ศึกลูกหนัง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เกมประจำวันอังคารที่ 27 ธ.ค.นี้ จะมีลงสนามฟาดแข้ง 2 คู่โดย “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดรังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด “เจ้าป่า” น็อตติ้ง แฮมฟอเรสต์ ในเวลา03.00 น. ขณะที่ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ดวลกับ “เดอะเชอรีส์” บอร์นมัธ ในเวลา 00.30 น. เป็นต้นไป

แมนยูฯ - ฟอเรสต์ : ปีศาจแดง เกมล่าสุดหลังจบฟุตบอลโลก เอาชนะ เบิร์นลี่ย์ ในถ้วย คาราบาว คัพ มาได้ 2-0
ทำให้เวลานี้พวกเขาชนะมา 3 นัดติดในทุกรายการแล้ว เกมนี้สภาพทีมของ เอริก เทน ฮาก กุนซือของทีมจะยังขาดแข้งหลักที่กรำศึกฟุตบอลโลกทั้ง ลิซานโดร มาร์ติเนซ, ราฟาเอล วาราน รวมไปถึง ดิโอโก้ ดาโลต์ และ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่เจ็บ ชณะที่ เจดอนซานโช่ ก็ยังไม่มีชื่อแน่นอนหลังสภาพจิตใจย่ำแย่หนัก ทำให้แผงเกมรับจะต้องฝากความหวังไว้ที่ วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ ที่จะจับคู่ คาเซมิโร่ที่ต้องขยับลงมาช่วยทีม ส่วนแดนกลาง สก็อต แม็คโทมิเนย์ จะเป็นห้องเครื่องร่วมกับ คริสเตียน เอริคเซ่น พร้อมให้แนวรุกยุคไร้ คริสติอาโน่โรนัลโด้ นำโดย บรูโน่ เฟอร์นานเดส, มาร์คัส แรชฟอร์ด, อเลฮานโดร การ์มาโช่และ อองโตนี่ มาร์กซิยาล ลงล่าตาข่าย

ทางฝั่ง “เจ้าป่า” 2 เกมหลังผลงานกระเตื้องคว้า 2 เกมรวดทั้งพรีเมียร์ลีก และคาราบาวคัพ เกมนี้สภาพทีมของ สตีฟ คูเปอร์กุนซือของทีม จะจอปัญหาแข้งตัวหลักเดี้ยงเพียบทั้ง มอรี์แกน กิ๊บ ไวท์, ชีค คูยาเต้, แซร์จ เออร์ริเยร์ รวมไปถึง ดีน เฮนเดอร์สัน มือ 1 ที่ยืมมาก็ลงไม่ได้จากการดวลกับ ยูไนเต็ด ต้นสังกัดตัวจริง ทำให้ต้องฝากความหวังเอาไว้ที่แข้งที่เหลืออย่าง วิลลี่ โบลีย์, โอเรล มองกาล่า,ไรอัน ยาเตส, เจสซี ลินการ์ด, และ ไทโวอโวนินี่ กองหน้าตัวความหวัง

สำหรับสถิติการดวลกัน 78 เกม แมนยูฯ ชนะไป34 นัด ฟอเรสต์ชนะไป 24 นัด และเสมอกัน 17 นัด

เชลซี - บอร์นมัธ : “สิงห์บลูส์” ที่เวลานี้ร่วงมาอยู่อันดับ 8 ของตาราง เกมนี้ แกรม พ็อตเตอร์ กุนซือของทีมจำเป็นต้องเร่งเครื่องกลับมาให้ได้โดยสภาพทีมต้องเผชิญหน้ากับแข้งเดี้ยงเพียบทั้ง เวสลีย์ โฟฟาน่า, เอ็นโกโล่ ก็องเต้,เบน ชิลเวลล์, รูเบน ลอฟตัส ชีค, อาร์มันโด บอร์ฆา รวมไปถึง มัตเตโอ โควาซิช และ ฮาคิม ซิเยค ที่จะยังไม่กลับมาหลังกรำศึกฟุตบอลโลก โดยสภาพแข้งที่เหลือจะยังนำโดย เอดูอาร์ด เมนดี้ยืนเฝ้าเสา แผงเกมรับ 3 คนใช้ เซซาร์ อัซปิลิกัวเอต้า, เทรวอห์ ชาโลบาห์ และ คาลิดู คูลิบาลี่ ส่วนแดนกลาง จอร์จินโญ่ เป็นห้องเครื่องร่วมกับ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ พร้อมให้ ไค ฮาแวร์ตซ์, ราฮีมสเตอร์ลิ่ง และ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง เป็น 3 ประสานในเกมรุก

ทางฝั่ง “เดอะ เชอรีส์” ที่รั้งอันดับ 14 ของตารางเวลานี้ เกมนี้สภาพทีมของ แกรี่ โอนีล กุนซือของทีม จะขาด เดวิด บรูคส์ แนวรุกคนสำคัญและ เนโต้ นายทวาร ที่ได้รับบาดเจ็บส่วนแกนหลักที่เหลือจะนำโดย มาร์กอส เซเนซี่, แจ็ค สตีเฟ่นส์, ฟิลิปป์ ไบลิ่ง, ลูอิส คุก รวมไปถึง 2 หัวหอกอย่าง คีเฟอร์ มัวร์ และ โดมินิค โซลันกี้

สำหรับสถิติที่ดวลกันมา 6 เกมหลังสุด ปรากฏว่า เชลซี เอาชนะไปได้ 3 นัด เสมอ 1 และ บอร์นมัธ ชนะ 2 นัด