สมาชิก 74 สโมสร เห็นพ้องลงมติแก้ไขข้อบังคับลักษณะการปกครองฯ และระเบียบว่าด้วยการเลือกตั้งของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯตามที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2565 ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2565 ที่ผ่านมา และสมาชิกจำนวน 74 สโมสรได้ลงมติรับรอง เรื่องการแก้ไข หรือเพิ่มเติมข้อบังคับลักษณะการปกครองของสมาคม และ วาระการลงมติรับรองระเบียบว่าด้วยการเลือกตั้งของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ตามคำแนะนำของ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ ที่ต้องการให้ปรับปรุงข้อบังคับลักษณะการปกครองของมวลสมาชิกให้มีรูปแบบ เนื้อหา เหมือนกันทั่วโลก โดย ข้อบังคับลักษณะการปกครองของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมตามแนวทางของ FIFA และ AFC มีดังนี้
การให้ความสำคัญและความเท่าเทียมกันต่อสตรี จะต้องให้สิทธิอย่างเท่าเทียมต่อสโมสรสมาชิกฟุตบอล ฟุตซอล และฟุตบอลชายหาดหญิง ทั้งนี้ รวมถึงสิทธิในการเข้าร่วมการประชุมใหญ่ด้วย สภากรรมการ ประกอบด้วย กรรมการ จำนวน 19 คน โดยจะต้องมีสตรีอย่างน้อย 1 คนมีตำแหน่งเป็นกรรมการกลางอยู่ในสภากรรมการ การระงับสมาชิกภาพ สมาชิกต้องเข้าร่วมการแข่งขันหรือร่วมกิจกรรมตามที่สมาคมกำหนดทุกปี มิฉะนั้น จะถูกระงับสิทธิความเป็นสมาชิกไว้จนกว่าจะเข้าร่วมการแข่งขันหรือร่วมกิจกรรม การกลับเข้าร่วมการแข่งขันใหม่ จะต้องเริ่มต้นในลีกสมัครเล่นเท่านั้น มิจำต้องให้ที่ประชุมใหญ่พิจารณา
สมาชิกต้องชำระค่าธรรมเนียมหรือค่าบำรุงตามที่กำหนดในข้อบังคับลักษณะการปกครอง มิฉะนั้น จะถูกระงับสิทธิความเป็นสมาชิกไว้จนกว่าจะชำระจนครบถ้วน มิจำต้องให้ที่ประชุมใหญ่พิจารณา การถอดถอนสมาชิกภาพ ที่ประชุมใหญ่จะถอดถอนความเป็นสมาชิกได้สำหรับกรณีต่อไปนี้ ถ้าสมาชิกฝ่าฝืนข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง ประกาศ หรือมติของ ฟีฟ่า เอเอฟซี หรือ สมาคม อย่างร้ายแรงหรือกระทำการฝ่าฝืนซ้ำหลายครั้ง และก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อสมาคม
การไม่ส่งทีมเข้าร่วมทำการแข่งขันรายการภายใต้การจัดการ ควบคุม กำกับดูแลของสมาคมติดต่อกันเป็นเวลา 2 ปี ให้สภากรรมการเสนอรายชื่อสมาชิกดังกล่าวต่อที่ประชุมใหญ่เพื่อพิจารณาถอดถอนการเป็นสมาชิกภาพ ยกเว้นสมาคมนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ การไม่ชำระค่าธรรมเนียมหรือค่าบำรุงตามที่กำหนดในข้อบังคับลักษณะการปกครองติดต่อกันเป็นเวลา 2 ปี ให้สภากรรมการเสนอรายชื่อสมาชิกดังกล่าวต่อที่ประชุมใหญ่เพื่อพิจารณาถอดถอนสมาชิกภาพ การนับองค์ประชุมของที่ประชุมใหญ่ ในการประชุมใหญ่ต้องมีสมาชิกผู้มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนมากกว่ากึ่งหนึ่ง จึงจะเป็นองค์ประชุม การประชุมใหญ่สามัญ สภากรรมการเป็นผู้กำหนดวัน เวลา และสถานที่ในการจัดประชุมใหญ่และแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรให้สมาชิกทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 45 วัน การเลือกตั้งในการเลือกตั้งของสมาคม ให้ดำเนินการภายใต้เงื่อนไขตามระเบียบการเลือกตั้งของสมาคมที่สภากรรมการกำหนดด้วยความเห็นชอบของที่ประชุมใหญ่ และให้อยู่ภายใต้การดำเนินการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง การดำรงตำแหน่งของสภากรรมการ นายกสมาคม อุปนายกสมาคม และกรรมการกลางในสภากรรมการ ให้มีวาระในการดำรง ตำแหน่ง 4 ปีนับจากวันที่มีการเลือกตั้ง จนถึงวันที่ที่ประชุมใหญ่ได้เลือกตั้งสภากรรมการชุดใหม่ โดยสภากรรมการสามารถดำรงตำแหน่งได้ไม่เกิน 3 วาระ 12ปีไม่ว่าจะต่อเนื่องกันหรือไม่ ในกรณีที่มีบุคคลใดเข้ามาดำรงตำแหน่งแทนกรรมการผู้ใด ให้บุคคลผู้นั้นดำรงตำแหน่งเท่ากับระยะเวลาที่เหลืออยู่ของกรรมการรายนั้นและให้ถือว่ากรรมการที่เข้ามาแทนที่ได้ดำรงตำแหน่งเป็น 1 วาระแล้ว นอกจากนี้ ฟีฟ่า และ เอเอฟซี ได้กำหนดให้การเลือกตั้งสภากรรมการ รวมถึงคณะกรรมการอิสระ ต้องดำเนินการโดย “คณะกรรมการการเลือกตั้ง” ซึ่งได้มีการแก้ไข เพิ่มเติม ระเบียบว่าด้วยการเลือกตั้ง สาระสำคัญ ดังนี้
องค์ประกอบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง คณะกรรมการการเลือกตั้ง มีจำนวน 5 คน ประกอบด้วย ประธานกรรมการ 1 คน , รองประธานกรรมการ 1 คน และ กรรมการ 3 คน โดยให้กรรมการร่วมกันคัดเลือกกรรมการ 1 คน เป็นประธานกรรมการ และอีก 1 คน เป็นรองประธานกรรมการ สำหรับประธานกรรมการจะต้องมี คุณวุฒิ หรือความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ด้านกฎหมายด้วย ให้มีกรรมการการเลือกตั้งสำรอง 3 คน แต่งตั้งโดยที่ประชุมใหญ่สำหรับ ข้อบังคับลักษณะการปกครองของสมาคมฯ ที่ได้แก้ไข เพิ่มเติม จะได้นำส่งให้กับการกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อจดทะเบียน ต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี