ศึกลูกหนัง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เกมซูเปอร์ซันเดย์ประจำวันอาทิตย์นี้คู่บิ๊กแมทช์ “ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล จ่าฝูงของตาราง จะบุกไปเยือน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่สนามแอนฟิลด์ เริ่มฟาดแข้งในเวลา 22.30 น. เป็นต้นไป
เจ้าบ้าน “หงส์แดง” เพิ่งบุกเสมอ เชลซี แบบไร้สกอร์ส่งผลให้ยังคงรั้งอันดับ 8 บนตาราง ทำให้โอกาสลุ้นตั๋วยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลหน้านั้นริบหรี่เต็มที่แล้ว เกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือเฮฟวี่เมทัล จำเป็นต้องกระตุ้นฟอร์มลูกทีมให้กลับมาให้ได้ โดยสภาพทีมจะได้รับข่าวดีเมื่อ ติอาโก้ อัลกันตาร่า กองกลางคนสำคัญที่เจ็บตั้งแต่ ก.พ. จะฟิตทันกลับมาลงสนาม ส่วน หลุยส์ ดิอาซ ปีกตัวจี๊ดที่เพิ่งหายเจ็บจะยังไม่พร้อมในเกมนี้ ส่วน สเตฟาน บายเซติช และ นาบี เกอิต้า ยังคงเดี้ยงพักยาว
ส่วนแกนหลักรายอื่นๆ นำโดย เวอร์กิล ฟานไดค์ จะหายป่วยกลับมาบัญชาการเกมรับร่วมกับ อิบราฮิมา โกนาเต้ พร้อมให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์ ที่ฟอร์มหลุดต่อเนื่องลงยืนแบ๊กขวา และมี แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ยืนแบ๊กซ้าย ส่วนแดนกลางฟาบินโญ่ กับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เป็นห้องเครื่อง ส่วนอีกรายเชื่อว่า ติอาโก้ จะเบียด เจมส์ มิลเนอร์ หรือ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ยืนตัวจริง พร้อมให้ 3 แนวรุกอย่าง ดาร์วิน นูนเญซ, โคดี้ กัคโป และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ลงทะลวงตาข่าย
โดยก่อนเกม คล็อปป์ เผยถึงสถิติการเล่นใน แอนฟิลด์ที่พวกเขา ไม่พ่ายให้ อาร์เซน่อลมา 9 นัดติดต่อกัน และเป็นการชนะถึง 6 นัดหลังสุดด้วย “อย่างน้อยเราสามารถพูดถึงมันอีกครั้ง เพราะที่นี่คือ แอนฟิลด์ เราได้เล่นในบ้านและต้องตอบสนองในทิศทางบวก เราต้องทำเพื่อปรับปรุง นั่นคือสิ่งที่เราจะพยายามอย่างเต็มที่ในวันอาทิตย์นี้”
“เรามีช่วงเวลาที่น่าจดจำมากมายที่แอนฟิลด์ แน่นอนว่ามันสำคัญมากที่ได้ลงเล่นต่อหน้าแฟนบอล มันคือสิ่งที่เราต้องนำมาใช้ไม่ใช่แค่หวังพึ่งพาเสียงเชียร์ของแฟนบอล แต่ผลงานในสนามนั้นต่างออกไป ต้องทุ่มเทอย่างเต็มกำลัง จะหวังพึ่งแค่เสียงเชียร์อย่างเดียวไม่ได้ ต้องเล่นให้ดีด้วย” กุนซือชาวเยอรมัน กล่าว
ทางฝั่งทีมเยือน “ไอ้ปืนใหญ่” ที่ครองจ่าฝูงของตารางอย่างเหนียวแน่น และชนะในเกมลีกมา 5 นัดติด อย่างไรก็ตาม นี่ถือว่าเป็นเกมสำคัญอย่างยิ่ง เพราะหากไม่สามารถบุกมาเก็บแต้มได้ ก็มีโอกาสสูงที่จะโดน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แซงเช่นกัน เนื่องจากปลายเดือนนี้พวกเขาต้องไปเยือนถิ่น เอติฮัด ซึ่งจะเป็นเกมวัดแชมป์อย่างแท้จริง
เกมนี้สภาพทีมของ มิเกล อาร์เตต้า กุนซือชาวสเปน จะยังขาดแนวรับคนสำคัญอย่าง วิลเลียม ซาลิบา ปราการหลังชาวฝรั่งเศส รวมไปถึง ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ กองหลังทีมชาติญี่ปุ่น ที่เจ็บเข่าปิดเทอมไปเรียบร้อย ส่วน เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ เจ็บบริเวณข้อเท้าคาดว่าหายทันลงเล่นในเกมนี้ แต่อาจต้องนั่งสำรอง ทำให้เกมนี้แผงแบ๊กโฟร์จะวาง ร็อบ โฮลดิ้ง ที่ได้รับโอกาสช่วงหลังแล้วทำได้ดีมาก คู่กับกาเบรียล มากัลเญส พร้อมให้ เบน ไวท์ และ โอเล็กซานเดอร์ซินเชนโก้ เป็นแบ๊ก 2 ฝั่ง ส่วนแดนกลาง โธมัส ปาร์เตย์ จะเป็นห้องเครื่องร่วมกับ กรานิต ชาก้า พร้อมให้ มาร์ติ โอเดการ์ด จอมทัพกัปตันทีมคอยขับเคลื่อนเกมร่วมกับ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่และ บูกาโย่ ซาก้า และวาง กาเบรียล เฆซุส ยืนเป็นหัวหอกตัวเป้าล่าตาข่าย
ก่อนเกม อาร์เตต้า ยอมรับว่าการมาเยือนที่แอนฟิลด์นั้นยากเสมอ แต่ก็พร้อมตั้งเป้าหวังที่จะพาทีมบุกมาเอาชนะที่สนามแห่งนี้ให้ได้ “พวกเขาเป็นทีมที่ยอดเยี่ยม บริหารด้วยกุนซือระดับท็อป และบรรยากาศในแอนฟิลด์นั่นน่าเหลือเชื่อ ซึ่งทำให้เราและคู่ต่อสู้ทุกทีมต้องพบเจอกับความยากลำบาก เหมือนกับเวลาที่คู่แข่งมาเยือนเราที่เอมิเรสต์”
“คุณรู้ไหมมันยากมาก ดังนั้นเรารู้ดีว่าวันอาทิตย์นี้คือโอกาสครั้งสำคัญที่เราจะทำบางสิ่งในช่วง 2-3 ปี เพื่อคว้าชัยชนะในสถานที่ที่เราไม่เคยทำได้ในรอบหลายปี ดังนั้น เราต้องเล่นด้วยความกล้าหาญแม้ว่าตอนนี้เราจะอยู่ในตำแหน่งที่แตกต่างกัน เราต้องกล้าที่จะกำหนดทิศทางของเกมด้วยตัวเอง ในวันอาทิตย์ เราจะพยายามทำแบบนั้น” กุนซือชาวสเปน กล่าว
สำหรับสถิติที่น่าสนใจทั้งคู่พบกันมา 61 เกม ลิเวอร์พูล ชนะไปถึง 25 นัด เสมอ 19 นัด และ อาร์เซน่อล ชนะ 17 นัด ซึ่งการเจอกัน 6 เกมหลังที่ แอนฟิลด์ หงส์แดง คว้าชัยได้ทั้งหมด แต่ฟอร์มเวลานี้พวกเขาก็ไม่ชนะใครมา 4 นัดติดต่อกันในทุกรายการ นับตั้งแต่ถล่ม แมนยูฯ 7-0 ส่วนอาร์เซน่อล แม้เวลานี้จะชนะมาในลีก 7 เกมติดต่อกัน แต่พวกเขาไม่สามารถบุกมาชนะที่ แอนฟิลด์ ได้นานถึง9 นัดเข้าไปแล้ว ซึ่งหนสุดท้ายที่คว้าชัยต้องย้อนไปถึงปี 2012 สมัยนั้น มิเกล อาร์เตต้า กุนซืออาร์เซน่อล ยังเป็นนักเตะอยู่เลย
11 ตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ (GK); เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เวอร์กิล ฟาน ไดค์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน; จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่,ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ; โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โคดี้ กัคโป, ดาร์วิน นูนเญซ
อาร์เซน่อล (4-2-3-1) : อารอน แรมส์เดล (GK); เบน ไวท์, ร็อบ โฮลดิ้ง, กาเบรียล มาร์กัลเญซ, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ,โธมัส ปาร์เตย์, กรานิต ชาก้า , บูกาโย่ ซาก้า, มาร์ติน โอเดการ์ด, กาเบรียล มาร์ติเนลลี, กาเบรียล เฆซุส
ทรรศนะก่อนเกม : หนึ่งในเกมแห่งฤดูกาลของ อาร์เซน่อลหากพวกเขายังหวังจะเป็นแชมป์หนแรกในรอบ 19 ปี เกมนี้ไม่สามารถพลาดได้เลยด้วยประการทั้งปวง แต่การเจอกับ ลิเวอร์พูล ที่กำลังเข้าตาจน และต้องการชัยชนะเช่นกัน เรียกว่าทั้งสองทีมใส่กันเกิน 100 แรงถีบแน่ ดูจากฟอร์มอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ และเกมนี้มีโอกาสแบ่งแต้มกันไปสูง
สกอร์ที่คาด : เสมอ 1-1
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี