“คลอรีน” เป็นธาตุที่มีการนำมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันของเราอย่างหลากหลาย เช่น ในสระว่ายน้ำ น้ำประปา หรือแม้กระทั่งในน้ำดื่ม เรามาทำความรู้จักกับธาตุชนิดนี้ว่ามีผลต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง
คลอรีน คืออะไร
คลอรีน (Chlorine) คือ ธาตุที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เป็นธาตุเคมีที่มีเลขอะตอม 17 และสัญลักษณ์ Cl เป็นแฮโลเจน มีกลิ่นที่รุนแรง มีความเป็นพิษค่อนข้างสูง
จึงมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นิยมนำมาใช้ประโยชน์เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อโรคที่ปนเปื้อนในน้ำประปาและน้ำดื่ม ในสระว่ายน้ำ หรือนำมาเป็นส่วนประกอบผสมในน้ำยาทำความสะอาดสำหรับฆ่าเชื้อบนพื้นผิวอื่นๆ เช่น น้ำยาล้างห้องน้ำ น้ำยาล้างจาน น้ำยาฟอกขาว น้ำยาซักผ้า รวมถึงใช้ทำความสะอาดในโรงงาน โรงพยาบาล เป็นต้น
นอกจากนี้ยังนำมาใช้ในกระบวนการอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น กระดาษ พลาสติก สี สิ่งทอ รวมทั้งอุตสาหกรรมทางการเกษตรนำไปผสมเป็นยาฆ่าแมลงกำจัดศัตรูพืชและอุตสาหกรรมทางการแพทย์ นอกจากนี้ยังนำคลอรีนเป็นส่วนผสมหลักที่สามารถพบได้ในยาบางประเภท เช่น ยาลดคอเรสเตอรอล ยาแก้ปวดข้อ และยาแก้แพ้บางชนิด
คลอรีนในสภาวะปกติ จะอยู่ในรูปก๊าซสีเขียวอมเหลือง หากเพิ่มความดันและอุณหภูมิที่สูงขึ้นจะเปลี่ยนเป็นของเหลวสีอำพัน และหากสัมผัสหรือผสมกับน้ำจะเกิดปฏิกิริยาได้สารที่มีคุณสมบัติออกซิไดซ์ ออกฤทธิ์กัดกร่อนอย่างรุนแรง
คลอรีนที่อยู่ในภาชนะบรรจุจะอยู่ในสภาพของเหลวภายใต้ความดันสูง แต่หากอุณหภูมิสูงขึ้นของเหลวส่วนล่างในภาชนะบรรจุจะเปลี่ยนเป็นก๊าซทำให้แรงดันเพิ่มขึ้นอีก เช่น ก๊าซคลอรีนในภาชนะที่อุณหภูมิ 35 ํC ความดันก๊าซจะประมาณ 10 บาร์ แต่หากอุณหภูมิเพิ่มขึ้นเป็น 65 ํC ความดันก๊าซจะเพิ่มขึ้นเป็น 20 บาร์ ซึ่งหากภาชนะไม่สามารถรับแรงดันได้จะเกิดการระเบิดได้ดังนั้น ก๊าซคลอรีนที่เก็บในภาชนะบรรจุ ควรเก็บในที่ร่มและมีอากาศถ่ายเทสะดวก อุณหภูมิต่ำกว่า 50 ํC ติดฉลากไว้อย่างชัดเจน และไม่เก็บปะปนกับสารไวไฟ
อาการของผู้ที่ได้สัมผัสคลอรีนแบบเฉียบพลัน
ระบบทางเดินหายใจ การสัมผัสคลอรีนที่ความเข้มข้นต่ำๆ (1-10 ppm) ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อตา แสบคอ และเกิดการไอขึ้นที่ความเข้มข้นสูง (30-50 ppm) จะกดระบบการหายใจและมีการอุดกั้นระบบการหายใจส่วนต้น ปอดบวมน้ำ
ระบบหัวใจและหลอดเลือด การสัมผัสที่ความเข้มข้นสูงทำให้เกิดภาวะ cardiovascular collapse เนื่องจากขาดออกซิเจน
กระบวนการสันดาป เกิดภาวะเสียสมดุลกรดด่างในร่างกาย เนื่องจากเนื้อเยื่อขาดออกซิเจนหรือเกิดจากมีคลอไรด์อิออน ในเลือดสูง ในกรณีสูดดมก๊าซคลอรีนเข้าไปปริมาณมากๆ
ระบบอื่นๆ ที่ผิวหนังเมื่อสัมผัสจะเกิดการระคายเคือง ผิวหนังไหม้ แสบ มีการอักเสบ และเกิดตุ่มน้ำขึ้น การสัมผัสกับคลอรีนเหลวทำให้เกิดแผลคล้ายหิมะกัด ที่ตาในขนาดความเข้มข้นต่ำจะเกิดอาการแสบเคืองตา น้ำตาไหล ตาแดง ถ้าสัมผัสที่ความเข้มข้นสูงอาจทำให้กระจกตาได้รับอันตราย (corneal burns)
ภายหลังการได้รับพิษการทำงานของปอดจะกลับสู่ภาวะปกติภายในระยะเวลา 7-14 วัน แต่บางรายโดยเฉพาะผู้ที่ทำงานโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการสัมผัสกับคลอรีนเป็นระยะเวลานาน มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังทำให้การทำงานของปอดบกพร่องต่อเนื่องได้ และเกิดอาการของระบบทางเดินหายใจมีปฏิกิริยาผิดปกติที่เรียกว่า ภาวะ reactive airway dysfunction syndrome (RADS) และยังทำให้เกิดอาการเยื่อบุโพรงจมูกอักเสบเรื้อรัง นอกจากนี้ยังทำให้เกิดผลเสียต่อฟัน เนื่องจากฤทธิ์กัดกร่อน ส่วนการเป็นสารก่อมะเร็งนั้นยังไม่พบว่าคลอรีนสามารถทำให้เกิดมะเร็งได้ สำหรับผลต่อระบบสืบพันธุ์ ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอในสัตว์ทดลองหรือในมนุษย์
ถึงแม้คลอรีนจะมีอันตราย แต่ก็มีความปลอดภัยสูงเช่นกัน เพราะตามปกติแล้วคลอรีนที่เราสามารถพบเจอในชีวิตประจำวันมักจะอยู่ในระดับที่เจือจางมาก และไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ หรืออาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้ชั่วคราว แต่หากสารคลอรีนเข้าตาหรือสัมผัสให้ล้างด้วยน้ำสะอาดปริมาณมากๆ อย่างน้อย 15 นาที กำจัดเสื้อผ้าที่เปื้อนสาร แล้วนำส่งแพทย์ กรณีสูดดมสารให้รีบนำตัวผู้ป่วยไปอยู่ในบริเวณที่มีอากาศบริสุทธิ์แล้วนำส่งแพทย์โดยทันที หรือกรณีกลืนสารถ้าผู้ป่วยยังมีสติให้ดื่มน้ำมากๆ แล้วตามด้วยน้ำมันพืช หากอาเจียนให้ดื่มน้ำมากๆ แล้วนำส่งแพทย์ทันที แต่ถ้าผู้ป่วยหมดสติอย่าให้รับประทานสิ่งใด และห้ามทำให้อาเจียนโดยเด็ดขาด ให้รีบนำส่งแพทย์โดยเร็วที่สุด หากต้องปฏิบัติงานเกี่ยวกับก๊าซคลอรีน จะต้องสวมหน้ากากป้องกันตลอดเวลา แต่ถ้าเป็นคลอรีนเหลวจะต้องสวมถุงมือ ชุดคลุมทั้งตัวและรองเท้าบู๊ทที่ทำด้วยสารพอลิไวนิลคลอไรด์ (PVC) เพื่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
https://hellokhunmor.co
https://marumothai.com/article
https://sites.google.com/site/safetyengineering06/
https://sgechem.com/articles
กองประชาสัมพันธ์
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี