ความเคลื่อนไหวทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย หลังสามารถผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 49 ได้สำเร็จ โดยจะดวลกับ ทีมชาติอิรัก ในวันอาทิตย์ที่10 ก.ย.นี้ ที่สนามสมโภช เชียงใหม่่ 700 ปี เวลา 20.30 น. ถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐ ทีวี ช่อง 32 และ เอไอเอส เพลย์

โดย ไทย ที่เอาชนะ เลบานอน มาได้แบบสุดมัน 2-1 โดย “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา โขกประตูชัย ช่วงท้ายเกมนาที 85 ทำให้ทัพ “ช้างศึก” จะได้เข้าไปลุ้นแชมป์ครั้งแรกในรอบ 6 ปีโดยจะดวลกับ อิรัก ที่เอาชนะการดวลจุดโทษ อินเดีย มา5-4 (เสมอในเกม 2-2)

ล่าสุด มาโน่ โพลกิ้ง กุนซือของทีมได้นำลูกทีมลงฝึกซ้อมในช่วงเย็น โดยแข้งตัวหลักได้เน้นไปที่การฟื้นฟูสภาพร่างกาย และให้แข้งที่เป็นสำรองลงซ้อมอย่างต่อเนื่องที่สนาม โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย ซึ่งกุนซือชาวบราซิล เผยถึงความพร้อมก่อนเกมนัดชิงชนะเลิศว่า

“เกมกับ เลบานอน ต้องยกเครดิตให้กับลูกทีมทุกคน เรามีครึ่งแรกที่ดีมากๆ เล่นได้อย่างเข้มข้น สามารถบีบคู่ต่อสู้ได้ตลอดและควรยิงได้มากกว่า 1 ประตูด้วยซ้ำ ครึ่งหลังเลบานอนกลับมาได้สร้างปัญหาให้เราได้เยอะ แต่โดยรวมตลอด 90 นาทีคิดว่าเราสมควรเป็นผู้ชนะ”

“งานของเรายังไม่จบ การเจอ อิรัก คู่ชิงชนะเลิศเป็นทีมที่แรงกิ้งดีที่สุด เราจะต้องไปวิเคราะห์ข้อมูลจากวิดีโอการเล่นต่างๆ แล้วหาดูว่าระบบไหน วิธีการเล่นไหน ที่จะทำให้เรามีผลงานที่ดี หาจุดที่สร้างความได้เปรียบให้กับทีมไทยให้ได้ตอนนี้เรามาได้ครึ่งทางแล้ว ยังงานมีหนักที่ต้องทำกันอีก เราต้องการจะเป็นแชมป์ให้ได้” กุนซือทีมชาติไทย กล่าว

ทั้งนี้ ตลอดการแข่งขัน 48 ครั้งที่ผ่านมา ทีมชาติไทย ครองสถิติเป็นทีมที่ได้แชมป์คิงส์คัพมากที่สุด ด้วยสถิติคว้าแชมป์ไปแล้ว 15 ครั้ง โดย 2 ใน 15 ครั้งที่ได้เป็นการครองแชมป์ร่วมกันกับมาเลเซีย ในปี 1976 และเกาหลีใต้ ในปี 1980 ส่วนครั้งล่าสุดที่ทัพช้างศึกได้แชมป์เกิดขึ้นเมื่อปี 2560 ด้วยการเอาชนะ เบลารุส ในการดวลจุดโทษ 5-4 หรือเกิดขึ้นเมื่อ 6 ปีที่แล้วซึ่งยุคนั้นมี มิโลวาน ราเยวัช กุนซือชาวเซอร์เบียคุมทัพ