วันอังคาร ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / กีฬา
วิทยาศาสตร์ สำหรับเยาวชน : ความแตกต่างของวัคซีนและเซรุ่ม

วิทยาศาสตร์ สำหรับเยาวชน : ความแตกต่างของวัคซีนและเซรุ่ม

วันอาทิตย์ ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2565, 06.00 น.
Tag : ความรู้รอบตัว ความรู้เรื่องสุขภาพ วิทยาศาสตร์สำหรับเยาวชน
  •  

เชื่อว่าหลายท่านคุ้นชินกับคำว่า “วัคซีน” และ “เซรุ่ม” ท่านเคยสงสัยไหมว่าการนำมาใช้ประโยชน์ของทั้งสองชนิดมีความแตกต่างอย่างไรบ้าง วันนี้เราไปค้นหาคำตอบไปพร้อมๆ กัน

เริ่มแรกเรามาทำความรู้จักกับผลิตภัณฑ์ที่จะสร้างภูมิต้านทานกับร่างกายมนุษย์ ซึ่งมี 2 ชนิด คือ


1.ผลิตภัณฑ์ที่ให้เข้าสู่ร่างกาย แล้วร่างกายเกิดการสร้างภูมิต้านทานโดยตรง (active immunization) ได้แก่การฉีดวัคซีน

2.ผลิตภัณฑ์ที่ให้เข้าสู่ร่างกาย แล้วให้ผลเกิดจากภูมิต้านทานในผลิตภัณฑ์นั้นๆ (passive immunization) ได้แก่ การฉีดเซรุ่ม (antiserum)

ความแตกต่างระหว่างวัคซีนและเซรุ่ม

วัคซีน (Vaccine) คือ ผลิตภัณฑ์ยาที่เตรียมจากเชื้อโรคที่ตายแล้ว หรือถูกทำให้มีฤทธิ์อ่อนลงจนไม่เป็นอันตราย ซึ่งกระทำได้โดยการเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงยีน (genes) ของเชื้อโรคนั้นๆ โดยอาศัยความรู้ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ เข้าสู่ร่างกายโดยการฉีดหรือกิน เพื่อชักนำหรือเหนี่ยวนำให้ระบบภูมิคุ้มกัน (immunization) ของร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันโรคจำเพาะต่อสารก่อโรคต่างๆ ที่เข้าสู่ร่างกาย ได้แก่ แบคทีเรีย สารพิษจากแบคทีเรีย (bacterial toxin) และไวรัสชนิดนั้นๆ โดยวัคซีนจะไปกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันเฉพาะ เรียกว่าสารต่อต้าน (antibodies) ขึ้น สารต่อต้านนี้เปรียบเสมือนหน่วยทหารที่จะทำหน้าที่ขจัดสารก่อโรคดังกล่าวที่เข้าสู่ร่างกาย ขับออกสู่ภายนอก ร่างกายจึงไม่ป่วยไข้จากโรคดังกล่าว ปัจจุบันเรามีวัคซีนป้องกันโรคหลายชนิด เช่น ไอกรน คอตีบ บาดทะยัก โปลิโอ หัด หัดเยอรมัน คางทูม ไทฟอยด์ ตับอักเสบจากไวรัสชนิดบี และโควิด-19 เป็นต้น ทั้งนี้ สามารถแยกประเภทของวัคซีนตามการผลิตได้ 3 ประเภท คือ

1.วัคซีนประเภทท็อกซอยด์ (Toxoid) เป็นการนำพิษของเชื้อโรคมาทำให้หมดฤทธิ์ แต่ยังสามารถกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันได้ ได้แก่ วัคซีนคอตีบ บาดทะยัก

2.วัคซีนชนิดเชื้อเป็น (Live Vaccine) เป็นวัคซีนที่นำเชื้อมาทำให้อ่อนแรงจนไม่สามารถก่อโรคได้ แต่สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ ได้แก่ วัคซีนหัด คางทูม หัดเยอรมัน อีสุกอีใส งูสวัด ไข้สมองอักเสบ เจอี (ชนิดเชื้อเป็น) และโควิด-19

3.วัคซีนชนิดเชื้อตาย (Killed Vaccine) เป็นวัคซีนที่ผลิตขึ้นจากเชื้อโรคทั้งตัวหรือบางส่วนของเชื้อ ได้แก่ วัคซีนตับอักเสบ เอ บี ไอกรน ไข้หวัดใหญ่ และโควิด-19

ทั้งนี้ ข้อดีของวัคซีน คือ ไม่เกิดอาการแพ้ที่รุนแรง และทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันโรคอยู่ได้นาน แต่ก็มีข้อเสียคือร่างกายไม่สามารถนำไปใช้ได้ทันที

เซรุ่ม (Serum) เป็นของเหลวสีเหลืองใสหรือที่เราเรียกกันว่า พลาสมา สกัดจากเลือดคนหรือสัตว์อื่นที่มีภูมิคุ้มกันโรคหรือสารก่อโรคนั้นอยู่แล้ว ซึ่งโดยทั่วไปมักสกัดจากเลือดม้า (เตรียมขึ้นโดยการฉีดเชื้อโรคที่ตายแล้ว หรือมีฤทธิ์อ่อนเข้าไปในคนหรือสัตว์ เพื่อกระตุ้นให้สร้างภูมิคุ้มกันโรคแล้วก็เอาเลือดนั้นมาสกัดอีกครั้ง) ฉะนั้นการฉีดเซรุ่มเข้าไปในคนก็เท่ากับเอาภูมิคุ้มกันโรคจากคนหรือสัตว์มาใช้แทนร่างกายของเราในการทำลายเชื้อโรค เซรุ่มจึงมักเข้าสู่ร่างกายในกรณีฉุกเฉินที่ผู้ป่วย
ไม่เคยได้รับวัคซีนชนิดนั้นมาก่อน หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ผู้ป่วยไม่มีภูมิต้านทานต่อเชื้อโรคนั้นๆ เช่น ผู้ป่วยที่ถูกสุนัขที่สงสัยว่าเป็นโรคพิษสุนัขบ้ากัด ต้องให้เซรุ่มป้องกันพิษสุนัขบ้าทันที เพื่อให้สารต่อต้านในเซรุ่มไปทำลายเชื้อไวรัสพิษสุนัขบ้า หรือผู้ป่วยที่ป่วยเป็นโรคคอตีบ แสดงว่าร่างกายไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน ต้องฉีดเซรุ่มโรคคอตีบที่ผลิตได้จากเลือดสัตว์ที่มีสารต่อต้านของโรคนี้อยู่ รวมทั้งอีกตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ เซรุ่มพิษงู เป็นต้น ข้อดีของเซรุ่ม คือ ร่างกายสามารถนำเซรุ่มไปใช้ต้านทานโรคได้ทันที แต่ก็มีข้อเสีย คือ ผู้ที่ได้รับเซรุ่มส่วนใหญ่มักมีอาการเป็นไข้ มีผื่นคัน ปวดตามข้อ บวมบริเวณใบหน้า บางรายที่แพ้รุนแรงก็อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ตาพร่ามัว ต่อมน้ำเหลืองโตหายใจลำบากร่วมด้วย หรืออาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

จากที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่าวัคซีนและเซรุ่มนั้นมีสิ่งที่เหมือนกันคือเป็นการผลิตเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันทั้งคู่ แต่จุดประสงค์ในการใช้แตกต่างกัน คือ วัคซีนฉีดเพื่อป้องกันส่วนเซรุ่มฉีดเพื่อรักษา นั่นเอง

เรียบเรียงข้อมูลจาก

https://www.health2click.com/2021/06/11

https://www.gotoknow.org/posts/492694

http://cms576.bps.in.th/group1/2-uncategorised/6-serology

https://www.doctor.or.th/article/detail/5614

https://www.khonkaenram.com/th/services/health-information/health-articles/med/vaccine

กองประชาสัมพันธ์

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • วิทยาศาสตร์ สำหรับเยาวชน : เคล็ดลับความสวยจาก..ชาเขียว วิทยาศาสตร์ สำหรับเยาวชน : เคล็ดลับความสวยจาก..ชาเขียว
  • วิทยาศาสตร์ สำหรับเยาวชน : การเพิ่มมูลค่า‘หน่อไม้ฝรั่ง’พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพไฟเบอร์สูง วิทยาศาสตร์ สำหรับเยาวชน : การเพิ่มมูลค่า‘หน่อไม้ฝรั่ง’พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพไฟเบอร์สูง
  • วิทยาศาสตร์ สำหรับเยาวชน : แผลที่เกิดขึ้นต้องใช้เวลากี่วันถึงจะหายดี วิทยาศาสตร์ สำหรับเยาวชน : แผลที่เกิดขึ้นต้องใช้เวลากี่วันถึงจะหายดี
  • วิทยาศาสตร์ สำหรับเยาวชน : ฮอร์โมนและสารรบกวน (2) วิทยาศาสตร์ สำหรับเยาวชน : ฮอร์โมนและสารรบกวน (2)
  • วิทยาศาสตร์ สำหรับเยาวชน : ฮอร์โมนและสารรบกวน (1) วิทยาศาสตร์ สำหรับเยาวชน : ฮอร์โมนและสารรบกวน (1)
  • วิทยาศาสตร์ สำหรับเยาวชน : การใช้สาหร่ายขนาดเล็กดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (2) วิทยาศาสตร์ สำหรับเยาวชน : การใช้สาหร่ายขนาดเล็กดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (2)
  •  

Breaking News

‘น่าน’สำรวจเส้นทาง-จุดจอดรถ ท่าวังผา-สองแคว/ท่าวังผา-ปัว

'ไอติม'บี้ถอนร่างกม.‘สถานบันเทิงครบวงจร’ดีที่สุด เตือนรัฐบาลดันทุรังทำอายุสั้น

ปลาแปลกสวยงาม‘ปลาเถื่อนผู้รุกราน’ตัวจริง ต้องขึ้นบัญชีดำ ผิดกฎหมายทั้งห่วงโซ่

'อนุทิน'บินอุดรธานีรับ-ส่งอวัยวะช่วยผู้ป่วยครั้งแรก หลังพ้นตำแหน่ง'รัฐมนตรี'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved