มูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา ร่วมสนับสนุนนักสอยคิวไทย เมื่อมอบทุนสนับสนุนค่าฝึกซ้อมให้กับ “เอฟ นครนายก”เทพไชยา อุ่นหนู และ “หมู ปากน้ำ” นพพล แสงคำ สองนักสนุ้กเกอร์มืออาชีพของไทยในซีซั่นหน้า คนละ 300,000 บาท รวม 600,000 บาท
“เดอะ ตั๊ก” นายภานพ ใจเกื้อ รองเลขานุการมูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา พร้อมคณะกรรมการ ทำพิธีมอบเงินสนับสนุนนักสนุ้กเกอร์ชาวไทย “เอฟ นครนายก” เทพไชยา อุ่นหนู และ “หมู ปากน้ำ” นพพล แสงคำ ที่กำลังอยู่ในระหว่างเตรียมความพร้อมที่จะแข่งขันสนุ้กเกอร์ชิงแชมป์โลก ฤดูกาล 2022-2023 โดยมี นายไชยพงศ์ กรวสุรมย์ ผู้จัดการทีมบิลเลียดสปอร์ตทีมชาติไทย ร่วมในพิธีการสำคัญครั้งนี้
นายภานพกล่าวว่า มูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา ก่อตั้งโดยผู้ใหญ่ใจดีหลากหลายอาชีพ ทั้งนักธุรกิจ ผู้บริหารระดับสูงขององค์กรภาครัฐ ซึ่งมีความปรารถนาอยากจะช่วยพัฒนาวงการกีฬาตั้งแต่ต้นน้ำ โดยเริ่มต้นจากนักสนุ้กเกอร์ชาวไทย ด้วยการที่จะสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการฝึกซ้อมในระหว่างที่ทั้งสองคนอยู่ที่อังกฤษ
“ในเบื้องต้นจะสนับสนุนเป็นเวลา 6 เดือน เริ่มตั้งแต่กรกฎาคมถึงธันวาคม 2565 รวมเป็นเงิน 300,000 บาทและหลังจากนั้นก็จะมาดูผลงานก่อนที่จะให้การสนับสนุนต่อในปี 2566 ซึ่งแม้ว่าจะเป็นเงินจำนวนไม่ได้มาก แต่ก็เชื่อว่าจะช่วยแบ่งเบาภาระของนักกีฬาทั้งสองคนได้บ้าง”
ทางด้าน “เอฟ นครนายก” และ “หมู ปากน้ำ” ระบุว่า ขอขอบคุณมูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา ที่เห็นความสำคัญของกีฬาสนุ้กเกอร์ ซึ่งจำนวนเงินที่สนับสนุนสามารถช่วยแบ่งเบาภาระในด้านค่าเช่าบ้านและค่าฝึกซ้อมได้ เพราะค่าใช้จ่ายในระหว่างอยู่อังกฤษก็จะตกอยู่เดือนละประมาณหนึ่งแสนบาท อีกทั้งในช่วงโควิดที่ผ่านมา รัฐบาลอังกฤษนำเงินช่วยเหลือประชาชนเยอะ แต่ในทางเดียวกันก็คือ สินค้าต่างๆ ก็แพงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน
สำหรับนักสนุ้กเกอร์อาชีพไทย จากอดีตจนถึงปัจจุบันที่เดินทางไปร่วมแข่งขันในทัวร์จะมีค่าใช้จ่ายสูงมาก โดยค่าใช้จ่ายก็จะเพิ่มขึ้นตามรายการแข่งขัน รายการแข่งขันเยอะก็จะมีค่าใช้จ่ายมากขึ้นเป็นเงาตามตัว แถมยังต้องเสียภาษีจากรายได้ อาทิ อังกฤษ 33-40%, เยอรมนี 50%, จีน 15-25% ประเทศอื่นๆ 20-35% ก่อนจะต้องกลับมายื่นภาษีที่เมืองไทยอีกด้วย
สำหรับ “เอฟ นครนายก” มีกำหนดจะเดินทางไปอังกฤษในวันที่ 29 พ.ค.ส่วน “หมู ปากน้ำ”จะเดินทางในวันที่ 2 ก.ค.ที่จะถึงนี้
โดย “หมู ปากน้ำ” ปัจจุบันอายุ 29 ปี เทิร์นโปรครั้งแรกจากการเป็นแชมป์เยาวชนโลก ซีซั่น 2010/11 จากนั้นกลับมาเป็นแชมป์เยาวชนเอเชีย ได้สิทธิ์เทิร์นโปรอีกครั้ง ในปี 2013 จนถึงปัจจุบัน โดยทำอันดับดีที่สุดนั่นคือ อันดับที่ 28 เมื่อเดือนมีนาคม 2019 และจบซีซั่นนี้ด้วยอันดับที่ 37 หมู เคยทำแม็กซิมั่มเบรกในอาชีพโลกได้ 1 ครั้ง ศึกเวลช์ โอเพ่นรอบ 32 คน ในการดวลกับ มาร์ค เดอะ ชาร์ค เซลบี้ มือ 1 โลก ชาวอังกฤษในเวลานั้น เมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2019 และเซ็นจูรี่เบรก ได้อีก 107 ครั้ง ส่วนผลงานดีที่สุดก็คือ เข้ารอบรองชนะเลิศ 2 รายการ นั่นคือ เวลช์ โอเพ่น ปี 2018 กับ เวิลด์ โอเพ่นปี 2019 และเข้าถึงรายการชิงแชมป์โลก ที่ครูซิเบิ้ล เธียเตอร์ 3 ครั้ง สามารถเข้ารอบ 2 ได้ 2 ครั้ง ในปี 2020 และปีล่าสุด 2022
ฝั่ง “เอฟ นครนายก” วัย 37 ปี เทิร์นโปรครั้งแรกเมื่อปี 2009-10 หลังจากครองแชมป์สมัครเล่นโลก IBSF ก่อนจะไปเทิร์นโปรอีกครั้ง จากการได้สิทธิ์ NGB nominations เมื่อปี 2012 จนถึงปัจจุบัน โดยทำอันดับดีที่สุดคือ อันดับที่ 15ของโลก เมื่อตุลาคม 2020 และซีซั่นนี้จบด้วยอันดับที่ 52
เอฟ แทงแม็กซิมั่มเบรกได้ทั้งหมด 3 ครั้ง ในการเล่นอาชีพ พร้อมทั้งกดเซ็นจูรี่เบรก ไปทั้งสิ้น 144 ครั้ง ผลงานดีที่สุดคือได้แชมป์ชู้ตเอาท์ ปี 2019 ด้วยการชนะ ไมเคิ่ล โฮลท์ ในนัดชิงชนะเลิศ พร้อมกับได้แชมป์โลกรายการ 6 แดงที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ปี 2015 โดย เอฟผ่านเข้าเล่นรอบสุดท้ายชิงแชมป์โลกที่ครูซิเบิ้ล เธียเตอร์ รวม 4 สมัย
ทั้งสองคนได้รับฉายาจากวงการสนุ้กเกอร์โลก โดย “หมู ปากน้ำ” ถูกเรียกว่า“เดอะ แด๊ดดี้” หลังจากที่ลูกสาวเกิดก่อนที่เขาจะลงแข่งที่ครูซิเบิ้ล เธียเตอร์ ปีนี้แค่ไม่กี่ชั่วโมง ขณะที่ “เอฟ นครนายก” ถูกเรียกว่า “สปีด คิง” หลังจากเขาออกคิวได้อย่างรวดเร็ว มีค่าเฉลี่ย 17 วินาทีต่อไม้ ในซีซั่น 2017-18 กับ 2019-20
#บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี