เข้าสู่รอบเพลย์ออฟ ศึกคนชนคน อเมริกัน ฟุตบอล NFLปีนี้ เริ่มต้นด้วยข่าวใหญ่ เมื่อเวลาของ บิลล์ บีลิชิค ยอดเฮดโค้ชในตำนาน กับ “นักรบกู้ชาติ” นิวอิงแลนด์ เพทริออตส์ ได้สิ้นสุดลงแล้ว
24 ปี ของโค้ช NFL ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดพร้อมกับแฟรนไชส์ที่โดดเด่นที่สุด
บีลิชิค เดินออกจากสนามยิลเลตต์ สเตเดี้ยม เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ท่ามกลางพายุหิมะ หลังจากพ่ายแพ้ในบ้านต่อ นิวยอร์ก เจ็ตส์ 3-17
ด้วยความพ่ายแพ้ 13 เกมในซีซั่นเดียว ถือเป็นฤดูกาลที่เลวร้ายที่สุดของบีลิชิค ในการเป็นเฮดโค้ชตลอด 29 ปี ซึ่งเขาแพ้ถึง 2 หลักต่อซีซั่นแค่ 4 ครั้งเท่านั้น
ในอาชีพ ดังนั้น เขาและเจ้าของทีม โรเบิร์ต คราฟท์ จึงตกลงร่วมกันที่จะแยกทาง
บีลิชิค คือผู้ชนะซูเปอร์โบวล์ 6 สมัย กับเพทริออตส์ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งใน “ผู้เล่นที่เก่งที่สุดที่อยู่ข้างสนาม” เสมอมา
การคุมทัพของเขาเหมือนกับเข้าไปเล่นเองในทุกตำแหน่งของ เพทริออตส์
ในกีฬาที่สร้างขึ้นเพื่อความเท่าเทียม เขาสามารถครองชัยชนะ และประกาศความยิ่งใหญ่ เป็นไดนาสตี้แบบที่โคตรทีมอื่นๆ ไม่เคยทำได้ เขาได้รับการยกย่องอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะไม่มีใครเคยเห็นเรื่องแบบนี้มาก่อน หรืออาจจะไม่ได้เห็นกันอีกเลยก็ได้
แน่นอนว่า การแยกทางกันครั้งนี้ มันไม่ใช่วิธีที่เขาต้องการหรือสมควรที่จะได้รับ แต่มันคือ “ข้อสรุป” ในการทำงานที่ยื้อกันมาพอสมควรของ บิลิชิค ใน นิวอิงแลนด์
กับซีซั่นที่เหมือนกับจะบอกความจริงที่ว่า บีลิชิค คว้าแชมป์ซูเปอร์โบวล์ได้มากเป็นสองเท่ากับหลายๆ ทีม แต่โดยสรุปมันชัดเจนว่า พวกเขาหล่นไปไกลแค่ไหนแล้ว
หลายคนคงจำกันได้ เจ็ตส์ กับ บีลิชิค มีอดีตกันมานั่นก็เพราะว่า เขาทำงานอยู่ 2 ปี กับยอดโค้ชในตำนานอย่าง บิลล์ พาร์เซลล์ส ในฐานะผู้ช่วยหัวหน้าโค้ชและผู้ดูแลเกมรับของทีม หลังจากการก้าวลงจากตำแหน่งหัวหน้าโค้ชหลังฤดูกาล 1999 พาร์เซลล์ส ได้เคลียร์ทางกับบอร์ดบริหาร แล้วตั้ง บีลิชิค คุมทีม
ปรากฏว่า บีลิชิค เป็นหัวหน้าโค้ชของนิวยอร์ก เจ็ตส์ เพียงวันเดียวเท่านั้น คือวันที่ 4 มกราคม 2000 เขาได้รับการเปิดเผยจากทีมว่านี่คือเฮดโค้ชคนใหม่แทน พาร์เซลล์ส
แต่ในวันรุ่งขึ้นเขาก็กลายเป็นการประกาศลาออกอย่างน่าประหลาดใจ ก่อนที่จะขึ้นโพเดี้ยม เขาได้เขียนข้อความลาออกบนผ้าเช็ดปาก (napkin) มีข้อความว่า “ผมลาออกจากตำแหน่งเฮดโค้ชของ นิวยอร์ก เจ๊ตส์”
จากนั้นเขาก็กล่าวสุนทรพจน์ครึ่งชั่วโมงเพื่ออธิบายการลาออกของเขาต่อคณะสื่อมวลชนที่รวมตัวกัน ก่อนจะเข้าร่วมทีมเพทริออตส์ในปีนั้น
น่าสนใจก็คือ “ข้อตกลง” ที่เขาได้จาก โรเบิร์ต คราฟท์ เจ้าของทีมแพทริออตส์ ก็คือ ให้เขาควบคุมการดำเนินงานฟุตบอลของทีมได้เกือบทั้งหมด ทำให้เขาเป็นผู้จัดการทั่วไปโดยพฤตินัยเช่นกัน จนถึงปี 2009 เขาจึงตั้งคนอื่นมานั่งตำแหน่งต่างๆ
ในช่วงเวลานั้น แฟนของทีมเจ็ตส์ ต้องนั่งตาปริบๆ มองดู บีลิชิค ทำสถิติใหม่และทำลายสถิติมากมาย เคียงข้างกับ ทอม เบรดี้ ควอเตอร์แบ๊กคู่ใจ ที่คว้าความสำเร็จครั้งแล้วครั้งเล่า
โดยทั้งคู่ร่วมกันคว้าแชมป์ซูเปอร์โบวล์ 3 สมัย ใน 4 ฤดูกาลแรกด้วยกัน และชนะ 6 สมัย จากการเข้าชิง 9 ครั้ง ตลอด 18 ปี ไดนาสตี้ที่ไม่รู้จักจบสิ้น
คว้าชัยชนะซูเปอร์โบวล์ 2 สมัยในฐานะดูแลและประสานงานแนวรับของนิวยอร์ก ไจแอนต์ส ทำให้ บีลิชิค มีแชมป์ซูเปอร์โบวล์ในมือถึง 8 สมัย ซึ่งถือเป็นสถิติ NFL อีกรายการหนึ่งที่คว้าชัยได้มากที่สุดในฐานะหัวหน้าโค้ช 6 ครั้ง
เบลิชิกเป็นหัวหน้าโค้ชที่ลงเล่นเพลย์ออฟมากที่สุด 19 ซีซั่น คุมทัพ 44 เกม และชัยชนะ 31 เกมในเพลย์ออฟ รวมถึงชัยชนะรวม 333 นัด ถือเป็นอันดับสองตลอดกาลตามหลังโค้ชไมอามี่ ดอลฟินส์ ในตำนานเพียงคนเดียว นั่นคือ ดอน ชูลา ที่ทำได้ 347 เกม
แน่นอนว่า ความยอดเยี่ยมของเขา มักจะถูกตีความอย่างท้าทายเสมอๆ ว่า เป็นเพราะ เบรดี้ หรือไม่ ทีมจึงสำเร็จได้ขนาดนี้ ยิ่ง เบรดี้ ออกจาากทีมแล้วมาได้แชมป์กับ
แทมปาเบย์ บัคคาเนียร์ส สวนทางกับฟอร์มของ เพทริออตส์ยิ่งทำให้เกิดเครื่องหมายเควสชั่นมาร์ก มากขึ้นไปอีก
ในปี 2020 เบรดี ไปอยู่กับ แทมปาเบย์ บัคคาเนียร์ส และคว้าแชมป์ซูเปอร์โบวล์สมัยที่ 7 ทันที ในขณะที่แพทส์เองก็ตกต่ำทันที เนื่องจาก 4 ฤดูกาล มีสถิติรวม 29-39 รวมถึงเพลย์ออฟแค่หนเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่รอด
ฟอร์มในสนามพังทลาย และบีลิชิคในบทบาทอื่นของเขาในฐานะผู้จัดการทั่วไปโดยพฤตินัย ก็ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก ในการรังสรรค์ผู้เล่นที่ดีพอที่จะรักษาทีมของเขาให้อยู่ในอันดับต้นๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตำแหน่งควอเตอร์แบ็ค ที่เขาเคยทำได้เมื่อ ดรูว์ เบล็ตโซ เจ็บหนัก แล้วกำเนิด ทอม เบรดี้
ดังนั้นการที่เบลิชิค ต้องรับผิดชอบการจัดหานักเตะและการฝึกสอน ทุกอย่างจึงหยุดเมื่อตัวเขาก็หยุด
ในธุรกิจที่โหดเหี้ยมเช่นนี้ แม้แต่ผู้ชนะซูเปอร์โบวล์ถึง 6 สมัย ก็ยังมีอายุการใช้งาน
“กีฬาที่สร้างขึ้นเพื่อความเท่าเทียม” ที่สุดแล้วก็ย้อนศรกลับมาเล่นงานเขาจนได้ แม้มันอาจจะยาวนานกว่า 2 ทศวรรษก็ตาม
ดังนั้นการถกเถียงกันอยู่เสมอว่า บีลิชิค หรือ เบรดี้ ใครกันแน่ที่เป็นแรงผลักดันที่แท้จริงเบื้องหลังการคว้าชัยชนะอันเหลือเชื่อของ เพทริออตส์
เอาเข้าจริงแล้ว อย่างมากความเลยออเจ้า เพราะ บิลิชิค กับ เบรดี้ เป็นกรณีของการจับคู่ที่สมบูรณ์แบบต่างหาก
ทั้งคู่ต่างเห็นคุณค่าของชัยชนะเหนือสถิติที่อิงตามอัตตา และทั้งคู่เชื่อใน “Patriot Way” ที่ทำงานหนักและไร้สาระที่จะเอาสองคนนี้มาขิงกัน
อย่าลืมว่า บิลิชิค ปลูกฝังอะไรในนิวอิงแลนด์ทุุกสมัย
ด้วยคำพูดที่ว่า “ทำงานของคุณแล้วนำผลของมันมาแทนคำพูด” นี่คือสิ่งที่เขาชื่นชอบ
อย่างน้อย 3 ใน 6 แชมป์ซูเปอร์โบวล์ ก็เป็นหนี้ในมาสเตอร์คลาสวิธีเล่นวิธีการป้องกันของ บีลิชิค มากกว่าแขนของ เบรดี้
อย่างน้อย 3 ใน 6 ครั้ง ก็เป็นหนี้ในแขน, ไหวพริบ และวิธีการของ เบรดี้ เช่นกัน
เจ๊ากันไป....ยิ่งใหญ่ทั้งคู่ และเป็นบทจบของ “ไดนาสตี้ ณ นิวอิงแลนด์” ฉบับสมบูรณ์
No Hollywood ending for NFL’s lord of the rings
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี