การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำค่ำคืนวันอังคารที่ 17 พฤษภาคม ลงฟาดแข้งคู่เดียวในเวลา 01.45 น. “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่เพิ่งผงาดคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ อังกฤษ สมัยที่ 8 ด้วยการดวลจุดโทษเอาชนะ “สิงห์บลูส์” เชลซี จะต่อลมหายใจในการลุ้นแชมป์ลีกออกไปเยือน “นักบุญ” เซาแธมป์ตันที่ยังไม่ปลอดภัยกับการลุ้นหนีตกชั้น
เจ้าถิ่น “นักบุญ” ผลงานน่าเป็นห่วงทีมของ ราล์ฟ ฮาเซนฮุตเทิ่ล ไม่ชนะใครมา 4 เกมติดต่อกันเป็นการแพ้ไปถึง 3 นัดนี้ไม่มี วาเลนติโน่ ลิฟราเมนโด้แบ๊กขวาดาวรุ่งที่มีอาการบาดเจ็บ ส่วน อเล็กซ์แม็คคาร์ธีย์ หายเจ็บกลับมาซ้อมแล้ว นอกนั้นไม่มีปัญหาอะไร ยึดระบบการเล่น 4-4-2 แดนกลางยืนแบบหน้ากระดานนำโดย สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง, เจมส์วอร์ด-พราว์ส, โอริโอล โรเมอู และโมฮาเหม็ด เอลยูเนสซี่โดยมี อาร์มานโด้ โบรย่า และเช อดัมส์ เป็นคู่หัวหอกล่าตาข่าย
ฝั่งทีมเยือน “หงส์แดง” คว้าแชมป์ 2 รายการในฤดูกาลนี้ คาราบาว คัพ และล่าสุดเอฟเอ คัพ ปัจจุบันรั้งอันดับ 2 ของตารางตามหลังจ่าฝูง แมนฯซิตี้ที่มีสะดุดเสมอกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด2-2 อยู่ 4 คะแนน ก่อนเกม เจอร์เก้นคล็อปป์ ได้ออกมาพูดถึงสาเหตุที่ต้องเปลี่ยนแข้งหลักอย่าง โมฮาเหม็ดซาลาห์ และเฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค ออกจากสนามในเกมล่าสุดเนื่องจากทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ไม่ได้รุนแรงอะไรแต่เกมนี้ไม่น่าจะได้เล่น ส่วน ฟาบินโญ่ ยังไม่ก็ยังพร้อม ที่เหลือถือว่าพร้อมคาดว่าน่าจะมีการโรเตชั่นหลาย แกนหลักอย่างเทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และแอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน น่าจะได้พัก ทำให้แข้งสำรองอย่าง โจ โกเมซ, คอนสแตนตินอส ซิมิกาส, นาบี เกอิต้า, เจมส์ มิลเนอร์ และโรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ จะได้โอกาสลงเล่นแทน
สถิติการพบกันของทั้งสอง 5 เกมหลังสุด ไม่เคยจบลงด้วยผลเสมอ ลิเวอร์พูล เหนือกว่าเยอะเอาชนะได้ 4 ครั้ง ส่วน เซาแธมป์ตัน 1 ครั้ง
ขณะเดียวกัน การเพลย์ออฟของศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ เพื่อหาหนึ่งทีมเลื่อนชั้นไปเล่นพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในฤดูกาลหน้า เป็นเกมนัดที่สอง“เจ้าป่า” น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ที่นัดแรกบุกไปเฉือนเอาชนะมาได้ก่อน 2-1 จะเปิดถิ่น ซิตี้ กราวด์ รับการมาเยือน “ดาบคู่” เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ในเวลา 01.45 น.
“เจ้าป่า” ฟอเรสต์ กุมความได้เปรียบจากการบุกไปชนะที่ บรามอลล์ เลน 2-1 ชุดนี้คุมทัพโดย สตีฟ คูเปอร์กุนซือวัย 42 ปี ที่เคยทำงานในทีมเยาวชนของลิเวอร์พูล ความพร้อมเกมนี้จะได้ เคียร์แนน เดวิส หัวหอกร่างใหญ่ที่หายจากกาอาการบาดเจ็บกลับมาเป็นตัวเลือก ส่วน แม็กซ์ โลว์ และลูอิส แกร็บแบน เจ็บยาวไม่มีส่วนร่วมอย่างแน่นอน ที่เหลือยังเป็นแกนหลักชุดเดิม มาในระบบ 3-4-1-2 เจมส์ การ์ดเนอร์ มิดฟิลด์ที่ยืมมาจาก แมนฯยูไนเต็ด จะคุมแดนกลางร่วมกับ ไรอัน เยตส์ ตัวริมเส้นสองฝั่งใช้บริการ ดีเจด สเปนซ์ และแจ็ค โคลแบ๊ค โดยมี ฟิลิป ซิงค์เกอร์นาเกล ยืนเป็นเพลย์เมกเกอร์อยู่ด้านหลังคู่หัวหอกอย่าง แซม สเตอร์ริดจ์ และแบรนนาน จอห์นสัน
ฟากผู้มาเยือน “ดาบคู่” เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ไม่มีทางเลือกเกมนี้ต้องเก็บชัยชนะเท่านั้น คุมทีมโดย พอล เฮคกิ้งบอทท่อม เจอปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บเพียบหมดสิทธิ์ใช้งาน เดวิด แม็คโกลดริค, ริอาน บรูว์สเตอร์,บิลลี่ ชาร์ป และโอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่ เกมนี้อาจจะมีการปรับทัพเล็กน้อย เตรียมส่ง จอร์จ บัลด็อค ลงไปประจำการวิงแบ๊กฝั่งขวา ผู้เล่นส่วนใหญ่ก็เป็นแกนหลักจากทีมที่ตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกเมื่อปีที่แล้ว สามแนวรับยังนำโดย คริส บาแช่ม, จอห์น อีแกน และแจ็ค โรเบิร์ตสันส่วนแดนกลางยังเป็นชุดเดิมมี โอลิเวอร์ นอร์วู้ด เล่นร่วมกับ จอห์น เฟล็ค และซานเดอร์ แบร์เก้ ปรับเปลี่ยนเพียงคู่กองหน้าที่ใช้ มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์ ประสานงานกับ อิลลิมาน เอ็นดิอาย
สถิติการพบกันของทั้งสอง 5 เกมหลังสุด ฟอเรสต์ ทำได้ดีกว่าเอาชนะได้ 2 เสมอ 2 ส่วนเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ชนะ 1
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี