ไปบอลโลก : “มังกรแดง” ทีมชาติเวลส์ ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ เป็นครั้งแรกในรอบ 64 ปี หรือตั้งแต่ปี 1958 ได้สำเร็จ หลังเปิดบ้านเฉือนเอาชนะ ยูเครน 1-0 กลายเป็นทีมที่ 30 ที่ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายในช่วงปลายปีนี้
“มังกรแดง” ทีมชาติเวลส์ ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ เป็นครั้งแรกในรอบ 64 ปี หรือตั้งแต่ปี 1958 ได้สำเร็จ หลังเปิดบ้านเฉือนเอาชนะ ยูเครน 1-0 กลายเป็นทีมที่ 30ที่ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายในช่วงปลายปีนี้
เวลส์ ที่ได้สิทธิ์เล่นในบ้านของตัวเองเปิดคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ ยูเครน ที่บุกไปดับ “ตาร์ตัน” สกอตแลนด์ ในรอบที่แล้ว โดย เวลส์ ออกนำก่อน 1-0 จากจังหวะฟรีคิก แกเร็ธ เบล เปิดแบบได้เสียไปเข้าหัวของ อังเดรย์ยาร์โมเลนโก้ กัปตันทีมของยูเครนโขกสกัดผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเองในนาทีที่ 34 จากนั้น ยูเครน ต้องเป็นฝ่ายโหมเกมรุกเข้าใส่อย่างหนัก มีโอกาสได้ประตูอยู่หลายครั้งแต่ไม่ผ่านมือของ เวย์น เฮนเนสซีย์ นายทวารของเจ้าถิ่นที่ท็อปฟอร์มเซฟไปถึง 9 ครั้ง ทำให้จบเกม เวลส์ เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ ยูเครน 1-0 ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ประเทศกาตาร์ได้สำเร็จ
ความเคลื่อนไหวหลังจบเกม แกเร็ธ เบล แนวรุกกัปตันทีมชาติเวลส์ ได้ออกมาเปิดเผยว่านี่คือเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับเขาในการรับใช้ทัพ “มังกรแดง” และเป็นสิ่งที่เขาภาคภูมิใจกับการได้พาทีมผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกครั้งแรกในรอบ 64 ปี
“มันเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลทีมชาติเวลส์ และแน่นอนมันยิ่งใหญ่มาสำหรับผม เกมนี้หมายถึงทุกสิ่งทุกอย่าง มันเป็นสิ่งที่ผมคิดฝันมาตลอด ตอนนี้ผมพูดไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้เลย ว่ามีความสุขมากแค่ไหน”เบล กล่าว “พวกเขาตั้งใจทำงานหนักมาตลอด ผมภูมิใจมากที่ได้ทำสิ่งนี้เพื่อประเทศ เพื่อแฟนบอลของเรา มันเป็นความสำเร็จที่เหลือเชื่อ มันเป็นสิ่งที่เราจะรู้สึกภาคภูมิใจไปตลอด และคืนนี้พวกเราจะฉลองกันให้สุดเหวี่ยง”
ขณะที่ ร็อบ เพจ ผู้จัดการทีมชาติเวลส์ที่เข้ามาทำงานแทนที่ของ ไรอัน กิ๊กส์ ในฐานะของกุนซือชั่วคราว รู้สึกภูมิใจในตัวของลูกทีม และนี่คือสิ่งที่ทุกคนควรได้รับเพราะทำงานหนักมาตลอด
“ผมภูมิใจในตัวของพวกเขามาก และสมควรที่จะได้รับมัน สิ่งเดียวที่ขาดหายไปสำหรับทีมชุดนี้คือการได้ไปเล่นฟุตบอลโลก และในตอนนี้เราสามารถทำได้แล้ว กองเชียร์ของเรายอดเยี่ยมที่สุดในโลก พวกเขาช่วยส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจตั้งแต่นาทีแรกจนนาทีสุดท้าย นักเตะของของเราตอบแทนด้วยการทำงานหนักมาตลอดในการฝึกซ้อม และผมเชื่อมั่นเสมอว่าจะสามารถทำได้”
ทางฝั่งผู้แพ้ โอเล็คซานเดอร์ ชินเชนโก้ ดาวเตะทีมชาติยูเครน ของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดเผยว่าพวกเขาทุ่มเทกันอย่างเต็มที่แล้ว ส่วนหนึ่งต้องยกเครดิตให้กับผู้รักษาประตูคู่แข่ง เวย์น เฮนเนสซีย์ ที่ป้องกันได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมกับรู้สึกเสียใจ แต่ก็ชีวิตต้องเดินหน้าต่อไป
“พวกเขาทุกคนได้ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างสำหรับเกมนี้ เราทิ้งทุกอย่างไว้ในสนาม ผู้รักษาประตูของเวลส์เขายอดเยี่ยมมาก เขาสมควรได้รับ แมน ออฟ เดอะ แมทช์ ในเกมนี้อย่างไม่ต้องสงสัย” ชินเชนโก้ กล่าว “ผมคิดว่าพวกเราไม่สมควรเป็นผู้แพ้เราสร้างโอกาสมากมาย แต่ก็นั่นแหละฟุตบอลอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ เราสามารถนำสิ่งดีๆ มอบให้กับแฟนบอลในสภาวะที่ประเทศต้องเผชิญอยู่ แต่น่าเสียดายที่วันนี้ไม่ได้เป็นไปตามที่เราต้องการ
ซินเชงโก้ กล่าวต่อไปว่า ทุกคนต้องเดินหน้าสู้กันต่อไป ในฐานะของนักฟุตบอลผมต้องทำหน้าที่ตัวแทนประเทศให้ดีที่สุด ผมอยากให้โลกสงบสุข และเราต้องหยุดสงคราม วันนี้ยังมียูเครน แต่พรุ่งนี้อาจจะไม่มี ใครจะไปรู้ เราต้องจับมือเดินหน้าไปด้วยกัน ผมรู้สึกเสียใจกับแฟนๆ ที่ไม่สามารถทำตามเป้าหมายได้ ขอให้เวลส์โชคดีในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย
การเข้ารอบครั้งนี้ นี่คือฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย หนที่ 2 ของเวลส์ และเป็นครั้งแรกในรอบ 64 ปี ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยผ่านไปเล่นรอบสุดท้ายมาแล้วเมื่อปี 1958 ที่ประเทศสวีเดน พวกเขา
สามารถผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีม แต่ก็ต้องหยุดที่รอบนี้ เพราะพ่ายให้กับ บราซิล 0-1 จากประตูชัยของ “ไข่มุกดำ” เปเล่ ก่อนที่ขุนพล “เซเลเซา” จะทะลุเข้าไปคว้าแชมป์โลกสมัยแรกได้สำเร็จ
เวลส์ จะอยู่ในกลุ่มบี ร่วมกับ อังกฤษ, อิหร่าน และสหรัฐอเมริกา ลงประเดิมเกมแรกพบกับ “ขุนพลแยงกี้” สหรัฐอเมริกา ในวันที่ 21 พฤศจิกายน ตามด้วย อิหร่าน และปิดท้ายด้วยการทำศึกสายเลือดกับ “สิงโตคำราม” อังกฤษ