เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์ ดาวยิง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สร้างสถิติใหม่ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้วยการเป็นแข้งคนแรกที่ยิงประตูเกมเยือนได้ 4 นัดติดต่อกัน หลังซัดเพิ่มในเกมล่าสุดที่ “เรือใบสีฟ้า” ถล่ม วูล์ฟแฮมป์ตัน 3-0

โดย ฮาแลนด์ ที่ย้ายจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์มาร่วมทัพ ซิตี้ ในซัมเมอร์นี้ แต่จากการลงสนาม 7 นัดเขาซัดไปแล้ว 11 ประตู นับเป็นการสร้างสถิติแข้งหน้าใหม่ที่ยิงได้เยอะสุดในประวัติศาสตร์ด้วย และหากรวมทุกรายการเจ้าตัวก็ยิงไปแล้วถึง 14 ประตู เลยทีเดียว

ซึ่งประตูในเกมล่าสุดนั้นเป็นประตูที่ 14 ของ ฮาแลนด์หากนับรวมทุกสโมสรที่เขาค้าแข้งทั้งกับ ซัลซ์บวร์ก รวมไปถึงดอร์ทมุนด์แล้ว ต้องบอกว่าโหดจริง เพราะหลังลงสนามไป 99 นัด เขาซัดไปได้ถึง 100 ประตูเลยทีเดียว

ขณะที่ เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมกเกอร์โคตรเก่งแห่ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทาบสถิติสร้าง แอสซิสต์ ในพรีเมียร์ลีกเทียบเท่ากับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ยอดตำนานกองกลาง ลิเวอร์พูล เรียบร้อยแล้ว แต่ลงสนามน้อยกว่าเกินเท่าตัว

โดย เดอ บรอยน์ ที่ยังสร้างผลงานระดับมาสเตอร์พีซในเกมล่าสุดเมื่อดาวเตะเบลเยียม ทำแอสซิสต์ 2 ประตูให้เพื่อนร่วมทีม ทำให้เวลาเขาทำไปแล้วทั้งสิ้น 6 แอสซิสต์ จาก 7 เกมในพรีเมียร์ลีก นำเป็นอันดับ 1 แข้งจ่ายประตูอยู่ในเวลานี้ ซึ่งหากนับไปที่สถิติแอสซิสต์มากที่สุดใน พรีเมียร์ลีก นั้น เดอ บรอยน์ ได้ทาบสถิติของ เจอราร์ด ที่ 92 แอสซิสต์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ดาวเตะ ซิตี้ นั้นใช้เวลาเพียง 217 เกม ขณะที่ตำนาน ลิเวอร์พูล นั้นใช้เวลานานถึง 504 เกมเลยทีเดียว

สำหรับ โปรแกรมนัดต่อไปของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั้นจะดวลกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยมในวันที่ 2 ต.ค.

ขณะเดียวกัน เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือของ “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” เลสเตอร์ ซิตี้ ยืนยันยังพร้อมสู้ต่อไปจนถึงที่สุด แม้ว่าจะเพิ่งโดน “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์บุกมาถล่มคารัง คิงเพาเวอร์ สเตเดี้ยม 6-2 ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยเกมนี้ ซอน เฮือน มิน ดาวยิงสเปอร์ส ประเดิมประตูแรกในฤดูกาลนี้ พร้อมซัดแฮททริกในเวลาเพียง 13 นาทีด้วย ส่งผลให้ เลสเตอร์ เวลานี้เก็บได้เพียง1 คะแนนจากการลงเล่น 7 เกมในลีกออกสตาร์ทย่ำแย่ที่สุดในรอบ 39 ปี หรือตั้งแต่ 1983 เสียไปถึง 22 ประตู

อย่างไรก็ตาม ร็อดเจอร์ส ยืนยันพร้อมมุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่ต่อไป พร้อมกับเคารพการตัดสินใจของสโมสรเสมอ ไม่ว่าบทสรุปจะออกมาอย่างไร “คุณไม่ได้เห็นทีมที่ขาดความมั่นใจเหมือนกับหลายๆ เกมที่ผ่านมา นั่นเป็นสัญญาณที่ดี ผมพร้อมที่จะสู้ต่อไป แต่ก็เข้าใจว่าการพ่ายแพ้ 6 เกมนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ดีนัก ผมเข้าใจกับอารมณ์ของแฟนบอลถึงความไม่พอใจกับผลงานของทีม ทั้งหมดเป็นความรักผิดชอบของผม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมยังคงให้ความเคารพต่อเจ้าของทีม เพราะพวกเขาให้การสนับสนุนผมเสมอมาอย่างที่บอกไป ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ผมจะสู้ต่อไป และเคารพสโมสรแห่งเสมอ” บีร็อด กล่าว