วันจันทร์ ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ไข่เป็ด มีพลังงานประมาณ 185 กิโลแคลอรี โปรตีน 12.8 กรัม ไขมัน 13.7 กรัม ไข่เป็ดมีแคลอรีสูงกว่าไข่ไก่ และไข่นกกระทา เพราะมีขนาดใหญ่ เนื่องจากส่วนของไข่แดงที่มากกว่า ทำให้ค่าเฉลี่ยแล้วไข่เป็ดจึงมีโปรตีนสูง วิตามินเอ แคโรทีนอยด์ ธาตุเหล็ก วิตามินบี 12สูงกว่าราว 3-12 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับไข่ไก่ และไข่นกกระทา
ข้อควรระวัง
ไข่เป็ด มีคอเลสเตอรอลสูงในไข่แดงราว 3-12 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับไข่ไก่ และไข่นกกระทา สำหรับผู้มีปัญหาสุขภาพในเรื่องคอเลสเตอรอล ผู้สูงอายุควรหลีกเลี่ยง ไข่เป็ดจะมีลักษณะของไข่ขาวเนื้อแน่น เหมาะนำมาทำไข่ต้ม ไข่ทอด หรือทำเป็นไข่พะโล้ เพราะไข่เป็ดมีกลิ่นคาวค่อนข้างแรงจึงไม่เหมาะนำมารับประทานแบบไม่สุก
ประโยชน์ของไข่ ทั้งไข่แดงและไข่ขาว
ไข่เป็นอาหารสมองพบสารประกอบทางเคมีที่เรียกว่า โคลีน ( Choline ) ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญตัวหนึ่งที่จัดอยู่ในกลุ่มของวิตามินบีพบได้ในไข่และอาหารบางชนิดมีส่วนสำคัญในการรักษาเซลล์สมองให้แข็งแรง โดยเฉพาะการเสริมสร้างเยื่อหุ้มเซลล์และป้องกันการเสื่อมของเซลล์สมอง ไข่ดีต่อสุขภาพตาเพราะในไข่มีลูทีน ซีแซนทีนซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ 2 ชนิด ช่วยป้องกันปัญหาสายตาที่รุนแรง เช่น ต้อกระจก และจอประสาทตาเสื่อม และมีวิตามินเอมีความสำคัญในการบำรุงรักษาสายตา ไข่เป็นแหล่งโปรตีนดีต่อสุขภาพช่วยให้ร่างกายสร้างเนื้อเยื่อทุกชนิด ยังมีส่วนช่วยสร้างมวลกล้ามเนื้อ และป้องกันโรคกระดูก เช่น กระดูกเปราะ กระดูกหัก กระดูกบาง
ทารกในครรภ์ต้องการโปรตีน หากคุณแม่รับประทานโปรตีนจากไข่ จะช่วยเสริมวิตามิน แร่ธาตุ เพิ่มพัฒนาการทางสมองของลูกน้อยนอกจากนี้โปรตีนในไข่ยังช่วยสร้างกล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อ และกระดูก สารโคลีนในไข่แดงเป็นแหล่งโคลีนที่เข้มข้นที่สุด ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของอะซิติลโคลีน เป็นระบบติดต่อสื่อสารระหว่างเซลล์ประสาทต่างๆ ที่สำคัญของสมองในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร ดังนั้น การได้รับสารโคลีนอย่างเพียงพอจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาสมองตามปกติ
การกินไข่วันละ 1 ฟอง ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีในร่างกาย และช่วยเพิ่มระดับไขมันดี (HDL) ไข่เต็มไปด้วยโปรตีนความหนาแน่นสูงเป็นคอเลสเตอรอลชนิดดี แต่ในผู้ที่มีระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีสูงกว่าปกติอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ และหลอดเลือดได้เช่นกัน ในไข่แดงประกอบด้วย ทริปโตเฟน ไทโรซีน และกรดอะมิโนที่ช่วยป้องกันโรคหัวใจไข่แดงมีสารประกอบหลายชนิดที่เรียกว่าเปปไทด์ ซึ่งการวิจัยพบว่าสามารถลดความดันโลหิตได้ ไข่แดงเป็นแหล่งสำคัญของลูทีนและซีแซนทีน แคโรทีนอยด์ สามารถป้องกันต้อกระจกและความเสื่อมของจอประสาทตา ผู้หญิงในระหว่างตั้งครรภ์และคุณแม่ให้นมบุตร ซึ่งการได้รับโคลีนอย่างเพียงพอมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากโคลีนจำเป็นต่อการพัฒนาสมองตามปกติ ช่วยในการควบคุมน้ำหนักนิยมใช้ในโปรแกรมลดน้ำหนัก ช่วยให้เรารู้สึกอิ่มนานขึ้น
ผู้ป่วยกับการรับประทานไข่
การกินไข่ กับโรคเบาหวานชนิดที่ 2 จากการศึกษาแบบสุ่มในผู้ที่มีภาวะ metabolic syndrome แสดงให้เห็นว่าผู้ที่บริโภคไข่ 3 ฟองต่อวัน ส่งผลให้มีความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดี ในเรื่องของ HDL-cholesterol, insulin sensitivity และอีกกรณีศึกษาเกี่ยวกับการลดน้ำหนักแบบควบคุมในผู้ที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้รับการวินิจฉัยพบว่า ไขมันและกลูโคสดีขึ้นหลังจากบริโภคไข่วันละ 2 ฟองเป็นเวลา 12 สัปดาห์ อาหารเช้าที่ทำจากไข่อุดมไปด้วยโปรตีน (พลังงาน 35% ; โปรตีนไข่ 26.1 กรัม) จะช่วยส่งเสริมการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในผู้เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2
การกินไข่ กับโรคอ้วน โรคอ้วนถือเป็นปัญหาสุขภาพที่เกิดได้จากหลายปัจจัยและซับซ้อน คำแนะนำในปัจจุบันสำหรับการควบคุมน้ำหนักคือการส่งเสริมการออกกำลังกายพร้อมกับการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ โดยรวมถึงธัญพืช ผลไม้ ผัก โปรตีน และ ผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำหรือปราศจากไขมัน อีกทั้งบริโภคโปรตีนคุณภาพสูงจากไข่ที่ส่งผลต่อความอิ่ม ในขณะเดียวกันก็มีผลต่อการลดน้ำหนักด้วย ในวัยผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักเกิน เปรียบเทียบระหว่างผู้ที่นิยมรับประทานเบเกิล และไข่เป็นอาหารเช้า แสดงให้เห็นว่าผู้ที่บริโภคไข่รู้สึกกระปรี้กระเปร่า มีดัชนีมวลกายลดลง 61% และน้ำหนักลดลง 65% จากการทดลองเป็นระยะเวลา 3 เดือนในกลุ่มตัวอย่างที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ผู้ที่บริโภคไข่ 2 ฟองต่อวันเป็นเวลา 6 วันต่อสัปดาห์นั้นมีรายงานว่า ความหิวนั้นลดลงและรู้สึกอิ่มเร็วมากขึ้นกว่าผู้ที่บริโภคไข่น้อยกว่า 2 ฟองต่อสัปดาห์
กลุ่มคนที่ต้องระวังการบริโภคไข่ คนที่ต้องระวังเรื่องการบริโภคไข่เป็นพิเศษ และควรบริโภคไข่ 3-4 ฟองต่อสัปดาห์หรือบริโภคแค่ไข่ขาวเท่านั้น ได้แก่
l ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
l ผู้สูงอายุ
l ผู้ป่วยไขมันในเลือด
จากการวิจัยทางโภชนาการชี้ให้เห็นว่า ไข่มีส่วนช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ การทำงานของสมอง สุขภาพของดวงตา และอื่นๆ อีกมากมาย ที่ส่งผลดีต่อร่างกาย โดยการรับประทานไข่ที่ดีต่อสุขภาพควรเป็นไข่ต้ม และควรหลีกเลี่ยงการทอดด้วยน้ำมันเพราะอาจทำให้ระดับคอเลสตอรอลสูงได้ การรับประทานไข่วันละหนึ่งถึงสามฟอง มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายอย่าง แต่จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล หากท่านมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ถึงความเหมาะสมของปริมาณการบริโภคไข่ให้ดีต่อสุขภาพและไม่เป็นอันตราย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
โรงพยาบาลสมิติเวช www.samitivejhospitals.com
บทความเขียนโดย พญ. กัญจณี ธนะแพสย์ สาขาอายุรศาสตร์
อนุสาขาอายุรศาสตร์โรคต่อมไร้ท่อและเมตะบอลิสม
เว็บไซต์ Amprohealth : www.amprohealth.com
โรงพยาบาลวิชัยยุทธ : www.vichaiyut.com/
กองประชาสัมพันธ์
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี