ความเคลื่อนไหวการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพครั้งที่ 48” ซึ่งจะแข่งขันระหว่างวันที่ 22-25 ก.ย.นี้ ที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี โดยมี 4 ชาติเข้าร่วมการแข่งขันประกอบด้วย ทีมชาติไทย อันดับ 111 ของโลก, ทีมชาติมาเลเซีย (อันดับ 148 ของโลก), ทีมชาติตรินิแดด และ โตเบโก (อันดับ 101 ของโลก) และ ทีมชาติทาจิกีสถาน (อันดับ 109 ของโลก) ไทยรัฐทีวี HD32 ถ่ายทอดสดทุกคู่
ล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 ก.ย. สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้ทำการประกาศรายชื่อ 23 นักเตะออกมาเรียบร้อยแล้ว โดยรายชื่อที่ออกมามีผู้เล่นตัวหลักชุดเดิม 3 รายที่ต้องหลุดโผไปคือ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน นายประตู บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่บาดเจ็บ รวมไปถึง “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา กับ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ2 ดาวเตะของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ไม่มีชื่อติดทัพชุดนี้
ขณะที่แข้งหน้าใหม่นั้นมีทั้ง ธีรศักดิ์ เผยพิมาย กองหน้าดาวรุ่งของ การท่าเรือ เอฟซี, ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว กองกลางจาก ชลบุรี เอฟซี และ กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล ผู้รักษาประตูจาก ราชบุรี เอฟซี ซึ่งถือเป็นการติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ครั้งแรกของทั้ง 3 คน
ทางด้าน 2 แข้งจากศึก เจลีก ญี่ปุ่น อย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์จาก คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ และ สุภโชค สารชาติ จาก คอนซาโดเล่ซัปโปโร นั้นก็กลับมามีชื่ออยู่ในทีมชุดนี้ด้วยเช่นกัน
สำหรับรายชื่อนักเตะทีมชาติไทยทั้ง 23 มีดังนี้ 1.ธีราทรบุญมาทัน (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) 2.นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม(บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) 3.พรรษา เหมวิบูลย์ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)4.ศุภชัย ใจเด็ด (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) 5.ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา(บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) 6.สารัช อยู่เย็น (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด) 7.ปฐมพลเจริญรัตนาภิรมย์ (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด) 8.พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล(บีจี ปทุม ยูไนเต็ด) 9.กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด) 10.กฤษดา กาแมน (ชลบุรี) 11.ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว (ชลบุรี) 12.ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ (ชลบุรี) 13.บดินทร์ ผาลา (ท่าเรือ) 14.ธีรศักดิ์ เผยพิมาย (ท่าเรือ) 15. ศุภนันท์ บุรีรัตน์ (ท่าเรือ) 16.กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล (ราชบุรี) 17.จักรพันธุ์ แก้วพรม
(ราชบุรี) 18.วีระเทพ ป้อมพันธุ์ (เมืองทอง ยูไนเต็ด) 19.พิชา อุทรา(เมืองทอง ยูไนเต็ด) 20.ฐิติพันธุ์ พ่วงจันทร์ (ทรู แบงค็อกยูไนเต็ด) 21.เฉลิมศักดิ์ อักขี (โปลิศ เทโร) 22.สุภโชค สารชาติ(คอนซาโดเล่ ซัปโปโร) 23.ชนาธิป สรงกระสินธ์ (คาวาซากิฟรอนตาเล่)
ทั้งนี้ผลการประกบคู่รอบรองชนะเลิศ ทัพ “ช้างศึก”ทีมชาติไทยจะดวลกับ ทัพ “เสือเหลือง” ทีมชาติมาเลเซีย ในวันพฤหัสบดีที่ 22 ก.ย. ในเวลา 20.30 น. ส่วน ทีมชาติตรินิแดด และ โตเบโก จะพบกับ ทีมชาติทาจิกีสถาน ในวันเดียวกันเวลา 17.30 น. ขณะที่รอบชิงที่ 3 จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 25 ก.ย. เวลา 17.30 น. และรอบชิงชนะเลิศ มีขึ้นในเวลา 20.30 น.
สำหรับบัตรชม จะจัดจำหน่าย 2 ทาง คือทางออนไลน์และขายหน้าสนาม ราคาบัตร 2 ราคา 150 บาท อัฒจันทร์มีหลังคา และ 100 บาทฝั่งไม่มีหลังคา รวมทั้งหลังโกลด้วย โดยความจุสนาม กีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี อยู่ที่ 17,600 ที่นั่ง