การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่กรุง ฮานอย ประเทศเวียดนาม รูดม่านปิดลงอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว โดยผลปรากฏว่าทัพนักกีฬาทีมชาติไทย กวาดไปทั้งสิ้น 93 เหรียญทอง, 100 เหรียญเงิน และ 136 เหรียญทองแดง จบที่อันดับ 2 ของตารางการแข่งขัน ส่วนเจ้าภาพเวียดนาม ครองเจ้าเหรียญทองด้วยการทำไปทั้งสิ้น นำอยู่ที่ 206 เหรียญทอง 126 เหรียญเงิน และ 114 เหรียญทองแดง
โดยหลังจบการแข่งขันมี 11 สมาคมกีฬาที่ทำผลงานได้เกินเป้า ทั้งยกน้ำหนัก, ตะกร้อ, เทควันโด, เทนนิส, เทเบิลเทนนิส, แบดมินตัน, ว่ายน้ำ, เปตอง, จักรยาน, ยิมนาสติก และปันจักสีลัต ขณะที่สมาคมกีฬาที่ทำได้ตามเป้ามีกรีฑา, เพาะกาย, ยูโด, วอลเลย์บอล, บิลเลียด, หมากรุกสากลส่วนที่เหลือต่ำกว่าเป้าที่หวังเอาไว้ส่วนกลุ่มที่ไม่มีเหรียญรางวัลเลย มี 4 สมาคม ประกอบด้วยยิงเป้าบิน หวัง 4 เหรียญทอง, หมากรุก เซี่ยงฉี หวัง 1 เหรียญทอง, ฟินสวิมมิ่งหวัง 1 เหรียญทอง และไตรกีฬา
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากชนิดกีฬาสากล ที่มีการบรรจุในกีฬาโอลิมปิกจริงๆ ตารางเหรียญทองและอันดับ จะยังออกมาในลักษณะเดิม แต่สัดส่วนจำนวนเหรียญทองจากกีฬาสากล ซึ่งในมหกรรมซีเกมส์ครั้งนี้ ประเทศไทยคว้าเหรียญจากกีฬาที่มีบรรจุในโอลิมปิกได้เป็นจำนวน 60 เหรียญทองจาก 92 เหรียญทองที่ทำได้ คิดสัดส่วน 65.21% เมื่อเทียบกับเวียดนาม ที่ยังคงได้เหรียญทองจากกีฬาสากลมากที่สุด คือ 111 เหรียญทอง แต่เมื่อเทียบสัดส่วนจะอยู่ที่ 54.14% เท่านั้น ขณะที่ชาติที่มีสัดส่วนการคว้าเหรียญจากกีฬาสากลต่อจำนวนเหรียญทั้งหมดคือ สิงคโปร์ สัดส่วน 74.46%
ทางด้าน “บิ๊กก้อง” ก้องศักด ยอดมณีผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เผยหลังจบการแข่งขันครั้งนี้กีฬาหลักๆ ที่มีจัดแข่งขันในโอลิมปิกเกมส์ของเราพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะกรีฑา และว่ายน้ำ อย่างไรก็ตามบางชนิดกีฬาก็ต้องกลับมาทำการบ้าน ทบทวน แล้วก็หลังจากนี้ จะเชิญผู้บริหารแต่ละสมาคม มาสรุป ต่อยอด เพื่อเตรียมไปซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กัมพูชา ในปีหน้า
“ครั้งหน้าเรายังคงเต็มที่กับงบประมาณแต่ก็ยังมีจำกัด เพราะฉะนั้นต้องใช้อย่างคุ้มค่าที่สุด อีกทั้งยังต้องขึ้นอยู่กับสมาคมด้วยอย่างบางสมาคมที่เขาเตรียมการดีๆ เขาเตรียมถึง 6 เดือน บางสมาคมไม่ถึง เพราะติดแข่ง นั่นเป็นข้อจำกัด ที่เราต้องคุยกับสมาคม ว่าขอให้ความสำคัญด้วย เพราะพี่น้องประชาชน คิดว่ายังไงซีเกมส์ ก็เป็นศึกแห่งศักดิ์ศรี เป็นการสร้างพื้นฐานไปเอเชียนเกมส์และโอลิมปิกเกมส์ด้วย แน่นอนว่าซีเกมส์ครั้งหน้า จำนวนนักกีฬาจะเพิ่มขึ้น หลังจากที่ในครั้งนี้เรามีการตัดงบประมาณ และจำนวนนักกีฬาออกเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับ ชนิดกีฬาที่จัดซึ่งกีฬาในโอลิมปิกเราจะพยายามเน้นที่สุด เพิ่มนักกีฬาในชนิดกีฬาสากล ให้มากที่สุด”
“ซีเกมส์ ที่เวียดนาม ครั้งนี้ มีข้อจำกัดหลายอย่าง ในสถานการณ์โควิด-19 เช่นนี้ ทำให้เราเห็นความไม่พร้อมต่างๆ แต่เราจะเอาข้อบกพร่องเหล่านี้ มาปรับใช้ใน ซีเกมส์ 2025 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ เราจะนำมาเป็นบทเรียน และเรามั่นใจว่าจะยกระดับ ให้รู้ว่า ซีเกมส์ เป็นกีฬาที่ได้มาตรฐานสากล ไม่ใช่กีฬา ปาหี่ ไร้มาตรฐาน ซึ่งไม่ใช่แนวคิดของ กกท. ฝ่ายเดียว แต่คณะกรรมการโอลิมปิคไทยก็มีความตั้งใจ อยากให้ซีเกมส์มีความเป็นกีฬาสากลมากขึ้น” บิ๊กก้อง กล่าวทิ้งท้าย
ขณะเดียวกันเมื่อวันจันทร์ที่ 23 พ.ค. ที่ผ่านมา เจ้าภาพเวียดนาม ก็ได้จัดให้มีพิธีปิดการแข่งขันที่ศูนย์กรีฑาในร่ม ก่วนเหงือ พาเลซ ออฟ แอธเลติกส์ กรุงฮานอย ความจุ 5,500 ที่นั่ง ในกรุงฮานอยโดยในส่วนของชุดการแสดง มีธีมหลักเป็นการถ่ายทอดภาพของกรุงฮานอยจากอดีตถึงปัจจุบัน ตั้งแต่ยังใช้ชื่อ “ทังลอง” ดินแดนเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันงดงามทั้งภูเขาและแม่น้ำ สู่เมืองหลวงแห่งความสงบ เกียรติยศ และความเจริญ เป็นฮานอยยุคใหม่เพื่อก้าวสู่อนาคต ขณะที่นักกีฬาเข้าไปในสนาม นักแสดง 100 คน จะสวมชุดพื้นเมืองของชาวกิงบั๊ก นำผลหมากและปีกนกฟีนิกซ์ไปมอบให้กับนักกีฬาชาติต่างๆ เพื่อแทนคำลา
อีกไฮไลท์สำคัญคือพิธีส่งมอบธงประจำการแข่งขันซีเกมส์จากเวียดนามเจ้าภาพครั้งที่ 31 สู่กัมพูชา เจ้าภาพครั้งที่ 32ซึ่งจะเป็นเจ้าภาพครั้งแรกในปีหน้า โดยกัมพูชา จัดชุดการแสดงที่ใช้เวลา 11 นาที เพื่อทำพิธีรับธงอย่างสมเกียรติ ทั้งนี้ กัมพูชา เป็นเพียงชาติเดียวที่ร่วมก่อตั้งซีเกมส์กันมา แต่ยังไม่เคยเป็นเจ้าภาพมาก่อน ประกาศความพร้อมที่จะจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ในครั้งที่ 32 ระหว่างวันที่ 5-17 พ.ค.ปีหน้า 2023 ที่กรุงพนมเปญแล้ว โดยจะมีการชิงชัยรวมทั้งหมด 40 ชนิดกีฬา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี