Kick It Out องค์กรการกุศลต่อต้านการเลือกปฏิบัติ (Anti-discrimination charity) ได้รับรายงานเหตุการณ์พฤติกรรมเลือกปฏิบัติเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจถึง 65% ในช่วงฤดูกาล 2022-23 ที่ผ่านมา
องค์กรกล่าวว่าได้รับรายงานสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 1,007 รายการ จากการแข่งขันตั้งแต่ระดับรากหญ้า, เกมระดับมืออาชีพ และจากสื่อสังคมออนไลน์
โทนี่ เบอร์เน็ตต์ ผู้บริหารระดับสูงของ Kick It Out กล่าวว่า การช่วยเหลือและให้การสนับสนุนผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการล่วงละเมิดยังคงเป็น “ความสำคัญสูงสุด” ขององค์กรต่อไป แม้จะมีปัญหามากมายกว่าเดิมมาก
“รายงานที่เพิ่มขึ้นอย่างมากทั่วทั้งเกมเป็นเรื่องที่น่าตกใจ” เบอร์เน็ตต์ กล่าว “มันเสริมความแข็งแกร่งให้กับความตั้งใจของเราที่จะจัดการกับการเลือกปฏิบัติในทุกด้านของฟุตบอล โดยเบื้องหลังสถิติเหล่านี้คือบุคคลที่เคยประสบกับการถูกเลือกปฏิบัติอย่างน่าเศร้า และเราจะให้การสนับสนุนผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการล่วงละเมิด เรื่องนี้ยังคงเป็นสิ่งที่ Kick It Out ให้ความสำคัญสูงสุด”
เรื่องดังกล่าวได้มีการพบการรายงานเหตุการณ์การเลือกปฏิบัติเพิ่มขึ้น 65.1% เมื่อฤดูกาลที่แล้ว แบ่งเป็นการเหยียดเชื้อชาติยังคงเป็นรูปแบบการเลือกปฏิบัติที่มีการรายงานมากที่สุด โดยคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของรายงานทั้งหมด (49.3%), รายงานการละเมิดทางออนไลน์เพิ่มขึ้นจาก 74 เป็น 281-เพิ่มขึ้น 279% และรายงานพฤติกรรมเหยียดเพศ/เกลียดผู้หญิงเพิ่มขึ้นจาก 16 เป็น 80-เพิ่มขึ้นถึง 400%
อย่างไรก็ตาม Kick It Out ยังชี้ให้เห็นว่าจำนวนเหตุการณ์ที่เพิ่มขึ้น อาจบ่งบอกถึงการรับรู้ที่เพิ่มขึ้นและความตั้งใจมากขึ้นสำหรับในการรายงานการเลือกปฏิบัติ
“ในขณะที่เรายังคงทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อให้หลายคนเลิกทำพฤติกรรมต่าง ๆ เหล่านี้ เรายังเรียกร้องให้แฟนบอล, สโมสร, ลีก และหน่วยงานกำกับดูแลช่วยเหลือเราในเรื่องนี้ และเราได้รับการสนับสนุนให้จำนวนรายงานต่อเหตุการณ์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ชี้ให้เห็นว่าผู้คนมีความอดทนต่อพฤติกรรมการเลือกปฏิบัติน้อยลง และมีแนวโน้มที่จะรายงานการละเมิดเมื่อพวกเขาพบเห็นเรื่องต่างๆ เหล่านี้”
“ตัวเลขของเราให้ภาพรวมของสิ่งที่เกิดขึ้นในเกม แต่เรายังไม่รู้ภาพรวมทั้งหมด เพราะสโมสร, ลีก และหน่วยงานกำกับดูแล ไม่ได้รับคำสั่งให้เปิดเผยข้อมูลที่ลงลึกรายละเอียด”
“สิ่งนี้ตอกย้ำว่าทำไมฟุตบอลถึงต้องการกลไกการรายงานแบบรวมเข้ามาที่ศูนย์กลางอย่างเร่งด่วน เพื่อรวบรวมและตรวจสอบรายงาน เพียงครั้งเดียวที่เกิดขึ้นเท่านั้นที่เราสามารถเข้าใจขอบเขตทั้งหมดของปัญหาในวงการฟุตบอลและจัดการกับมันได้อย่างเต็มกำลังของกีฬา”
รายงานดังกล่าวเผยแพร่หนึ่งวันหลังจากครบรอบ 2 ปีของรอบชิงชนะเลิศยูโร 2020(เตะปี 2021) ซึ่งเห็นว่ามาร์คัส แรชฟอร์ด, บูกาโย่ ซาก้า และจาดอน ซานโช่ 3 นักเตะทีมชาติอังกฤษ ถูกเหยียดผิวทางออนไลน์เนื่องจากพลาดการดวลจุดโทษและแพ้ให้กับ อิตาลี
วินิซิอุส จูเนียร์ส ดาวเตะบราซิล โดนการเหยียดสีผิว ก่อนจะตอกกลับอย่างเผ็ดร้อน ถือเป็นอีกตัวอย่างสำคัญแห่งโลกฟุตบอล
ตัวเลขดังกล่าวสอดคล้องกับรายงานการเลือกปฏิบัติในประเทศอื่นๆ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว อาทิ ในสเปน มีคน 7 คนถูกลงโทษจากการเหยียดเชื้อชาติต่อวินิซิอุส จูเนียร์ กองหน้าบราซิลของเรอัล มาดริด
4 คน ถูกปรับ 60,001 ยูโร และถูกแบนในสนาม 2 ปีจากการแขวนคอหุ่นของวินิซิอุสใกล้สนามซ้อมของเรอัลในเดือนมกราคม ขณะที่อีก 3 คนถูกปรับ 5,000 ยูโร แบนเป็นเวลา 1 ปี สำหรับทำท่าทางเหยียดผิวระหว่างเกมของเรอัลที่พบกับ
บาเลนเซียเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม
ในรายงานล่าสุดโดยฟีฟ่า เกือบ 20,000 โพสต์บนโซเชียลมีเดียที่มุ่งเป้าไปที่ผู้เล่น, โค้ช และเจ้าหน้าที่ในช่วงฟุตบอลโลก 2022 เมื่อปีที่แล้ว จาก 20 ล้านโพสต์ที่สแกนโดยซอฟต์แวร์กลั่นกรองที่พัฒนาโดยฟีฟ่าและสหภาพผู้เล่น (Fifpro) มีทั้งหมด 286,895 รายการ ถูกซ่อนจากมุมมองสาธารณะ
แฮร์รี่ เคน พลาดจุดโทษทำให้ อังกฤษ ตกรอบบอลโลก 2022 กลายเป็นการละเมิดเรื่องสิทธิ์มากที่สุดในโลกออนไลน์
การละเมิดที่พุ่งสูงขึ้นมากที่สุดเกิดขึ้นหลังจากที่ อังกฤษ แพ้ให้กับ ฝรั่งเศส ในรอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อ แฮร์รี่ เคน ยิงจุดโทษในช่วงท้ายเกมไม่เข้าทำให้ อังกฤษ ตกรอบ
ในขณะเดียวกัน ในวงการคริกเก็ต รายงานของคณะกรรมการอิสระเพื่อความเท่าเทียมในกีฬาคริกเก็ต (ICEC) ที่เผยแพร่เมื่อเดือนที่แล้ว ระบุว่า การเหยียดเชื้อชาติ การกีดกันทางเพศ การแบ่งแยกชนชั้น และการเหยียดเชื้อชาติ “แพร่หลาย”ในเกมของอังกฤษและเวลส์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี