การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบเพลย์ออฟของโซนยุโรป ลงเล่นในเวลา 23.00 น. เป็นเกมรอบชิงชนะเลิศ ผู้ชนะจะผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายที่ประเทศกาตาร์ทันที “มังกรแดง” เวลส์ จะได้เปิดคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ สเตเดี้ยม ในเมืองคาร์ดิฟฟ์ ต้อนรับการมาเยือนของ ยูเครน ที่บุกปราบ “ตาร์ตัน” สกอตแลนด์
เจ้าถิ่น “มังกรแดง” เวลส์ รอบตัดเชือกเอาชนะ ออสเตรีย มาได้ 2-1 ส่วนผลงานนัดล่าสุดลงเล่นในรายการ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พ่ายให้กับโปแลนด์ 2-1 แต่เกมนี้กุนซือ ร็อบ เพจ จะได้แกนหลักอย่าง แกเร็ธ เบล, แอรอน แรมซีย์, เบน เดวิส และโจ อัลเลน กลับมา หลังให้พักในเกมที่แล้วขุมกำลังที่เรียกเข้ามาไม่มีปัญหาอะไร ใช้ระบบ 3-5-2โจ อัลเลน คุมแดนกลางร่วมกับ โจ มอร์เรลล์ และแอรอน แรมซีย์ โดยมี แกเร็ธ เบล และแดเนี่ยล เจมส์ยืนเป็นคู่หัวหอกในแดนหน้า
ฟากทีมเยือน ยูเครน เล่นเพื่อชาติบุกอัด “ตาร์ตัน” สกอตแลนด์ มาได้ 3-1 คุมทัพโดยกุนซือ โอเล็คซานเดอร์ เปตราคอฟ ไม่มีรายงานผู้เล่นบาดเจ็บหรือติดโทษแบน ทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะยึดผู้เล่นชุดเดิมลงสนามมาในระบบ 4-1-4-1 แบ๊กซ้ายใช้ วิตาลี่ มิโคเลนโก้ จากเอฟเวอร์ตันลงประจำการ ทำให้ โอเล็คซานเดอร์ ชินเชนโก้ จะขึ้นไปยืนมิดฟิลด์ทำเกมรุกร่วมกับ รุสลาน มาลีนอฟสกี้,อันเดรย์ ยาร์โมเลนโก้ และวิคเตอร์ ซีกานคอฟโดยมี โรมัน ยาเร็มชุค ยืนหน้าเป้า
สถิติการพบกันของทั้งสองทีมเจอกันมา 3 ครั้งยูเครน ไม่เคยแพ้ให้กับ เวลส์ เอาชนะได้ 1 และเสมอ 2 ถ้าหาก เวลส์ ชนะได้จะไปบอลโลกครั้งแรกตั้งแต่ปี 1958 เลยทีเดียว
11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม เวลส์ (3-5-2) :เวย์น เฮนเนสซีย์, อีธาน อัมปาดู, โจ โรดอน, เบน เดวีส, คอนเนอร์ โรเบิร์ตส์, โจ อัลเลน,โจ มอร์เรลล์, แอรอน แรมซีย์, แฮร์รี่ วิลสัน,แกเร็ธ เบล และแดเนี่ยล เจมส์
ยูเครน (4-1-4-1): จอร์จี้ บุสห์ชาน,โอเล็คซานเดอร์ คาราวาเยฟ, อิลย่า ซาบาร์นยี่,มิโคล่า มัตวิเยนโก้, วิตาลี่ มิโคเลนโก้, ทาราสสเตปาเนนโก้, อันเดรย์ ยาร์โมเลนโก้, รุสลานมาลีนอฟสกี้, โอเล็คซานเดอร์ ชินเชนโก้, วิคเตอร์ ซีกานคอฟ และโรมัน ยาเร็มชุค
สกอร์ที่คาด : เวลส์ 1-1 ยูเครน
ทางด้านการเตะศึกเนชั่นส์ ลีก ลีกเอ กลุ่ม 2 สาธารณรัฐเช็ก พบกับ สเปน เวลา 01.45 น.โดยเจ้าถิ่น สาธารณรัฐเช็ก ประเดิมเกมแรกด้วย 3 คะแนน จากการเอาชนะ “แดนนาฬิกา”สวิตเซอร์แลนด์ 2-1 ยังคงคุมทัพโดย ยาโรสลาฟ ซีลฮาวีย์ เหมือนเดิม แต่ไม่มี แพทริค ชีค หัวหอกจาก “ห้างขายยา” ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ที่มีอาการบาดเจ็บ รวมไปถึง ออนเดรย์ เซลุสต์ก้า, อันโตนิน บารัค, ลูคัส มาโซปุสต์ และมาเตจ์ วีดร้า พวกนี้เดี้ยงทั้งหมด ส่วน พาเวล คาเดราเบ็ค และวลาดิเมียร์ ดาริด้า เลิกเล่นทีมชาติไปแล้ว ทำให้แกนหลักชุดนี้จะเป็น โทมัส ซูเซ็ค มิดฟิลด์จอกโขกจาก เวสต์แฮมยูไนเต็ด ที่รับบทบาทเป็นกัปตันทีม คุมแดนกลางร่วมกับ มิชาล ซาดิเล็ค สามประสานในเกมรุกใช้ ยาคุบ ยานค์โต้, แยน คุชต้า และอดัม ฮโลเซ็ค
ทีมเยือน “กระทิงดุ” สเปน ลงเล่นเกมแรกด้วยการเปิดบ้านเสมอกับ “ฝอยทอง” โปรตุเกส 1-1 ทำให้ตอนนี้มีอยู่ 1 คะแนน เป้าหมายของกุนซือ หลุยส์ เอ็นริเก้ ในรายการนี้คือต้องการทดลองทีม ทำให้เขาไม่เรียก ดาบิด เด เกอา เข้ามาติดทีม ส่วนตัวหลักอย่าง อายเมริค ลาปอร์ก และธีอาโก้ อัลคันทาร่า มีอาการบาดเจ็บ นอกนั้นที่เรียกเข้ามาถือว่าอยู่กันครบ มาในระบบ 4-3-3 กาบี้, โรดรี้ และโกเก้ จะคุมแดนกลาง โดยมีเฟร์ราน ตอร์เรส ประสานงานกับ อัลบาโร่ โมราต้าและปาโบล ซาราเบีย ในเกมรุก
สกอร์ที่คาด : เช็ก 0-2 สเปน
อีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน เจ้าบ้าน “ฝอยทอง” โปรตุเกส ผ่านเกมหนักด้วยการบุกไปเสมอกับ สเปน 1-1 มีอยู่ 1 คะแนน เจอกับ สวิตเซอร์แลนด์โดยนัดนี้จะกลับมาเล่นในถิ่นของตัวเอง ทีมของกุนซือ เฟอร์นานโด ซานโต๊ส จะไม่มี โชเซ่ ซานายทวารจากวูล์ฟแฮมป์ตัน ที่บาดเจ็บจนต้องถอนตัวออกไป รวมไปถึง รูเบน ดิอาส แนวรับจากแมนฯซิตี้ ด้วย ส่วน เรนาโต้ ซานเชซ, ชูเอาเฟลิกซ์ และเนลสัน เซเมโด้ ไม่มีชื่อในทีมชุดนี้ คาดว่าคริสติอาโน่ โรนัลโด้ ที่ไม่ได้ลงเล่นในเกมที่แล้วจะกลับมาเป็นตัวจริงประสานงานกับ ดีโอโก้ โชต้าและราฟาเอล เลเอา ในแนวรุก ส่วนแดนกลางใช้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา เล่นกับ รูเบน เนเวส และบรูโน่ เฟอร์นานเดส
ผู้มาเยือน “แดนนาฬิกา” สวิตเซอร์แลนด์ ภายใต้การคุมทีมของ มูรัต ยาคีน ชุดนี้ไม่มี เดนิสซากาเรีย มิดฟิลด์จาก “ม้าลาย” ยูเวนตุส นอกนั้นแกนหลักจากชุดยูโร 2020 ถือว่าอยู่กันค่อนข้างครบไม่มีรายงานผู้เล่นบาดเจ็บหรือติดโทษแบน จัดทัพในระบบ 4-4-2 นำโดย เซอร์ดาน ชากิรี่, เรโม่ฟรอยเลอร์, กรานิต ชาก้า, สตีเว่น ชูเบอร์, โนอาห์ โอคาฟอร์ และแฮริส เซเฟโรวิช
สกอร์ที่คาด : โปรตุเกส 1-0สวิตเซอร์แลนด์