มีหลากหลายโมเมนต์สำคัญหลายชนิดในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้
ความน่าสนใจก็คือในอนาคตการบรรจุกีฬาต่างๆ เข้าร่วมการแข่งขันจะต้อง “เคลียร์” ทั้งในและนอกสนาม
หลายชนิดกีฬาเคลียร์มากยิ่งขึ้นแต่การแข่งขันความเข้มข้นน้อยลงชัดเจนเลยคือ เทควันโด
ที่ยึกยักมากกว่าที่จะต่อสู้กันตรงๆ อาศัยจังหวะสองมากกว่าจังหวะแรกภาพรวมและให้ความสนุกน้อยลงไปเรื่อยๆ กับกติกาที่ละเอียดมากยิ่งขึ้น
ด้วยความละเอียดนี่ก็ต้องแลกมาด้วยความไม่สนุกและขาดเสน่ห์
ขณะที่กีฬาซึ่งเป็นปริศนาธรรมอยู่ในขณะนี้ว่าจะออกหัวออกก้อยในโอลิมปิกสมัยหน้าที่ลอสแองเจลิสมันก็คือมวยสากลอันนี้ยิ่งน่าสนใจเข้าไปใหญ่
การตัดสินในครั้งนี้ปัญหาไม่ค่อยมีเท่าไหร่นัก ไม่ได้เกี่ยวกับประเด็นเพศสภาพของ อิมาน เคลิฟ ของแอลจีเรีย เข้ามาบดบังแต่อย่างใด
ในภาพรวมแล้วไม่มีปัญหาน้อยมาก
แต่เป็นไปได้หรือไม่ว่า ในอนาคตอันใกล้นี้มวยสากลจะปรับยุทธวิธีครั้งสำคัญ
ในการให้คะแนนเมื่อเราเห็นตัวอย่างของเทควันโด ซึ่งเป็นหนึ่งในกีฬาที่ลบภาพว่าค้านสายตาไปได้หมดแล้ว
ชัยชนะที่เราได้เห็นของ “น้องเทนนิส” นั้น ส่วนหนึ่ง (และส่วนสำคัญ) มาจากโค้ชที่ส่งสัญญาณเพื่อประท้วงในระหว่างการแข่งขัน
มีเสียงแนะนำว่า กรณีของมวยถ้ามีการท้าชาเลนจ์หรือใช้วีดีโอ Replay เพื่อให้ผู้ตัดสินได้ตรวจระหว่างยก ก่อนจะให้คะแนนอีกครั้ง
อาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วย “ล้างภาพ” ในอนาคตอันไกลนี้
นับจากวันนี้ไปจนถึงสิ้นปีนี้วงการมวยสากลสมัครเล่นถูกจับตามองเป็นพิเศษเนื่องจากกำลังจะเปลี่ยนมืออย่างเต็มตัวจาก “ไอบา” มาเป็น “เวิลด์บ็อกซิ่ง”
เมื่อไหร่ก็ตามที่ “สหพันธ์กีฬา” มีสมาชิกถึง 50 ประเทศคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือว่า ไอโอซี จะรับรองทันที และเมื่อเป็นเช่นนั้น ลอสแองเจลีส 2028 ไม่น่ามีปัญหาเนื่องจากมีผู้ดูแลในการจัดงานเพราะตลอดโอลิมปิกสองครั้งที่ผ่านมามวยสากลอยู่ในมือของไอโอซีจัดเองโดยตลอด
“ไอบา” กำลังจะกลายเป็นอดีตและที่สำคัญก็คือ รัสเซีย หนุนหลัง
เป็นเรื่องใหญ่ของวงการกีฬาอย่างแท้จริง
เรื่องการเมืองก็เรื่องสำคัญซึ่งไม่สามารถที่จะเลี่ยงหลีกกับกีฬาได้เมื่ออเมริกาซึ่งผลักดันเวิลด์บ็อกซิ่งอยู่เต็มลำ (แล้วให้เนเธอร์แลนด์ออกหน้า) และได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในสหพันธ์กีฬาของไอโอซี
นั่นหมายความว่าพวกเขาในฐานะเจ้าภาพที่ลอสแองเจลิสไม่มีทางที่จะตัดกีฬาอันนี้ได้แน่
ถ้ามาโอลิมปิกแล้วไม่ดูมวย แล้วจะไปดูคนสวยหรือไง
เพราะในโอลิมปิกนั้นกีฬาที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบของคนมาโดยตลอดแบบ“เบอร์ต้น”นั่นก็คือ ยิมนาสติก, ว่ายน้ำ, กรีฑา และมวย มากกว่า ฟุตบอล ด้วยซ้ำ
อเมริกา น่าสนใจยิ่ง เพราะเป็นเวทีท้าทายนักกีฬามวยชาย พี่ไม่ได้เหรียญอะไรเลยตั้งแต่ปี 2012
ขณะเดียวกัน ในวงการจะเอาความเร็ว “บิว-ภูริพล” กำลังเดินทางไปที่อเมริกาเช่นเดียวกัน
สถาบันที่ ภูริพล จะไปศึกษาต่อนั้นคือ “ยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ โอเรกอน” ที่โด่งดังโดดเด่นในเรื่องของการฝึกนักกีฬากรีฑา และมีทีมกรีฑาอย่าง โอรีกอน ดัคส์ แทร็ก แอนด์ ฟิลด์ ที่แข่งขันในลีกระดับมหาวิทยาลัยของสหรัฐ
ผลิตนักกรีฑาระดับโอลิมปิกเกมส์มาแล้วหลายต่อหลายคน
จากนี้อีก 4 ปีข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้แต่ที่แน่ๆ ทุกคนต้องเตรียมตัวกันตั้งแต่วันนี้
เพื่อความเป็นเลิศตามหมุดหมายที่ปักไว้
อย่าปล่อยให้ผ่านไปโดยเฉพาะ “เวลา”
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี