การแข่งขันกอล์ฟวีเมนส์ พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ (KPMG Women’s PGA Championship) ปีที่ 67 ที่สนามคองเกรสชันแนล คันทรี คลับบลูคอร์ส ในเบเธสดา รัฐแมริแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 23-26 มิถุนายน 2565 นี้ แข่งขันแบบสโตรกเพลย์ 72 หลุม 4 รอบโดยเมื่อผ่านไปสองรอบ 36 หลุม จะมีการตัดตัว 60 อันดับ เพื่อไปแข่งขันใน 2 วันสุดท้ายซึ่งมีนักกอล์ฟเข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 156 คน นำโดยมีท็อป 100 คนแรกของโลกมาแข่งขันมากถึง 99 คน
ในตอนแรกมีการชิงเงินรางวัลรวม 4.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 135 ล้านบาท แต่ก่อนการแข่งขันได้มีการระบุว่าศึกนี้จะชิงเงินรางวัลเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเท่าตัวเป็น 9 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 270 ล้านบาท จากการเปิดเผยของฝ่ายจัดการแข่งขันผ่านทางสำนักข่าว เอพี และหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ เท่ากับว่าเพิ่มเงินขึ้นมามากถึง 300 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบจากปี 2014 ปีนี้โปรสาวชาวไทยจะร่วมทำการแข่งขันทั้งสิ้นถึง 8 คนประกอบด้วย “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล โปรสาววัย 19 ปี จากจังหวัดราชบุรี มืออันดับ 5 ของโลก ซึ่งทำผลงานดีกับการเล่นในฐานะรุกกี้ของทัวร์ ที่สามารถคว้าแชมป์แรกตัวเองในทัวร์ไปแล้ว, “โปรเหมียว” ปภังกร ธวัชธนกิจ วัย 22 ปี มืออันดับ 14 ของโลก ดีกรีแชมป์เมเจอร์รายการเอเอ็นเอ อินสปิเรชัน 2021, “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล วัย 26 ปี เจ้าของแชมป์อาชีพแอลพีจีเอ ทัวร์ 12 รายการ รวมทั้ง 2 แชมป์เมเจอร์ วีเมนส์ บริติช โอเพ่นปี 2016 และ ยูเอส วีเมนส์ โอเพ่นปี 2018, “โปรโม” โมรียา จุฑานุกาล วัย 27 ปี พี่สาวของเอรียา จะร่วมแข่งขันครั้งที่ 10 โดยเธอผ่านการตัดตัวทุกครั้ง, “โปรเมียว” ปาจรีย์ อนันต์นฤการ เจ้าของแชมป์อาชีพในแอลพีจีเอ ทัวร์ 1 รายการ, “โปรจัสมิน” ธิฎาภา สุวัณณะปุระจะร่วมแข่งขันครั้งที่ 9, “โปรแจน” วิชาณี มีชัย จะแข่งขันเป็นครั้งที่ 6 และ “โปรแหวน” พรอนงค์ เพชรล้ำ จะแข่งขันครั้งที่ 12 โดยที่ 11 ครั้งแรกผ่านการตัดตัว
สำหรับนักกอล์ฟที่เป็นแชมป์ครั้งที่แล้วก็คือ เนลลีคอร์ดา หายเจ็บกลับมาป้องกันแชมป์ หลังจากต้องพักรักษาตัวเอง เนื่องจากอาการลิ่มเลือดที่แขนซ้ายเมื่อต้นเดือนมีนาคม และกลับมาแข่งขันรายการยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น จบลงอันดับ 8 ร่วม และอันดับ 2 ร่วมรายการมายเออร์ แอลพีจีเอคลาสสิก เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว