การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ครั้งที่ 17 “ยูโร 2024” เดินทางมาถึงรอบรองชนะเลิศคู่แรกเล่นในคืนวันอังคารที่ 9 กรกฎาคม 2024 ฟาดแข้งที่สนามมิวนิค อารีน่า ในเแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี รีแมทช์นัดชิงชนะเลิศเมื่อปี 1984 “กระทิงดุ” สเปน แชมป์ 3 สมัยจะพบกับ “ตราไก่” ฝรั่งเศส แชมป์ 2 สมัย โดยมี สลาฟโก้ วินซิซ จากสโลวีเนีย เป็นผู้ตัดสินในเกมนี้
ความพร้อมเริ่มที่ สเปน ภายใต้การคุมทีมของ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้สะบักสะบอมเลยทีเดียวกว่าจะต่อเวลาพิเศษเอาชนะเจ้าภาพ “อินทรีเหล็ก”เยอรมนี มาได้ 2-1 จากประตูชัยของ มิเกล เมริโน่ นาทีที่ 119 เกมนี้จะขาด 3 กำลังหลักสำคัญอย่าง เปดรี้ ที่บาดเจ็บเข่าบิด ปิดฉากยูโรไปเป็นที่เรียบร้อย รวมไปถึง โรบิน เลอ นอร์มองด์ และดานี่ การ์บาฆาล ที่ติดโทษแบน ส่วน อัลบาโร่ โมราต้า กราฟิกในทีวีขึ้นมาว่าได้รับใบเหลืองช่วงท้ายเกม แต่ทาง ยูฟ่า ได้ยืนยันว่าเป็นการเข้าใจผิดจะพร้อมสำหรับเกมนี้
การจัดทัพ นาโช่ เฟร์นานเดซ จะลงเป็นเซ็นเตอร์แบ๊กร่วมกับ อายเมริค ลาปอร์ก ส่วนแบ๊กขวาใช้จอมเก๋าอย่าง เฆซุส นาบาส ขยับมาที่ตรงกลาง ดานี่ โอลโม่ ที่ฟอร์มดีจะลงปั้นเกมร่วมกับ โรดรี้ และฟาเบียนรุยซ์ โดยมี ลามีน ยามาล, อัลบาโร่ โมราต้า และ นีโก้ วิลเลี่ยมส์ ประสานงานเกมรุก
ทางด้าน ฝรั่งเศส ผ่านเกม 120 นาที ก่อนจะดวลจุดโทษเอาชนะ “ฝอยทอง” โปรตุเกส มาได้แบบหืดจับ พวกเขายังไม่สามารถทำประตูได้เลยจากจังหวะโอเพ่นเพลย์ ทีมของ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองป์ แต่ในทางกลับกันก็ยังไม่เสียประตูจากโอเพ่นเพลย์ ถือว่าสมบูรณ์ไม่มีใครบาดเจ็บหรือติดโทษแบน แถมยังได้ อาเดรียง ราบิโอต์ พ้นโทษกลับมาด้วย ดูเหมือนว่าพวกเขาจะได้ทีมที่ลงตัว กลับมาเล่นตามธรรมชาติอย่างที่เคยเป็นในระบบ 4-3-1-2
เมื่อ อาเดรียง ราบิโอต์ กลับมา เอดูอาร์โด้คามาวิงก้า น่าจะต้องกลับไปนั่งสำรอง โดยจะคุมแดนกลางร่วมกับ ออเลเรียง ชูอาเมนี่และเอ็นโกโล ก็องเต้ ปล่อยให้ อองตวนกรีซมันน์ ปั้นเกมรุกอยู่ด้านหลังของหน้าคู่อย่าง มาร์คุส ตูราม และคีลิยัน เอ็มบัปเป้
สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 36 ครั้งในทุกรายการ สเปน ชนะ 16 เสมอ 7 และฝรั่งเศส ชนะ 13 เจอกันในรอบสุดท้ายของรายการนี้มา 4 ครั้ง ฝรั่งเศส เหนือกว่า ชนะ 2 เสมอ 1 และสเปน ชนะ 1
11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม สเปน (4-3-3) : อูไนซิมอน, เฆซุส นาบาส, นาโช่ เฟร์นานเดซ, อายเมริค ลาปอร์ก, มาร์คคูคูเรลญ่า, ดานี่ โอลโม่, โรดรี้, ฟาเบียน รุยซ์, ลามีน ยามาล, อัลบาโร่ โมราต้า และนีโก้ วิลเลี่ยมส์
ฝรั่งเศส (4-3-1-2) : ไมค์ เมญอง, ฌูลส์ คุนเด้, ดาโยต์อูปาเมกาโน่, วิลเลี่ยมส์ ซาลิบา, เตโอ แอร์กนองเดซ, เอ็นโกโล ก็องเต้, ออเรเลียง ชูอาเมนี่, อาเดรียง ราบิโอต์, อองตวน กรีซมันน์, มาร์คุสตูราม และคีลิยัน เอ็มบัปเป้
อัตราต่อรอง : เสมอ ฝรั่งเศส
สกอร์ที่คาด : ฝรั่งเศสเข้าชิงฯ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี