การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกฤดูกาล 2024-25 แมทช์เดย์ที่ 4 ประจำค่ำคืนวันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน 2024 เวลาดี 03.00 น. “เรือใบสีฟ้า”แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อีกหนึ่งตัวแทนจากอังกฤษ จะยกพลบุกไปเยือน สปอร์ติ้ง ลิสบอน จากโปรตุเกส

ความพร้อมเริ่มกันที่เจ้าถิ่น สปอร์ติ้ง ลิสบอน ภายใต้การคุมทีมของ รูเบน อโมริม ที่เตรียมจะไปทำงานกับต้นสังกัดใหม่อย่าง แมนฯยูไนเต็ด ในช่วงเบรกทีมชาติ รายการนี้ลงเล่นมา 3 เกม ชนะ 2 เสมอ 1 มี 7 คะแนนส่วนในลีกยอดเยี่ยมชนะ 10 เกมรวด นัดนี้ไม่มี เอดูอาร์โด้ ควาเรสม่า ที่บาดเจ็บเพียงรายเดียว นอกนั้นอยู่กันครบ มาในระบบ 3-4-3 นำโดย เกโอวานี่ ควอนด้า,ฮิเดมาสะ โมริตะ, มอร์เท่น ยูลมันด์, เกนี่ คาตาโม่, ฟรานซิสโก้ ตรินเกา, วิคเตอร์ เกียวเคเรส, และเปโดร กอนคาเวส

ฝั่งผู้มาเยือน แมนฯซิตี้ ผลงานรายการนี้ยังไม่แพ้ใครชนะ 2 เสมอ 1 มี 7 คะแนน ส่วนในลีกหยุดสถิติไม่แพ้ใครไว้ที่ 32 เกม หลังบุกพ่าย เอเอฟซีบอร์นมัธ 1-2 เกมนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังเจอปัญหานักเตะบาดเจ็บเพียบ ไม่มี โรดรี้, แจ็ค กรีลิช และออสการ์ บ็อบบ์ ส่วนรายอื่นๆ ต้องรอทดสอบความฟิตหลายราย โดยเฉพาะเควิน เดอ บรอยน์ ที่มีแววว่าจะได้ลงบัญชาการเกมรุกร่วมกับ มาเตอุส นูเนส และเฌเรมี่ โดกู โดยมี เออร์ลิ่ง เบร้าท์ ฮาลันด์ ยืนเป็นหน้าเป้า

สถิติการพบกัน 5 เกมหลังสุดในทุกรายการ ถือว่าสูสีผลัดกันชนะฝั่งละ 2 ครั้ง และเสมอ 1

สกอร์ที่คาด : เสมอ 1-1

อีกคู่ในเวลา 03.00 น. “หงส์แดง”ลิเวอร์พูล ตัวแทนจากอังกฤษ จะเปิดแอนฟิลด์รับการมาเยือน “ห้างขายยา” ไบเออร์เลเวอร์คูเซ่น จากเยอรมนี

ความพร้อมเริ่มกันที่เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ล่าสุดเพิ่งเปิดเฉือนเอาชนะ ไบรท์ตัน 2-1 กลับมานำจ่าฝูงพรีเมียร์ ลีกอังกฤษ ส่วนรายการนี้ฟอร์มดีชนะมา 3 เกมรวด มี 9 คะแนน นัดนี้ไม่มีฮาร์วีย์ เอลเลียตต์, อลิสซอน เบ็คเกอร์, เฟเดริโก้ เคียซ่า และดีโอโก้ โชต้า ที่บาดเจ็บส่วน อิบราฮิม่า โกนาเต้ ฟิตกลับมาแล้ว พร้อมเป็นตัวเลือก คาดว่า อาร์เน่อ ชล็อตยังยึดระบบ 4-2-3-1 เหมือนเดิม ไรอันกราเฟนแบร์ช คุมแดนกลางร่วมกับอเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ โดยมี โมฮาเหม็ด ซาลาห์, เคอร์ติส โจนส์ และหลุยส์ ดิอาซ ประสานงานเกมรุกป้อนบอลให้หน้าเป้าอย่าง ดาร์วิน นูนเญซ

ฝั่งผู้มาเยือน ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น รายการนี้ยังไม่แพ้ใครชนะ 2 เสมอ 1 มี 7 คะแนน ส่วนในลีกเพิ่งเสมอกับ “ม้าขาว” สตุ๊ตการ์ท 0-0 เกมนี้ทีมของ ชาบี อลอนโซ่ อามีน อัดลี่ ที่บาดเจ็บพักยาว ส่วน มาร์กแต็ง แตร์นิเย่ร์ และนอร์ดี้ มูคีเล่รอทดสอบความฟิต นอกนั้นอยู่กันครบ มาในระบบเก่ง 3-4-2-1 นำโดย เฌเรมี่ ฟริมปง, กรานิตชาก้า, โรเบิร์ต อันดริช, อเล็กซ์ กรีมัลโด้, ฟลอเรียน เวียร์ตซ์, โยนาส ฮอฟมันน์ และวิคเตอร์ โบนิเฟซ

สถิติการพบกัน 5 เกมหลังสุดในทุกรายการ ไม่เคยจบลงด้วยผลเสมอ ลิเวอร์พูล เหนือกว่าชนะ 4 ส่วน เลเวอร์คูเซ่น ชนะ 1

สกอร์ที่คาด : ลิเวอร์พูล 3-1 เลเวอร์คูเซ่น

ทางด้าน บรูโน่ เฟอร์นันเดส กัปตันทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กล่าวหลังจากเกมที่เสมอกับเชลซี 1-1 ที่บ้านเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า เขาได้พูดคุยกับเอริก เทน ฮาก ผู้จัดการทีมที่ถูกไล่ออก และขอโทษที่ไม่ได้ทำอะไรมากกว่านี้เพื่อหยุดการตกงานของกุนซือชาวดัทช์

“มันไม่ดีสำหรับใครในสโมสรเมื่อผู้จัดการทีมออกจากตำแหน่ง” เขากล่าวกับสกาย สปอร์ตส์ หลังจากยิงจุดโทษได้และยิงประตูแรกในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ของเขาในฤดูกาลนี้“คุณต้องรับผิดบางส่วนกับตัวเอง เพราะเป็นทีมที่ทำได้ไม่ดีนัก และการปลดผู้จัดการทีมออกไปนั้นง่ายกว่าการปลดผู้เล่น 15 คนผมได้พูดคุยกับผู้จัดการทีมและขอโทษแล้ว เราไม่ได้ทำประตู และผมรู้สึกผิด โดยปกติแล้วผมยิงประตูได้เยอะมากแต่ผมก็ทุ่มเทเต็มที่เสมอ และเขาก็รู้เรื่องนี้ดี”

อย่างไรก็ตาม แมนฯยูไนเต็ด ก็ยังไม่สามารถทำประตูในครึ่งแรกที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดได้ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ และพวกเขาเพิ่งจะเก็บได้เพียง 12 แต้ม นี่คือผลงานออกสตาร์ทที่แย่ที่สุดของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากผ่านไป 10 เกมในลีก นับตั้งแต่ฤดูกาล 1986-87 หรือ 38 ปี