ความหลากหลายในแหล่งสงวนชีวมณฑลสะแกราช จังหวัดนครราชสีมา นอกจากพรรณพืชนานาชนิดแล้ว “นกอีเสือ” เป็นหนึ่งในสัตว์นานาชนิดที่อาศัยอยู่ภายใต้ความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่แห่งนี้ โดยได้รับสมญานามว่าเป็น “นกสายโหด...ในป่าสะแกราช” จะโหดอย่างไรนั้นเรามาทำความรู้จักพร้อมๆ กันค่ะ
นกอีเสือ (Shrikes) เป็นวงศ์ของนกจับคอนขนาดเล็กในวงศ์ Laniidae ชื่อวงศ์มาจากภาษาละตินที่แปลว่า “นักเชือดหรือ นักชำแหละ” จัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ในพื้นที่ สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช หน่วยงานในภูมิภาคของ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ค้นพบนกอีเสือได้ 4 ชนิด ดังนี้
นกอีเสือสีน้ำตาล (Brown Shrike) ลำตัวยาวประมาณ 20 เซนติเมตร ปากใหญ่หนา ปลายปากแหลมงุ้มเป็นจะงอยสีน้ำตาลเข้มออกดำ มีฟันแหลมอยู่หนึ่งซี่อยู่ที่ขอบปากบน คิ้วขาว มีแถบสีดำจากโคนปากผ่านตาไปถึงหู คาง คอและอกสีขาว ท้องขาวอมน้ำตาลแดงเรื่อๆ หางยาว หลังและหางสีน้ำตาลแดง ใต้หางบริเวณก้นสีน้ำตาลปนเทาอ่อน ปีกสีน้ำตาลเข้ม ขาสีดำ เล็บแข็งแรงแหลมคม นกอพยพเข้ามาในช่วงฤดูหนาว พบบ่อยในป่าสะแกราช
นกอีเสือลายเสือ (Tiger Shrike) ลำตัวยาวประมาณ19 เซนติเมตร หัวโต ปากหนาและหางสั้นกว่านกอีเสือชนิดอื่นๆ ตัวผู้กระหม่อมและท้ายทอยสีเทา หน้าผากสีดำ และมีแถบคาดตาขนาดใหญ่สีดำ ลำตัวด้านบนสีน้ำตาลแดง มีลายเส้นสีดำถี่ๆ ปีกและหางสีน้ำตาลแดง ลำตัวด้านล่างสีขาวตัวเมียสีไม่สดใสเท่าตัวผู้ สีข้างจะมีลายเส้นสีดำถี่มาก เป็นนกอพยพผ่านประเทศไทยไปยังมาเลเซียและอินโดนีเซีย จะพบเฉพาะช่วงต้นและปลายฤดูอพยพ พบน้อยมากในป่าสะแกราช
นกอีเสือหลังแดง (Burmese Shrike) ลำตัวยาวประมาณ 20 เซนติเมตร หัวค่อนข้างโต ปากงุ้ม หางยาว ขนด้านหลังสีน้ำตาลแดง ส่วนกระหม่อม ท้ายทอย และแผ่นหลังส่วนบนมีสีเทา มีแถบสีดำคาดตา ปีกสีน้ำตาลแดงมีแถบสีขาวเล็กๆ บริเวณโคนขนปลายปีก จะเห็นได้ชัดขณะบินใต้ท้องสีน้ำตาลอ่อนเกือบขาว หางยาวสีดำและขนหางด้านนอกสีขาว ตัวผู้บริเวณหน้าผากมีสีดำส่วนตัวเมียหัวมีสีเทา บริเวณหัวตามีสีขาว ปีกและหลังมีสีน้ำตาลแดงจางกว่า จัดเป็นนกประจำถิ่นและนกอพยพมาช่วงนอกฤดูผสมพันธุ์ ในป่าสะแกราชพบบ่อยเฉพาะบริเวณที่โล่งทุ่งหญ้าผสมป่าเต็งรังในช่วงฤดูอพยพ
นกอีเสือหัวดำ (Long-tailed Shrike) ลำตัวยาวประมาณ 25 เซนติเมตร มีหางยาวกว่านกอีเสือชนิดอื่นๆ เป็นนกที่มีสีสันตัดกันสวยงาม บริเวณหัว ปีก และหาง
มีสีดำ ด้านหลังลำตัวมีสีน้ำตาลแดง ด้านล่างของลำตัวมีสีขาว สีข้างหรือด้านข้างลำตัวมีสีน้ำตาลแดงสดใส ขณะบินจุดขาว 2 จุดที่ปีกเห็นได้ชัดเจน นกที่ยังโตไม่เต็มวัยสีจะทึมกว่า หัวและท้ายทอยสีเทาตัดกับแถบคาดตาสีดำที่ใบหน้า มีลายเกล็ดบริเวณหัว ท้ายทอย ด้านหลังและสีข้าง ถือเป็นนกประจำถิ่น พบได้ไม่บ่อยนักในป่าสะแกราช
สำหรับเหตุผลที่นกชนิดนี้ได้ชื่อว่า นกอีเสือ เนื่องจากเป็นนกนักล่าที่กินแมลง สัตว์เลื้อยคลาน และนกขนาดเล็กเป็นอาหาร เมื่อจับเหยื่อได้จะฉีกกินคล้ายสัตว์กินเนื้อ หากกินไม่หมดจะนำไปซ่อนตามกิ่งไม้ คบไม้ หรือเสียบไว้กับของแหลม เช่น หนาม ลวดหนาม แล้วค่อยมากินเหยื่อภายหลัง ซึ่งคล้ายกับพฤติกรรมของเสือนั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก :
หนังสือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในป่าสะแกราช
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี