรุงลากอส “อินทรีมรกต” ไนจีเรีย ที่พลาดตั๋วครั้งแรกรอบ 16 ปี ด้วยการหล่นอเวย์โกล์ ทำให้แฟนบอลไนจีเรีย จำนวนหนึ่งเดือดดาลอย่างที่สุด ลงไปเพื่อหวังทำลายเก้าอี้ม้านั่งสำรอง รวมถึงเสาประตู ขณะเดียวกัน แฟนบอลกานา ก็ลงไปในสนามเช่นเดียวกันเพื่อจะฉลองชัย ก่อนจะมีการปะทะกันแต่ตำรวจเข้ามาสลายความวุ่นวายด้วยการฉีดแก๊สน้ำตา
ส่วนเกมระหว่าง แคเมอรูน ที่บุกไปทุบ แอลจีเรีย ถึงถิ่นสุดดราม่า 2-1 นั้น เอริค มักซิม-ชูโป โมติง ยิงให้แคเมอรูนชนะในเวลา 1-0 รวมสองเกมเสมอกัน 1-1 ทำให้ต้องต่อเวลา ก่อนที่ อาเหม็ด ตูบา จะยิงประตูตีเสมอให้เจ้าถิ่นนาทีที่ 118แต่แล้ว โตโก เอคัมบี้ แกนรุกจาก ลียง ก็มาพังประตูชัยในนาทีที่ 124 ทำให้จบเกม แคเมอรูน ชนะ 2-1 รวม 2 นัดเสมอ 2-2 แต่ แคเมอรูน เข้ารอบด้วยอเวย์โกล์
l โซนอเมริกาใต้
เปรู ได้ตั๋วเพลย์ออฟ หลังจากเปิดบ้านพิชิต ปารากวัย 2-0 คว้าอันดับ 5 มาครอง ทำให้สองทีมดังอย่าง โคลอมเบีย ของ หลุยส์ ดิอาซ กับจอมเก๋าอย่าง ชิลี จบอันดับ 6 กับ 7 ต้องอยู่บ้านในฐานะผู้ชม
โซนนี้ทีมเข้ารอบคือ บราซิล, อาร์เจนตินา, เอกวาดอร์และอุรุกวัย
l โซนเอเชีย
สายเอ จบลงด้วยการที่ อิหร่าน ได้เป็นแชมป์กลุ่ม 25 คะแนนตามมาด้วย เกาหลีใต้ 23 คะแนน กอดคอกันเข้ารอบ ขณะที่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มี 12 คะแนน ได้เตะเพลย์ออฟชิงพื้นที่ตั๋วอีกครึ่งใบกับ ออสเตรเลีย ที่จบอันดับ 3 จากสาย บี
ซึ่งในสาย บี ซาอุดีอาระเบีย เร่งเครื่องกลับมาเป็นแชมป์กลุ่มได้สำเร็จ ด้วยการมี 23 คะแนน เฉือน ญี่ปุ่น ที่เสมอ เวียดนาม ในนัดสุดท้ายไปแค่แต้มเดียว แต่ทั้ง ซาอุฯ กับ ญี่ปุ่น ก็เข้ารอบทั้งคู่
l รถด่วนขบวนสุดท้าย
รอบคัดเลือก เหลือตั๋วให้ล่าอีก 3 ใบสุดท้าย กับ 5 เกมที่เหลือนับจากนี้
เริ่มจากเพลย์ออฟ โซน ยุโรป รอบรองชนะเลิศ 1 คู่ระหว่าง สกอตแลนด์ พบกับ ยูเครน แข่งที่กลาสโกว์ และคู่ชิงแข่งที่มิลเลนเนี่ยม สเตเดี้ยม กรุงคาร์ดิฟฟ์ “มังกรแดง” เวลส์ ไปยืนรออยู่แล้ว
ทั้งสองเกมจะแข่งขันเดือนมิถุนายน แต่ยังไม่กำหนดวันเวลาที่แน่นอน
ขณะที่ เพลย์ออฟ โซนเอเชีย เป็นการพบกันระหว่าง “เศรษฐีทะเลทราย” สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กับ “จิงโจ้”ออสเตรเลีย เพื่อชิงอันดับที่ 5 ของเอเชีย ในการล่าตั๋วไปเตะเพลย์ออฟจะแข่งขันในวันที่ 7 มิถุนายน ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์
จากนั้นจะเป็นการเตะเพลย์ออฟ อินเตอร์คอนเฟเดอเรชั่นส์วันที่ 13 กับ 14 มิถุนายน เตะที่กาตาร์ แบบนัดเดียวจอดมีทั้งหมด 2 นัด ประกอบด้วย คอสตาริกา(คอนคาเคฟ) VS นิวซีแลนด์(โอเชียเนีย) และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ ออสเตรเลีย(เอเชีย) VS เปรู(อเมริกาใต้)
l พิธีจับสลากที่ต้องจับตามอง
พิธีจับสลากฟุตบอลโลก จะมีขึ้นที่โดฮา เอ็กซิบิชั่น แอนด์ คอนเวนชั่น เซนเตอร์ (ดีอีซีซี) ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ โดยมีซูเปอร์สตาร์กัปตันทีมแชมป์โลก มาร่วมงาน นั่นคือ “ซูเปอร์แมน”โลธาร์ มัทเธอุส กัปตันทีมชาติเยอรมันตะวันตก แชมป์ปี 1990 และ คาฟู กัปตันทีมแชมป์โลกกับ บราซิล ปี 2002 นำทัพในเวลา 23.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
การแบ่งสายในครั้งนี้ยังคงเหมือนเดิม นั่นคือ มีทั้งหมด8 สาย สายละ 4 ทีม การจับสลากจะแบ่งออกเป็น 4 โถตามลำดับเรียงจากแรงกิ้งฟีฟ่าที่สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2022
ทีมวางในโถแรกทั้งหมด 8 ทีม ประกอบด้วย กาตาร์ ในฐานะเจ้าภาพ, เบลเยียม, บราซิล, ฝรั่งเศส, อาร์เจนตินา, อังกฤษ, สเปน และ โปรตุเกส
บี แหลมสิงห์