หักคอสิงห์ : จังหวะสังหารของ ริยาด มาห์เรซ แนวรุกตัวสำรองของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เข้าสู่ก้นตาข่ายของ เชลซี ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก่อนที่ แมนฯซิตี้ จะบุกคว้าชัยด้วยสกอร์นี้ 1-0 ไล่ล่า อาร์เซน่อล จ่าฝูงเหลืออยู่ 5 คะแนน หลังจากผ่านไป 17 เกม

การแข่งขันฟุตบอลน็อกเอาท์อมตะของโลก “เอฟเอ คัพ” อังกฤษ ครั้งที่ 142 รอบ 3ในวันเสาร์นี้ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล แชมป์เก่าจะเปิดสนามแอนฟิลด์ เจอกับ “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน เพื่อนร่วมลีก เวลา 03.00 น.

“หงส์แดง” เสียหน้าพอสมควรกับการบุกไปโดน “ผึ้งน้อย” เบรนท์ฟอร์ด ถล่มในลีก 3-1 ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน หลุยส์ ดิอาซ, ดีโอโก้ โชต้าและอาร์ตูร์ ที่บาดเจ็บ ส่วน เฟอร์จีล ฟาน ไดจ์คก็เดี้ยงจากเกมล่าสุด ส่วน โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ยังต้องลุ้น แต่ที่น่าจะได้เล่นแน่ๆ คือ โคดี้ กัคโป แข้งตัวใหม่มีโอกาสลงประเดิมสนามนัดแรกด้วยการเป็นตัวจริง ที่เหลืออาจจะพักแกนหลักอย่าง ฟาบินโญ่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และดาร์วิน นูเญซ ไว้เล่นเกมลีก โดยเรื่องนี้ คล็อปป์ ยังไม่ตัดสินใจ

ทีมเยือน ภายใต้การคุมทีมของ ฆูเลนโลเปเตกี ถือว่าฟอร์มดีนับตั้งแต่ที่เขาเข้ามาทำงาน ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 1 เกมนี้ยังไม่มี เปโดร เนโต้, บูบาการ์ ตราโอเร่ และซาซ่า คาลัจด์ซิช ที่บาดเจ็บ ส่วน ดาเนี่ยล โพเดนซ์ ต้องรอเช็คความฟิต นอกนั้นไม่มีปัญหาอะไรมาในระบบ 4-2-3-1 วาง รูเบน เนเวส คุมแดนกลางร่วมกับ ชูเอา มูตินโญ่ โดยมี อดาม่า ตราโอเร่, มาเตอุส นูเนส และควาง ฮี-ชาน เป็นตัวปั้นเกมรุกอยู่ด้านหลังของหอกใหม่อย่าง มาเตอุส คุนญ่า

สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด ลิเวอร์พูล เหนือกว่าเยอะเก็บเรียบเอาชนะได้ทั้ง 5 ครั้ง ซึ่ง 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามมีดังนี้ ลิเวอร์พูล (4-3-3) :ควีวิน เคลเลเฮอร์, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌแอล มาติ๊ป, โจ โกเมซ,แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์, นาบี เกอิต้า, ธีอาโก้ อัลคันทาร่า, อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, โคดี้ กัคโป และฟาบิโอ คาร์วัลโญ่, วูล์ฟส์ (4-2-3-1) :โชเซ่ ซา, เนลสัน เซเมโด้, เนธาน คอลลิ่นส์,แม็กซ์ คีลแมน, ฮูโก้ บูเอโน่, รูเบน เนเวส,ชูเอา มูตินโญ่, อดาม่า ตราโอเร่, มาเตอุส นูเนส,ควาง ฮี-ชาน และมาเตอุส คุนญ่า

สกอร์ที่คาด : ลิเวอร์พูล 2-1 วูล์ฟแฮมป์ตัน

ขณะที่เกมเวลา 19.30 น. “ปราสาทเรือนแก้ว” คริสตัล พาเลซ เจอกับ “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน โดยเกมล่าสุดในลีกเจ้าบ้านเพิ่งโดน “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่มฮ็อทสเปอร์ บุกมาถล่ม 4-0 นัดนี้ทีมของ ปาทริค วิเอร่า ยังไม่มี แซม จอห์นสตันที่บาดเจ็บ ส่วน ไทริค มิทเชลล์ ติดโทษแบนคาดว่าจะมีการโรเตชั่นทีมบางตำแหน่ง สำรองอย่าง ลูก้า มิลิโวเยวิช จะได้ลงคุมเกมแดนกลางร่วมกับ เจฟฟรีย์ ชลุปป์แนวรุกเลือก ไมเคิ่ล โอลิเซ่ ลงมาประสานงานกับ วิลล์ ฮิวจ์ส, วีลฟรีด ซาฮา และอ็อดซอนด์ เอดูอาร์

ฝั่งผู้มาเยือน “นักบุญ” เซาแธมป์ตันแม้จะเปลี่ยนโค้ชจาก ราล์ฟ ฮาเซนฮุตเทิ่ล มาใช้บริการ เนธาน โจนส์ แต่ฟอร์มยังไม่ดีขึ้น แพ้มา 3 เกมในลีกหลังกลับจากช่วงพักเบรกฟุตบอลโลก ล่าสุดพ่ายคารังให้กับ “เจ้าป่า” น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 0-1 เกมนี้ไม่มี อเล็กซ์ แม็คคาร์ธีย์, ธีโอวัลค็อตต์, ตีโน่ ลิฟราเมนโต้ และฮวนลาริออส ที่พากันเดี้ยงทั้งหมด ในรายของ อาร์เมล เบลล่า-ค็อตช็อป ที่รอเช็คความฟิตนอกนั้นไม่มีปัญหาอะไร นำโดย ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส, เจมส์ วอร์ด-พราว์ส, เอนลีย์ เมตแลนด์-ไนลส์, โมฮาเหม็ด เอลยูนุสซี่, โรแม็งส์ แปร์โรด์, อดัม อาร์มสตรอง และเช อดัมส์

สกอร์ที่คาด : คริสตัล พาเลซ 2-1 เซาแธมป์ตัน

อีกคู่เป็นดาร์บี้แมทช์กรุงลอนดอน เวลาเที่ยงคืนครึ่ง “ผึ้งน้อย” เบรนท์ฟอร์ด เจอกับ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม โดยเจ้าถิ่นภายใต้การคุมทีมของ โธมัส แฟรงค์ ฟอร์มจัดจ้านสุดๆ ยังไม่แพ้ใครหลังกลับมาจากพักเบรกฟุตบอลโลก เสมอ สเปอร์ส ชนะ เวสต์แฮม และเกมล่าสุดถล่ม ลิเวอร์พูล 3-1 นัดนี้ไม่มี แชนดอน บั๊ปติส แดนกลางที่บาดเจ็บ ส่วน แฟรงค์ ออนเยก้า และแอรอน ฮิคกี้ ต้องรอเช็คความฟิต ที่เหลือไม่มีปัญหาอะไร อาจจะพัก มาติอัส แยนเซ่นและส่ง จอช ดาซิลวา ลงไปปั้นเกมแดนกลางแทน โดยมี คริสเตียน นอร์การ์ด และวิตาลี่ ยาเนลท์ คอยเป็นตัวไล่บอลในแดนกลางคู่หัวหอกใช้ อีวาน โตนีย์ เล่นกับ คีน ลูอิส-พ็อตเตอร์

ทีมเยือน “ขุนค้อน” กุนซือเดวิด มอยส์กำลังเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบากไม่ชนะใครในทุกรายการมา 6 เกมติด แถมเป็นการแพ้ไปถึง 5 ล่าสุดบุกไปเสมอกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด 2-2 เกมนี้ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน แม็กซ์เวลล์ กอร์เน่ต์ แข้งสารพัดประโยชน์ที่มีอาการบาดเจ็บ ส่วน วลาดิเมียร์ คูฟาล ยังไม่สมบูรณ์เชื่อว่าจะมีการโรเตชั่นทีม สำรองอย่าง มานูเอลลานซินี่, ปาโบล ฟอร์นาลส์ และฟินน์ ดาวน์สน่าจะได้เล่นประสานงานกับตัวหลักอย่าง โทมัสซูเซ็ค, เดแคลน ไรซ์ และมิคาอิล อันโตนิโอ

สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด ไม่เคยจบลงด้วยผลเสมอ เบรนท์ฟอร์ดชนะ 3 ส่วน เวสต์แฮม ชนะ 2

สกอร์ที่คาด : เบรนท์ฟอร์ด 2-1 เวสต์แฮม