เผยสภามหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติชุดใหม่ประชุมในวันที่ 27 ก.พ.2566 สืบเนื่องจากข่าวที่นายพิพัฒน์ รัชกิจประการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ออกประกาศของกระทรวงลงวันที่16 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมาและเป็นพระราชกฤษฎีกาลงในราชกิจจานุเบกษาในวันที่21กุมภาพันธ์2566 ตามความแจ้งแล้วนั้น
แหล่งข่าวภายในกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้เผยว่าสาเหตุนี้มาจากกระทรวงต้องการแก้ไขปัญหาการทุจริตภายในมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติที่มีปัญหาสะสมมานานหลายปีตั้งแต่ก่อนจะมีการตั้งรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาสมัยที่ 2 ภายหลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 จากนั้นในวันที่ 22 พฤษภาคม 2562 พลเอกประยุทธ์ในขณะนั้นยังเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาราชการก่อนจัดตั้งรัฐบาลผสมสหพรรคในวันที่ 9 มิถุนายน 2562 ได้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติที่เป็นสถาบันอุดมศึกษาของรัฐที่แยกมาจากมหาวิทยาลัยของรัฐบาลแห่งอื่นๆของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมที่มีมหาวิทยาลัยของรัฐมากกว่า200แห่งในความดูแล
สาเหตุที่มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติมีพรบ.เป็นของตนเองและมีบทเฉพาะกาลที่ให้อำนาจคณะผู้บริหารมหาวิทยาลับในชุดเก่านั่นคือสภามหาวิทยาลัยชุดเดิม สภาคณาจารย์ชุดเดิมและคณาจารย์ชุดเดิมทั้ง17วิทยาเขตและ13โรงเรียนกีฬา ทำให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาไม่สามารถเข้าไปดุูแลและตรวจสอบอะไรได้เลยเป็นสาเหตุให้สภามหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติชุดเดิมที่ได้ใช้ช่องโหว่กฎหมายที่เป็นรอยต่อเข้าไปบริหารงานตามบทเฉพาะกาลได้ยาวนานถึง4ปีครึ่งในระหว่างปี2562-2566 ที่ผ่านมา
แหล่งข่าวเผยต่อไปว่าประกอบกับต้นปี 2563 ถึงปี 2565 โลกและประเทศไทยเกิดวิกฤตโรคไวรัสโควิด19ระบาดหนักทั่วโลกทำให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเองต้องมีงานที่หนักในภาระที่ต้องดูแลการประคับประคองภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยร่วมกับกระทรวงต่างๆในการหารายได้เข้าประเทศเช่นกระทรวงการคลัง กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุขฯลฯ ทำให้การดูแลมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติถูกละเลยและให้ความสำคัญน้อย
แหล่งข่าวยังได้อธิบายด้วยว่ามหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติในระยะ5ปีงบประมาณในปี 2562 - 2566 มีงบประมาณรวมกันมากกว่า 12,000 ล้านบาทแต่ไม่มีผลงานในการเปิดรับนักศึกษาใหม่ๆเลย ทำให้มีนักศึกษามาสมัครเข้าเรียนน้อย ทั้งๆที่เดิมมีเด็กที่เรียนจบจากโรงเรียนกีฬาทั้งของมหาวิทยาลัยฯ13แห่งกับโรงเรียนกีฬาของส่วนราชการอื่นๆมาสมัครเข้าเรียนต่อน้อยลงไปมากเพราะปัจจุบันมหาวิทยาลัยของรัฐและมหาวิทยาลัยเอกชนหลายแห่งก็มีคณะการพลศึกษา คณะวิทยาศาสตร์การกีฬาเปิดทั่วไปมากมาย ยังผลให้มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติไม่มีประสิทธิผลเท่าที่ควรยิ่งในปัจจุบันมีเด็กเกิดน้อยลงยิ่งหนักเพราะนักศึกษาแต่ละวิทยาเขตน้อยลงทุกที
หนทางออกที่น่าจะทำได้คือมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติต้องเปิดกว้างเปิดหลักสูตรกีฬานานาชาติแบบในต่างประเทศปรากฎว่าคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยชุดรักษายาว4ปีครึ่งที่ผ่านมาก็ไม่ได้ทำแถมปรากฎว่ามีการร้องเรียนในเรื่องปัญหาการบริหารและการทุจริตภายในมากมายมีเรื่องร้องเรียนไปที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานับร้อยๆเรื่อง นอกจากนั้นยังมีการร้องเรียนไปที่คณะกรรมการ ปปท.และคณะกรรมการปปช.เป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน
รายงานข่าวระบุด้วยว่า ต้นปี 2565 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนปัญหาภายในมหาวิทยาลัยฯแล้วมีคำสั่งให้คณะผู้บริหารทั้งคณะออกจากตำแหน่งแต่ปรากฎว่าไม่มีการยอมลาออก จนผ่านมา1ปีทำให้นายพิพัฒน์ รัชกิจประการต้องใช้ออกคำสั่งในวันที่16 กุมภาพันธ์2566 ดังกล่าว แหล่งข่าวเผยว่าในวันจันทร์ที่27กุมภาพันธุ์2566นี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะต้องดำเนินตามพรบ.มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติตามหมวด2 มาตราที่19 นั่นคือการตั้งสภามหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติชุดใหม่ได้แก่นายกสภามหาวิทยาลัย คณะ
กรรมการสภามหาวิทยาลัยได้แก่ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษาฯ เลขาธิการสพฐ.กระทรวงศึกษาธิการ เลขาธิการคณะกรรมการอุดมศึกษา กระทรวง อว. อธิบดีกรมพลศึกษา ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย อธิการบดี ประธานสภาผู้ปฎิบัติงานในมหาวิทยาลัย กรรมการและอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิในมหาวิทยาลัยรวม21คนรวมทั้งสิ้น30คน
แหล่งข่าวเผยว่า สภามหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติชุดใหม่นี้จะต้องทำหน้าที่สอบสวนความผิดต่างๆในระยะเวลา1ปีที่ผ่านมาเพื่อให้มีการเรียกเงินงบประมาณของรัฐบาลกลับคืนมาอีกด้วยถ้าหากว่าพบว่ามีการใช้จ่ายเงินโดยปราศจากความรับผิดชอบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี