“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดแอนฟิลด์ กะซวก “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขาดลอย 4-0 ขยับขึ้นนำจ่าฝูงได้สำเร็จแบบ “ข้ามคืน” เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 6 เดือน หลังจากเคยกลับไปสัมผัสได้ 2-3 ชั่วโมง เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
ปัจจัยสำคัญก็คือความมั่นใจของ เจอร์เก้น คล็อปป์ และลูกทีม ขณะที่ ยูไนเต็ด ไม่มี คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ที่ต้องอยู่กับครอบครัวในช่วงเวลาที่แสนเจ็บปวดยิ่ง
การวางหมากแบบ “ซึ่งๆ หน้า” ของคล็อปป์ แสดงแผลงฤทธิ์อีกหน ผิดกับแผนของ ราล์ฟ รังนิค ที่พอเห็นรายชื่อแล้ว บางทีอาจจะกาหัวได้เลยว่า ผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไง
เหตุเพราะกองกลางเจ็บเยอะ “แม็ค-เฟร็ด” ก็เล่นไม่ได้จำใจต้องเล่น 3-4-2-1 แต่นั่นมันไม่ได้ช่วยอะไร เพราะโดนเร็ว แถม ปอล ป๊อกบา ก็เจ็บเร็วเช่นเดียวไม่ทันเวลาจะผ่านถึงเลขสองหลัก
เกมไม่เป็นชิ้นเป็นอันของยูไนเต็ด เพราะการบล็อกกลางไม่เกิดขึ้น ยิ่งเปลี่ยนเอา เจสซี่ ลินการ์ด ลงมายิ่งหายจ้อย
ยังดีที่เสียแค่สองประตูในครึ่งแรก เพราะกองหลัง 3 คนไม่เคยได้เล่นร่วมกัน ฟิล โจนส์ เรื้อสนาม บวกกับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ที่เหมือนกับว่า คนมั่นใจถูกลักพาตัวไปแล้ว
ตรงๆ ก็คือ แพ้ตั้งแต่บนหมากกระดาน
ซึ่งการจัดทัพในแนวรุกที่มีให้เลือกเพิ่มขึ้น และ คล็อปป์ เลือกชุดเดิมต่อเนื่องนั่นคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ และหลุยส์ ดิอาซ
แล้วผลลัพธ์ออกมาน่าสนใจมาก
1-0 นาทีที่ 5 ซาลาห์ จ่ายให้ ดิอาซ
2-0 นาทีที่ 22 มาเน่ จ่ายให้ ซาลาห์
3-0 นาทีที่ 68 ดิอาซ จ่ายให้ มาเน่
ธิอาโก้ ทำให้เกิดความแตกต่าง เล่นได้อย่างมั่นอกมั่นใจ ทั้งรุกและรับ ทำให้ตัวแนบที่ขาดหายไปจากรอยโหว่ของ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม เริ่มดีขึ้นอย่างมาก
ฟาบินโญ่ คุมจังหวะ และเฮนโด้ เป็นลูกหาบวิ่งเพื่อทีม
ครึ่งแรกกลางหงส์ดีมาก ส่วนหนึ่งมาจากทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมีแค่ มาติช คนเดียวที่เป็นกลางแท้ๆ
แต่ส่วนสำคัญก็คือ ความสามารถของพวกเขานั่นเอง โดยเฉพาะประตูที่ 2 จ่ายบอลกันถึง 27 ครั้งก่อนได้ประตู
กระทั่งครึ่งหลังเล่นกันได้น่าสนใจจนเกิดประตู 3-0 นั่นแหละทำให้ทุกอย่างจบ
ประตูของ มาเน่ ถือเป็นการลดแรงกดดันไปได้ทันทีหลังจากผีเปลี่ยนแผนเป็น 4-2-3-1 แล้วทำท่าจะดีขึ้น
โมเมนตัมเกมนี้โยกเข้าฝั่งเจ้าถิ่นตั้งแต่ประตูแรกจากดิอาซ จากนั้นในครึ่งหลังโมเมนตัมก็เทกลับมาหาหงส์อีกทีหลังจากเกมสูสี แต่เจ้าถิ่นมาได้ประตูที่ 3
ก่อนจะย้ำชัยได้ประตูที่ 4 จาก ซาลาห์ เท่ากับว่า สองเกมที่เจอกัน ลิเวอร์พูล ขยี้ยับ อย่างที่ไม่เคยเป็น
ขาไป 5-0 และขากลับ 4-0
แน่นอนที่สุด ลิเวอร์พูล เหนือกว่าทุกกระบวนท่าก่อนจะได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
ชนะในเกมคือ ลิเวอร์พูล คลาสในการเล่นที่ชัดเจนแต่แฟนบอลทั้งสองทีมได้รับการชูมือ
เพราะมีคลาสที่ไม่แพ้ใครในโลกใบนี้
แฟนทั้งสองฝ่ายร่วมกันปรบมือให้กำลังใจกับ โรนัลโด้ ในนาทีที่ 7 โดยเฉพาะแฟนบอลเดอะ ค็อป ร้องเพลง YNWA ให้กับ โรนัลโด้ ด้วย
แม้ผลการแข่งขันอาจจะจบไม่สวย
แต่สำหรับเรื่องของความเข้าอกเข้าใจกัน ห่วงหาอาทรกันการให้เกียรติ การยอมรับ คือสิ่งที่สำคัญที่สุดของมนุษย์อย่างพวกเรา
ฟุตบอลคือชีวิต...ครอบครัวคือหัวใจ และเพื่อนมนุษย์ยกระดับทำให้โลกน่าอยู่...
ฟุตบอลย่อมมีผู้ชนะและแพ้ แต่ย้ำอีกทีว่า ผู้ชนะที่แท้จริงเกมนี้คือ แฟนบอลทั้งสองทีม
เพื่อโรนัลโด้ เพื่อหัวอกคนเป็นพ่อ และเพื่อเพื่อนมนุษย์
______ บี แหลมสิงห์ ______
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี