สืบเนื่องจากกรณีที่ “จีน” ขอถอนตัวจากการเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขัน เอเชียน คัพ 2023 รอบสุดท้าย เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา อันเนื่องจากปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม “เอเอฟซี” จะมีการหาประเทศเจ้าภาพใหม่และประกาศให้ได้ทราบ โดยรายการนี้จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 16 มิถุนายน – 16 กรกฎาคม 2566
อย่างไรก็ตามมีกระแสข่าวว่า “ไทย” อาจจะได้เป็นเจ้าภาพในรายการนี้ เหนือกว่าทาง “กาตาร์” ที่เป็นตัวเต็ง หลังจัดฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย จากการวิเคราะห์ของสื่อแดนมังกร ด้านสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ให้ข้อมูลกับทีมงาน ผู้สื่อข่าวว่า “เอเอฟซี” เปิดให้เสนอตัวใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะมีการตัดสินในช่วงเดือนตุลาคม2565นี้
แต่ทาง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ไม่เคยยื่นเสนอขอเป็นเจ้าภาพ เนื่องจากรายการนี้ต้องเป็นการเสนอตัวโดยระดับรัฐบาล เพราะคล้ายกับการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ซึ่ง สมาคมฯ จะส่งใบตอบรับได้ แต่เอกสารที่เซ็นเสนอตัวและยืนยันจะเป็นเรื่องของประเทศ และเป็นกระทรวงต่างๆ ที่เซ็นมา อีกทั้งสนามในประเทศไทยก็ไม่พออีกด้วย
เนื่องจาก เอเชียน คัพ รอบสุดท้าย จำเป็นที่จะต้องใช้ทั้งหมด 10 สนาม ไม่เหมือนกับตอนที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพ ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย 2020 ที่เป็นรายการเล็กกว่า ซึ่งใช้เพียงแค่ 4 สนามเท่านั้น นั่นคือ ราชมังคลากีฬาสถาน , สนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต , ช้าง อารีนา จ.บุรีรัมย์ และ สนามกีฬาติณสูลานนท์ จ.สงขลา ในขณะที่สนามขนาดใหญ่ที่พัฒนาปรับปรุงใหม่อีก 6 สนามมีไม่พอเช่นสนามกีฬาฉลองนครเชียงใหม่ 700 ปี,สนามกีฬาจังหวัดศรีสะเกษ,สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษานครราชสีมาต้องปรับปรุงใหม่ คาดว่าตัวเก็งเจ้าภาพคือกาตาร์และญี่ปุ่นมีโอกาสมากกว่าไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี