ฟารังคี หรือ ฝรั่ง รุมเจาะประเด็นคำว่า “All eras come to an end, Erik”
แมนฯ ยูไนเต็ด 0 บาเยิร์น มิวนิค 1 ทำให้สถานการณ์ของ เอริค เทน ฮาก กุนซือดัทช์แมน ร้อนยิ่งกว่าอากาศหน้าหนาวเมืองไทย
แคมเปญยุโรปของ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถือเป็นความล้มเหลวอย่างย่อยยับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ เอริค เทน ฮาก หลังจากทำทีมตกรอบแบบสิ้นสภาพในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ด้วยการแพ้ให้กับ บาเยิร์น มิวนิค จากเยอรมนี 0-1
สถิติของ “ปีศาจแดง” ซีซั่นนี้ถือว่า ย่ำแย่สุดๆ เมื่อชนะที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ฤดูกาลนี้ 7 นัด เท่ากับการพ่ายแพ้ในถิ่นถึง 7 นัด พวกเขาแพ้ “คาบ้าน” สองครั้งติดต่อกันใน 4 วัน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลายเป็นทีมอังกฤษทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่เสีย 15 ประตูในรอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ลีก และเป็นทีมแรกของพรีเมียร์ลีกที่จบอันดับบ๊วยของกลุ่ม ยูซีแอล ถึงสองครั้ง หนแรกฤดูกาล 2005/06
แรงเหวี่ยงต่างๆ เกิดขึ้นมากมายสำหรับ “ปีศาจแดง” และนี่คือสถิติสุดบ้าคลั่งเฉพาะฤดูกาลนี้ที่ผมพอจะเก็บมาฝากได้
-เสีย 3 ประตูขึ้นไป ใน 4 เกม ในศึกยูซีแอลหนึ่งฤดูกาล
-เสีย 4+ ในเกมแบ่งกลุ่มยูซีแอล ถึง 2 เกม
-เป็นทีมแรกที่เสียจุดโทษ 4 ครั้งจาก 4 เกมแรกของกลุ่มซีแอลในประวัติศาสตร์การแข่งขัน
-เสีย 3 ประตูขึ้นไปใน 3 เกมติดต่อกันตั้งแต่ปี 1978
-แพ้ที่สนามท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ หนแรก
-แพ้เกมเยือน 2 นัดแรกนับตั้งแต่ปี 1973-74
-เสียประตูเกิน 1 ประตูต่อนัด ติดๆ กันถึง 4 เกมนับตั้งแต่ปี 1979
-เสีย 2 ประตู ในช่วง 4 นาทีแรกของเกมพรีเมียร์ลีกที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด
-ไม่เคยโดนส่อง 23 ครั้งในเกมเดียวที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก
-ไบรท์ตัน ชนะสองนัดติดต่อกันที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด
-แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จบด้วยคะแนนเพียง 5 แต้มในรอบแบ่งกลุ่มซีแอล น้อยสุดในประวัติศาสตร์ทีม
-ทีมแรกที่เสียถึง 15 ประตูในรอบแบ่งกลุ่มยูซีแอลในประวัติศาสตร์การแข่งขัน
-แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ 4 จาก 6 เกมในรอบแบ่งกลุ่มยูซีแอลในประวัติศาสตร์การแข่งขัน
-แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสียประตูถึง 5 จาก 6 เกมกลุ่มยูซีแอล
-แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่เคยแพ้ 12 เกมจาก 23 เกมแรกของฤดูกาล
-บอร์นมัธ ชนะที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ครั้งแรก
-บอร์นมัธ ยิง 3 ประตูในโอลด์ แทรฟฟอร์ด หนแรก
-บอร์นมัธ เก็บคลีนชีตที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ครั้งแรก
-แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ 5 นัดจาก 10 นัดแรกในลีกในรอบ 36 ปี
-แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ 7 จาก 16 นัดแรกของพรีเมียร์ลีก
-แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ 8 จาก 15 เกมแรกนับตั้งแต่ปี 1962
-แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ 9 จาก 17 เกมแรกนับตั้งแต่ปี 1974
-แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ 5 จาก 10 เกมแรกที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด นับตั้งแต่ปี 1931
-แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้เกมลีกติดต่อกันให้กับนิวคาสเซิ่ล มาตั้งแต่ปี 1972
-แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 3 เกมติดต่อกันนับตั้งแต่ปี 1922
-นิวคาสเซิ่ล เก็บคลีนชีต 3 นัดติดต่อกันในการเจอกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นับตั้งแต่ปี 1897
-นิวคาสเซิ่ล ชนะที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด หนแรกตั้งแต่ปี 2013
-นิวคาสเซิ่ล ชนะเกมบอลถ้วยกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่ปี 1994
-กาลาตาซาราย ชนะเกมในดินแดนอังกฤษครั้งแรก
-แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ 2 นัดแรกของรอบแบ่งกลุ่มยูซีแอล
-แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสีย 7 ประตูจาก 2 เกมแรกของรอบแบ่งกลุ่มยูซีแอล
-กาลาตาซารายไม่เคยทำประตูหรือชนะในเกมเยือนยูซีแอลมาตั้งแต่ปี 2015 ด้วยการทำ 3 ประตูในเกมเดียว จนกระทั่งปีนี้
-แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ 4 จาก 7 เกมแรกในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก
-แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีแต้มแค่ 9 แต้มจาก 7 เกมแรก ตั้งแต่ปี 1989
-ไม่เคยมีผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำทีมเสียถึง 20 ประตู ให้กับคู่ปรับตัวฉกาจ แลไม่คิดจะเผาผีกันทั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และลิเวอร์พูล ใน 6 เกมแรกที่พบพวกเขา
นี่คือสถิติปีนี้ของ เทน ฮาก
นัดต่อไป เทน ฮาก ต้องยกลไปแอนฟิลด์ โดยปีก่อนนั้นแพ้ ลิเวอร์พูล ถึง 0-7 เป็นหนแรกที่เสียประตูให้กับคู่ปรับแห่งนอร์ทเวสต์ แบบนี้ ตั้งแต่ปี 1895 ซึ่งเกมนั้นเป็นหนแรกในศตวรรษนี้ด้วยที่มีนักเตะยิงได้คนละ 2 ประตูในเกมเดียวถึง 3 คนนั่นคือ โม ซาลาห์, โคดี้ กั๊กโป้ และดาร์วิน นูนเญซ
หลังจากสร้างสถิติอัปยศมากมาย ทำให้อัตราการถูกปลดของเขาอยู่ที่ 5-4 เป็นเต็ง 2 รองจาก สตีฟ คูเปอร์ บอสน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ที่อัตรา 4-6 เท่านั้น
เกมต่อไปถือว่าน่ากลัวต่อเก้าอี้ เทน ฮาก อย่างมาก เนื่องจากจะต้องไปเยือน ลิเวอร์พูล ที่แอนฟิลด์
สรุปผลฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้าย
คืนวันอังคารที่ 12 ธันวาคม 2023
กลุ่มเอ
เอฟซี โคเปนเฮเกน 1-0 กาลาซาตาราย
แมนฯยูไนเต็ด 0-1 บาเยิร์น มิวนิค
เข้ารอบ 16 ทีม : บาเยิร์น มิวนิค (แชมป์กลุ่ม) และเอฟซี โคเปนเฮเกน
ยูโรป้า ลีก : กาลาซาตาราย
บ๊วย : แมนฯยูไนเต็ด
กลุ่มบี
ล็องส์ 2-1 เซบีญ่า
พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น 1-1 อาร์เซน่อล
เข้ารอบ 16 ทีม : อาร์เซน่อล (แชมป์กลุ่ม) และพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น
ยูโรป้า ลีก : ล็องส์
บ๊วย : เซบีญ่า
กลุ่มซี
นาโปลี 2-0 สปอร์ติ้ง บราก้า
อูนิโอน เบอร์ลิน 2-3 เรอัล มาดริด
เข้ารอบ 16 ทีม : เรอัล มาดริด (แชมป์กลุ่ม) และนาโปลี
ยูโรป้า ลีก : สปอร์ติ้ง บราก้า
บ๊วย : อูนิโอน เบอร์ลิน
กลุ่มดี
เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก 1-3 เบนฟิก้า
อินเตอร์ มิลาน 0-0 เรอัล โซเซียดัด
เข้ารอบ 16 ทีม : เรอัล โซเซียดัด (แชมป์กลุ่ม) และอินเตอร์ มิลาน
ยูโรป้า ลีก : เบนฟิก้า
บ๊วย : เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี