ทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย เปิดสนามม.ธรรมศาสตร์ รังสิต เอาชนะ เวียดนาม 1-0 ในนัดสอง รอบชิงชนะเลิศ ศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟมิตซูบิชิ อิเล็คทริค คัพ 2022” รวมผล 2 นัดทีมชาติไทย ชนะ 3-2 ผงาดคว้าแชมป์รายการนี้มาครองเป็นสมัยที่ 7 อย่างยิ่งใหญ่
โดยเกมนี้ ไทย มาได้ประตูชัยจาก ธีราทร บุญมาทัน ที่ซัดนอกกรอบเขตโทษสุดสวยเป็นประตูชัย ในนาทีที่ 23 ทำให้จบเกมสกอร์รวมสองนัด “ช้างศึก” เอาชนะ เวียดนาม 3-2 คว้าแชมป์อาเซียนคัพ เป็นสมัยที่ 7 ต่อจากปี 1996, 2000, 2002, 2014, 2016 และ 2020
ซึ่งในพิธีมอบแชมป์ครั้งนี้มี จานนี่อินฟานติโน่ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ที่ให้เกียรติเดินทางมาเป็นผู้มอบถ้วยแชมป์ให้กับทีมชาติไทยด้วยตัวเอง พร้อมเงินรางวัล 300,000 เหรียญสหรัฐ (ราว 10 ล้านบาท) ส่วนรองแชมป์ เวียดนาม รับเงินรางวัล 100,000เหรียญสหรัฐ รางวัลส่วนบุคคล มีดังนี้ดาวซัลโว : ธีรศิลป์ แดงดา (ทีมชาติไทย), เหงียน เทียน ลินห์ (เวียดนาม) 6 ประตู/ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนท์ :ธีราทร บุญมาทัน (ทีมชาติไทย)
l ‘มาโน่’ ลั่นยกระดับไทยก้าวข้ามอาเซียน
หลังจบเกม มาโน่ โพลกิ้ง กุนซือทีมชาติไทย เปิดใจถึงการคว้าแชมป์ในครั้งนี้ว่า เวลานี้ทีไทยคือเบอร์ 1 ของอาเซียนอย่างแท้จริง “เราอยากจะก้าวไปให้ไกลว่านี้แต่อันดับแรกเราต้องรักษาเบอร์ 1 ของย่านนี้ไว้ให้ได้ก่อน แน่นอนว่านี่เป็นรายการที่เรามีคุณภาพที่จะคว้าแชมป์ได้ แม้ว่าเราจะขาดผู้เล่นสำคัญบางคน แต่ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ก็ทำได้ยอดเยี่ยมมาก โดยเฉพาะกัปตันทีมของเราอย่าง ธีราทร บุญมาทัน เป็นผู้นำที่ดีของทีม และยกเครดิตให้ลูกทีมทั้งหมด ด้วยสปิริตที่ยอดเยี่ยมทำให้เราคว้าแชมป์ได้อีกครั้ง”
“เป้าหมายต่อไปก็คือเอเชี่ยนคัพ เราอยากพัฒนาทีมให้ต่อสู้กับญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ หรือซาอุดีอาระเบีย ได้ ซึ่งต่อไปไทยจะได้เข้าร่วมฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติเอเชียตะวันตก เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เจอทีมที่แกร่งกว่า จะทำให้เราดีกว่าเดิมและจะได้ประโยชน์เยอะจากรายการนี้ แต่ก็ต้องคุยกับสโมสรก่อนเพราะโปรแกรมมันคาบเกี่ยวกัน”
สำหรับ มาโน่ โพลกิ้ง กลายเป็นกุนซือทีมชาติไทย คนที่ 3ในประวัติศาสตร์ ที่สามารถพาทีมคว้าแชมป์รายการนี้ได้สองสมัยติดต่อกันในปี 2020 และ 2022 ต่อจาก ปีเตอร์ วิธที่เคยทำได้ในปี 2000 และ 2002 และ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่ทำเอาไว้ในปี 2014 และ 2016
l ‘อุ้ม’ ยันเล่นต่อหากรายการนี้มี VAR
ธีราทร ดาวเตะกัปตันทีมเจ้าของรางวัล MVP แห่งทัวร์นาเมนท์ ด้วยผลงานยิง 1 ประตู กับอีก 6 แอสซิสต์ จากทั้งหมด 8 นัด พร้อมรับเงินรางวัลไป 10,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 3.4 แสนบาทบาท) เปิดใจว่าต้องขอขอบคุณทุกคนที่ทำให้เรามาถึงเป้าหมาย ขอบคุณแฟนบอลที่มาเชียร์กันในวันนี้ จริงๆ ผมไม่เคยหวังรางวัลส่วนตัว ขอบคุณ AFF ที่ให้ รางวัล MVP ก็ขอมอบรางวัลนี้ให้กับทีมสตาฟฟ์ และเพื่อนร่วมทีมทุกคน ถ้าไม่มีทุกคน ผมก็คงมาไม่ถึงในวันนี้
“ส่วนการเล่นให้ทีมชาติไทย ในรายการนี้ ผมอาจจะขอคิดดูก่อน เพราะมันมีหลายปัจจัย สิ่งสำคัญคือ ผมอยากให้ภูมิภาคอาเซียน มี VAR เราเป็นเพื่อนบ้านกัน มันไม่ใช่มาไล่เตะกันแต่เราควรจะมาช่วยกันพัฒนา ไม่ใช่มาเตะกันและทำให้คู่ต่อสู้ได้รับบาดเจ็บ ทำให้เพื่อนบ้านรู้สึกไม่ดี ผมจะพิจารณาอีกครั้งกับถ้วยใบนี้ ฝากแฟนบอลชาวไทย ขอบคุณมากที่เข้ามาเชียร์ในวันนี้ ผมขอมอบถ้วยในวันนี้ให้กับทุกคน”
l ‘มาดามแป้ง’ตั้งเป้าพาไทยไปบอลโลก
“มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำผู้จัดการทีมชาติไทย ตั้งเป้าอยากพาทีมไทยไปฟุตบอลโลก พร้อมอัดฉีดเงินรางวัลรวมทั้งสิ้นเป็น 20 ล้านบาท โดยเผยว่าปีที่แล้วรับตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติไทย เอาถ้วยนี้มามอบเป็นของขวัญปีแฟนบอลชาวไทยได้ ปีนี้แม้จะเป็นปีที่ยากลำบาก นับเป็นวันที่ 41 แล้วตั้งแต่เก็บตัววันแรก ทั้งยังไม่ใช่ฟีฟ่าเดย์ ขอบคุณสโมสรที่ปล่อยตัวนักเตะมาให้ เราได้แชมป์ถ้วยนี้เป็นครั้งที่ 7 เป็นความภาคภูมิใจ แม้ไม่ได้เป็นของขวัญปีใหม่ แต่ก็ถือเป็นของขวัญหลังวันเด็ก ก็ยังได้
“อนาคตจากนี้ด้วยว่า เป้าหมายของทุกคนอยากจะไปฟุตบอลโลก ก็ต้องคุยกับ พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยว่าจะความคิดมีแผนอย่างไร ซึ่งสำหรับคนรักฟุตบอลอย่าง ตนก็อดไม่ได้ ตนเคยพาฟุตบอลหญิงไปบอลโลกมาแล้ว ก็อยากพาฟุตบอลชายไปฟุตบอลโลกด้วย”
l ยอดเงินอัดฉีดพุ่งทะลุ 35 ล้านบาท
ถึงเวลานี้ทีมชาติไทย ได้รับเงินอัดฉีดจากการคว้าแชมป์อาเซียนในครั้งนี้รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 35 ล้านบาท ประกอบด้วยเงินรางวัลจากการคว้าแชมป์ 10 ล้านบาท นวลพรรณ ล่ำซำอัดฉีดหลังจบรอบแรก และ รอบรองชนะเลิศ 10 ล้านบาทก่อนอัดฉีดเพิ่มอีก 10 ล้านบาท ในรอบชิงชนะเลิศ รวมเป็น20 ล้านบาท พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ุม่วง นายกสมาคมฯ อัดฉีดเพิ่มอีก 5 ล้านบาท รวมทั้งสิ้นเป็น 35 ล้านบาท ซึ่งหากเฉลี่ยนักเตะทั้ง 23 คนจะได้ตกราวคนละ 1.5 ล้านบาท
l เผยโปรแกรมต่อไปทัพ‘ช้างศึก’
ภารกิจต่อไปทีมชาติไทย จะมีโปรแกรมลุยศึกฟุตบอลรายการ WAFF 10th Championship ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ในช่วงปฏิทินฟีฟ่าเดย์ ระหว่างวันที่ 20 มี.ค.-2 เม.ย. 2566 ร่วมกับ 11 ชาติ ประกอบไปด้วย บาห์เรน, อิรัก, จอร์แดน, คูเวต, เลบานอน, โอมาน, ปาเลสไตน์, ซาอุดีอาระเบีย, ซีเรีย, เยเมน และยูเออี (เจ้าภาพ)
l โค้ช‘ปาร์ค’อำลาเวียดนามหลังคุมทัพ5ปี
ปาร์ค ฮัง ซอ กุนซือชาวเกาหลีใต้ แถลงอำลาทีมชาติเวียดนาม อย่างเป็นทางการ หลังพาทีมคว้ารองแชมป์ฟุตบอลอาเซียน 2022 มั่นใจทีมสามารถพัฒนาต่อไปได้แม้ตนไม่อยู่
โดยก่อนหน้านี้ ปาร์ค ฮัง ซอ วัย 65 ปี ประกาศเอาไว้ตั้งแต่ปีก่อนในช่วงต่อสัญญาใหม่ ว่า จะขอคุมทีมลุยบอลอาเซียน 2023 เป็นรายการสุดท้าย หลังอยู่กับทีมมาตั้งแต่ปี 2017 ซึ่งมีรายงานว่าเจ้าตัวมีปัญหาด้านสุขภาพ และอยากจะพักผ่อนหลังอยู่กับ “ดาวทอง” มา 5 ปีเต็ม
“ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับทีมชาติไทยและโค้ชมาโน่ด้วย ผมอยากคว้าแชมป์เพื่อมอบของขวัญให้แฟนบอลเวียดนาม แต่ผมทำไม่ได้ ผมขอโทษ ผมคิดว่าความสามารถของเรายังขาดอยู่นักเตะทำงานหนักมาก ผมหวังว่าแฟนๆจะเชียร์ และให้กำลังใจแทนที่จะวิจารณ์พวกเขา” โค้ชปาร์ค เริ่มกล่าว
“ผมไม่รู้ว่าต่อไป เวียดนาม จะยังสู้กับ ไทย ได้อยู่ไหม ผมตอบคำถามนี้ไม่ได้ผมจะปล่อยให้เป็นเรื่องของโค้ชคนต่อไป แต่ผมคิดว่าทีมเวียดนามสามารถพัฒนาต่อไปได้ ตอนนี้ผมไม่ใช่โค้ชแล้ว และผมขอบอกหลังจากนี้ว่าผมจะเป็นแฟนของทีมชาติเวียดนามตลอดไป ผมกล้าพูดได้เต็มปากก็คือผมภูมิใจกับการคุมทีมประสบความสำเร็จตลอดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แม้จะยังมีหลายๆ อย่างที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมายก็ตาม” เฮดโค้ชชาวเกาหลีใต้ ทิ้งท้าย
สำหรับผลงานที่โดดเด่นตลอด 5 ปีของ ปาร์ค ฮัง ซอ กับทีมชาติเวียดนาม มีดังนี้ รองแชมป์ U-23 ชิงแชมป์เอเชีย ปี 2018, อันดับ 4 ในศึกเอเชี่ยนเกมส์ 2018, แชมป์ฟุตบอลอาเซียน ปี 2018, เหรียญทอง ซีเกมส์ 2 สมัย ในปี 2019 (ฟิลิปปินส์) และ 2021 (เวียดนาม), เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายศึกเอเชี่ยน คัพ ปี 2019 ,ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก ทะลุถึงรอบ 3 (รอบ 12 ทีมสุดท้าย), รองแชมป์ฟุตบอลอาเซียน ปี 2022
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี