เจ้านาย หรือ นายทุน จะเจอกับลูกน้อง หลักๆ อยู่ 2 อย่าง
พวกก้มหน้าก้มตาทำงาน กับพวกทำงานกับเจ้านาย
คะเนทางความคิดว่า เจอร์เก้น คล็อปป์คืออย่างแรก
บรรยากาศที่เนเปิลส์ มันยอดเยี่ยมอย่างที่เห็น แต่มันทำอะไรคุณได้ไม่มากเท่านี้หรอก หากทีมของคุณไม่ได้มีปัญหามากพอ.......
คล็อปป์ พยายามแก้ไขปัญหาปรับให้โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กับ หลุยส์ ดิอาซ แนบในมากยิ่งขึ้น แต่ไม่มีอะไรดีขึ้น เมื่อกองกลางยังคงเล่นกันคนละคีย์
เจมส์ มิลเนอร์ ไม่ได้ผิดอะไร แต่ถ้าทีมไหนต้องใช้นักบอลอายุขนาดนี้เล่นบอลระดับสูงทุกสัปดาห์ .....ทีมนั้นต้องมีปัญหาพอสมควร
เสียบอลแบบ ก.ไก่ และเสียประตูแบบกิงก่องแก้ว
การโดนต่อบอลเข้าไปยิงแบบซึ่งๆ หน้า บ่อยครั้งมากในปีนี้ และเกมกับนาโปลี ก็เสียประตูเหลวแหลกแบบนี้
ตอกย้ำว่า ลิเวอร์พูล ไม่ใช่ว่าเป็นทีมที่จ่ายบอลแม่น แต่เป็นทีมที่แย่งบอลเก่งมากๆ
มาซีซั่นนี้ไม่ได้เพรสบน หรือไล่บอลแบบดุเดือด นักบอลเจ็บคือหนึ่งเรื่อง แต่เล่นไม่เหมือนเดิมคืออีกเรื่องหนึ่ง
เดินสองก้าวแล้วหยุด แล้วขยับดันขึ้นทั้งแผง พอโดนจ่ายทีก็ทะลุถึงแนวรับ เมื่อคุณเคยเพรสสุดๆ ก่อนจะเล่นแบบเพรสเป็นจังหวะ แต่นาทีนี้คุณไม่เพรส เมื่อไม่เพรสเลย
เตะได้แบบน่าคืนเงินค่าตั๋วให้แฟนบอลยังน้อยเกินไปด้วยซ้ำ
ฤดูกาลที่แล้วลิเวอร์พูลเกือบจะได้ถ้วยรางวัลใหญ่ถึง 4 รายการอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ 4 เดือนเท่านั้นหลังจากความพ่ายแพ้ที่ปารีส ในนัดชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีก
เจอร์เก้น คล็อปป์ ถูกตั้งคำถามว่า ทีมของเขาจำเป็นต้อง “สร้างใหม่” หรือไม่?!?!?
เป็นคำถาม “ที่ดี” และเป็นคำถาม“ที่น่าตกใจ” ในคราเดียวกัน
การพ่ายแพ้ถึง 1-4 ด้วยน้ำแข้งของ นาโปลี
เฉพาะครึ่งแรกโดนไป 3 ทั้งที่จริงมีโอกาสมากถึง 5 ด้วยซ้ำ แต่ อลิสซอน เซฟจุดโทษ และเฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค สกัดบนเส้นประตู
ทำให้ ลิเวอร์พูล เก็บชัยชนะได้เพียง 2 เกมจาก 7 เกมแรกในทุกรายการในฤดูกาลนี้
ชัดเจนว่า “หงส์แดง” ขาดพลังงานในการเล่น
นี่คือซีซั่นที่ท้าทายอย่างมาก หลังจากครองแชมป์ 2 รายการในบอลถ้วย แต่ต้องผิดหวังใน 2 รายการหลัง ทำให้นักบอลกำลัง “ตกหลุม” ความรู้สึกอยู่หรือไม่ ขณะที่เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ดูแลและนำพาความสำเร็จที่ลิเวอร์พูลนับตั้งแต่เขาย้ายมาในช่วงปลายปี 2015
แต่หลังจากเริ่มต้นฤดูกาลอย่างน่ากังวล ทำให้ต้องถามว่า ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลงแล้วหรือยัง?
“เราเล่นแย่ในครึ่งแรก แต่โดยปกติเราไม่เสีย 3 ประตูแบบนี้” คล็อปป์ “ถ้าคุณมีผู้รักษาประตูที่ชื่อ อลิสซอน เบ๊คเกอร์คุณต้องแย่มากสำหรับเรื่องนั้น ดูเหมือนว่าเราต้องสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่ ยังมีอีกหลายสิ่งที่ยังขาดอยู่ ซึ่งเรามีเกมกับ วูล์ฟส์ ในวันเสาร์และพวกเขาหัวเราะกันไม่หยุดที่ได้เห็นเราเป็นแบบนี้ ถ้าเป็นผม ก็คงเหมือนกัน หากเราจะมีคะแนน เราจะต้องกลับมาเล่นให้สมบูรณ์เราต้องรีเซตทุกอย่างให้ดีขึ้น”
คล็อปป์ บอกว่า ในฟุตบอลมีทางออกเสมอ เราเล่นได้ไม่ดีพอ นั่นคือความชัดเจนและนั่นคือเหตุผลที่เราแพ้เกม มีงานที่ต้องทำความรับผิดชอบของผม และผมต้องการเวลาคิดเกี่ยวกับมัน”
สิ่งที่ถูกตั้งคำถามต่อก็คือ ลิเวอร์พูล กำลัง “ขาดแรงจูงใจในการต่อสู้หรือไม่”
มีค่าใช้จ่ายสูงมากกับข้อผิดพลาดส่วนบุคคลในเนเปิลส์ เนื่องจาก โจ โกเมซ กับ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ละเลงจนเละเทะ เหมือนกับมีชีวิตแต่ไม่มีวิญญาณในการเล่น
บางคนปกติวิ่งแบบใส่ “เกียร์หมา” ปีนี้เหมือนมี “เกียร์เดียว”
จนทำให้ปัญหาใน “แดนกลาง” ถูกมอง ผ่านไปแล้วหันมาที่”แดนหลัง”
เอาเข้าจริงเหมือนกับมันไล่เรียงมาตั้งแต่ความที่ยังไม่เสถียรของ “แดนหน้า” ส่งต่อมาถึงการบาดเจ็บใน “แดนกลาง” ส่งมาถึงความผิดพลาดใน “แดนหลัง”
แต่สิ่งที่สังเกตเห็นชัดเจนในเกือบจะทุกนัดก็คือ “วิธีการเล่น” ของนักบอล
ความสำเร็จของ “คล็อปป์ทีม” ได้หล่อหลอมขึ้นจากความมุ่งมั่น หากเมื่อไหร่ก็ตามทีที่ทีมไม่มีสิ่งเหล่านี้ ก็อาจจะได้ผลลัพธ์แบบนี้ไปเรื่อยๆ
มีไม่กี่ครั้งที่เราสามารถจะพูดได้ว่า ลิเวอร์พูลขาดความปรารถนาและไม่มีไฟในการต่อสู้
แอบนึกถึงคำให้สัมภาษณ์ของจอห์น บาร์นส์ ว่า ครั้งหนึ่ง ลิเวอร์พูล เคยมีนักบอลที่ประสบความสำเร็จหลายรายการต่อเนื่อง หลายคนอยากมาอยู่ที่นี่แค่สวมเสื้อนกไลเวอร์เบิร์ด เท่านั้น
เมื่อมีแต่นักบอลระดับที่ใหญ่ขึ้น ใหญ่มากจนเกินไป ทำให้ก้าวผ่านไม่จากระดับที่คุ้นเคย
ขณะเดียวกัน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทำประตูไม่ได้ในแชมเปียนส์ลีก 7 เกมติดต่อกันนับเป็นสถานการณ์ที่ไม่ใช่แค่ในบอลยุโรป แต่มันลามไปถึงในลีกอีกด้วย
บอลของ ลิเวอร์พูล ตอนนี้ดูเหมือนว่า“หย่อน” ไปทุกตำแหน่ง ไม่มีการกระชับทั้งรุกและรับ ทำให้ยิงได้ยาก และเสียประตูง่าย
ในวันเดียวกับที่ ลิเวอร์พูล พลาดท่าที่เนเปิ้ลส์ เกิดข่าวใหญ่ขึ้นก่อนเกมเมื่อ เชลซี ได้ไล่ โธมัส ทูเคิ่ล ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม ไม่แปลกที่นักข่าวจะตีประเด็นนี้ออกมา และถูกส่งคำถามไปยัง คล็อปป์
“ไม่จริง เจ้าของของเราค่อนข้างสงบและคาดหวังให้ฉันจัดการสถานการณ์และไม่คิดว่าจะมีคนอื่นทำ”
ความพยายามของฤดูกาลที่แล้วทำให้ ลิเวอร์พูล ไปถึงจุดการต่อสู้ที่สุดยอด ในการลงเตะทุกรายการเท่าที่เป็นไปได้ตามโปรแกรม คันเร่งที่ตะบึงตรงนั้น มันยังทำให้ขายังล้าหรือความอยากเล่นฟุตบอลยังน้อยไปหรือไม่
เพราะผลงานในช่วงต้นซีซั่น 2022-23 ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง
เวลาตอนนี้มีไม่นาน เพราะบอลจะกลับมาเตะ 3 วันครั้งอีกแล้ว
นึกย้อนไปแล้ว ควรจะทำอะไรในซัมเมอร์มากกว่านี้ มันอาจจะดีกว่านี้หรือเปล่า?!?!?
______ บี แหลมสิงห์ ______
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี