การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แมทช์เดย์ ที่ 16 ประจำค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม 2024 ลงเล่นในเวลา 23.30น. เป็นเกมแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ ที่สนามเอติฮัต สเตเดี้ยม “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะพบกับ “ปีศาจแดง”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แมนฯซิตี้ เพิ่งบุกไปพ่าย “ม้าลาย” ยูเวนตุสในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 0-2 ทำให้ทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ชนะแค่เกมเดียวจากการลงเล่น 10 นัดหลังสุด เกมนี้ไม่มี ริโก้ ลูอิส ที่ติดโทษแบน รวมไปถึงแข้งเดี้ยงอย่าง โรดรี้, ออสการ์ บ็อบบ์, จอห์น สโตนส์,มานูเอล อคานจี และนาธาน อาเก้ แต่จะได้มาเตโอ โควาซิซ ฟิตกลับมาคุมแดนกลาง ปล่อยให้ เควิน เดอ บรอยน์ และแบร์นาร์โด้ ซิลวา เป็นตัวปั้นเกมรุกขนาบข้างไปด้วย ซาวินโญ่ และมาเตอุส นูเนส โดยมี เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาลันด์ ยืนเป็นหน้าเป้า
ฝั่งผู้มาเยือนจ่าฝูง แมนฯยูไนเต็ด รั้งอันดับ 13 ของตาราง ผลงาน 15 เกม ชนะ 5 เสมอ 4 แพ้ 6 นับตั้งแต่ รูเบน อโมริม เข้ามาคุมทีม 6 เกม ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 2 ในทุกรายการ เกมล่าสุดบุกเฉือน วิตอเรีย เพลเซ่น 2-1 จากการเหมาของ ราสมุส ฮอยลุนด์ เกมนี้ไม่มี จอนนี่ อีแวนส์ และลุคชอว์ ที่บาดเจ็บ สภาพทีมเริ่มจะสมบูรณ์ขึ้นเรื่อยๆ มีตัวเลือกในการใช้งานมากขึ้น แต่ปัญหายังมีความผิดพลาดกันอยู่ในหลายๆ จุดกับระบบ 3-4-2-1 ที่ต้องปรับตัวกันไป วาง มานูเอล อูการ์เต้ คุมแดนกลางร่วมกับ ค็อบบี้ เมนู วิงแบ๊กสองฝั่งใช้ อาหมัด ดิยัลโล่ และดีโอโก้ ดาโลท์ โดยมี บรูโน่ เฟอร์นานเดส, มาร์คัส แรชฟอร์ด และราสมุสฮอยลุนด์ เป็นสามประสานเกมรุก
สถิติการพบกันทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด แมนฯซิตี้ ชนะ 3 เสมอ 1 และแมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 1 ส่วนสถิติการเจอกันของกุนซือทั้งสองทีม 3 ครั้ง ผลัดกันชนะไปฝั่งละ 1 ครั้ง และเสมอ 1
11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนามของทั้งสองทีม แมนฯซิตี้ (4-1-4-1) : สเตฟาน ออร์เตก้า,ไคล์ วอล์คเกอร์, จาห์ไม ซิมป์สัน-พูซีย์, รูเบนดิอาส, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, มาเตโอ โควาซิซ,ซาวินโญ่, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, เควิน เดอ บรอยน์, มาเตอุส นูเนส และเออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาลันด์
แมนฯยูไนเต็ด (3-4-2-1) : อองเดร์ โอนาน่า, เลนี่ โยโร่, มัตไธจ์ส เดอ ลิกต์, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, อาหมัด ดิยัลโล่, มานูเอล อูการ์เต้,ค็อบบี้ เมนู, ดีโอโก้ ดาโลท์, บรูโน่ เฟอร์นานเดส, มาร์คัส แรชฟอร์ด และราสมุส ฮอยลุนด์
สกอร์ที่คาด : แมนฯซิตี้ 1-1 แมนฯยูไนเต็ด
อีกคู่ที่น่าสนใจของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในคืนวันอาทิตย์ ลงเล่นในเวลา 02.00 น. “สิงห์บลูส์”เชลซี จะเปิดถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ จะเปิดบ้านรับการมาเยือน “ผึ้งน้อย” เบรนท์ฟอร์ด
เชลซี ภายใต้การคุมทีมของ เอ็นโซ่ มาเรสก้ากำลังฟอร์มแรงอย่างต่อเนื่องไม่แพ้ใครมา 9 เกมติดชนะ 7 เสมอ 2 ในทุกรายการ ผงาดขึ้นมาเป็นรองจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้วยการมี 31 คะแนน ตามหลังจ่าฝูง ลิเวอร์พูล 4 คะแนน กลางสัปดาห์ที่ผ่านมาบุกถล่ม อัสตาน่า 3-1 โรเตชั่นทีมแบบยกชุด เกมนี้ไม่มี รีซ เจมส์, เวสลีย์ โฟฟาน่า ที่บาดเจ็บ รวมไปถึง เปโดร เนโต้ ที่ติดโทษแบนจากการสะสมใบเหลืองครบ 5 ใบ นอกนั้นอยู่กันครบ บรรดาตัวหลักที่ได้พักจะมากลับมาเป็นตัวจริงมอยเซส ไคเซโด้ คุมแดนกลางร่วมกับ เอ็นโซ่เฟร์นานเดซ แนวรุกวาง โนนี่ มาดูเอเก้ ประสานงานกับ โคล พัลเมอร์ และเจดอน ซานโช่ โดยมี นิโคลัส แจ็คสัน เป็นหน้าเป้า
ทีมเยือน เบรนท์ฟอร์ด ของโธมัส แฟรงค์ เพิ่งถล่ม นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 4-2 เกมนี้ไม่มี จอชดาซิลวา, แอรอน ฮิคกี้, ริโก้ เฮนรี่, และมาติอัส เยนเซ่น ที่บาดเจ็บ ส่วน วิตาลี่ ยาเนลท์ ต้องรอทดสอบความฟิต นอกนั้นไม่มีปัญหาอะไร มาในระบบ 3-4-2-1 ขยับ ไบรอัน เอ็มเบอโม่ ไปเป็นวิงแบ๊กฝั่งขวา ที่เหลือนำโดย แยฮอร์ ยาร์โมลุค, คริสเตียน นอร์การ์ด, คีน ลูอิส-พ็อตเตอร์, วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่, โยอัน วิสซ่า และอิกอร์ ติอาโก้
สถิติการพบกันทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด เชลซี เอาชนะ เบรนท์ฟอร์ด ไม่ได้เลยในการเจอกัน 5 เกมหลังสุดในลีก เสมอ 2 แพ้ 3
สกอร์ที่คาด : เชลซี 4-2 เบรนท์ฟอร์ด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี