คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ซึ่งสื่อนอกอย่าง Insidethegames เรียก “Olympic Queen” พร้อมรับตำแหน่งหากสมาชิกเห็นชอบ
การเลือกตั้ง “ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคไทย” ในวันที่ 25 มีนาคม 2568 ครั้งนี้ อาจถึงขั้นพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินใครมาเป็นก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปทั้งหมด
แต่กลายเป็นการเลือกตั้งที่ถูกจับตามองมากที่สุดของคนทั้งในวงการและคนที่อยู่วงนอก
เนื่องจากยุคปัจจุบัน โลกนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
การเลือกตั้งที่เคยฮือฮากว่า 20 ปีก่อนอาจจะถูกการเลือกตั้งครั้งนี้เข้าแทนที่ เพราะโอกาส “แตกแถว” มีมาก หลังจากคนคุมแถวอย่าง พลตรีจารึก อารีย์ราชการัณย์ท่านไม่อยู่แล้ว
หลายคนอยู่ในท่า “ตามระเบียบพัก”แต่ตอนนี้กำลังจะ “ตามระเบียบพลิ้ว”!
หลังจากควันโขมงกันมาพอสมควรเชื่อว่าหลายคนนั้นอยู่ในอาการที่พูดกันตรงๆ ว่า “ไม่โกรธ” แต่ว่า “จำแม่น”
การเลือกตั้งนับถอยหลังไปอีก 2 สัปดาห์ กลายเป็น “บิ๊กเอ” นายพิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมเทควันโดฯ เป็น “คนแรก” ที่ “ออกอาวุธ” เมื่อเตรียมเปิดทัพทีมงานอย่างเป็นทางการ หลังจากเลื่อนมาจาก 2 สัปดาห์ก่อน
ขณะที่ นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม นายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิส ที่เป็นคนที่ 2 ที่ประกาศชิงตำแหน่งนี้ เคยมีข่าวจะเปิดตัวทีมงาน ก่อนตัดสินใจพับแผนไปก่อนใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว
อีกคนที่ “อยู่ในข่าว” แต่สุดท้ายคุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายสมาคมแบดมินตัน ก็บอกว่า ตามธรรมนูญแล้วไม่ต้องมีการลงสมัคร หรือต้องประกาศแต่อย่างใด แต่หากสมาชิกไว้วางใจ ก็พร้อมจะทำงาน
ว่ากันถึงก่อนการเปิดตัวทีมงานของนายพิมล ในวันพุธนี้ เป็นที่ทราบกันมาว่า ทั้งชื่อหลุด และตั้งใจหลุด จะไม่มีเปลี่ยนขั้ว แต่เปลี่ยนหัวเฉยๆ และเมื่อมองถึงภาพรวมกันแล้ว หยิบยิบย่อยออกมาดังนี้
นายพิมล ถ้าเปรียบการแข่งขันเป็น ฟอร์มูล่า-วัน นี่คือเป็นทีมผู้สร้าง และมีสิ่งหนึ่งที่ชวนให้สมาชิก “ตาลุกวาว” นั่นก็คือโครงการหนึ่งสมาคมกีฬาหนึ่งรัฐวิสาหกิจ
นายสุชัย ก็เป็นมือประสาน 10 ทิศพร้อมพิชิตได้ทุกอย่าง และมาพร้อมแหล่งพลังงานหนุนหลังอย่าง นายพิชัย ชุณหวชิร
เท่ากับเวลานี้มี คุณหญิงปัทมา เพียงท่านเดียวที่หลายคนอยากให้ลงเลือกตั้งและไม่มีทีมงานปรากฏว่าเป็นใคร
แต่ทุกคนมองเห็นตรงกันว่ามาเรื่องของผลงานการบริหารล้วนๆ
ตำแหน่งในเวทีโลกยาวเหยียดนั่นคือ กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC), ประธานคณะกรรมาธิการด้านวัฒนธรรมและมรดกโอลิมปิก (IOC),รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF)และสมาชิกคณะกรรมการบริหารสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (OCA)
ว่ากันตามเชิง จากที่หลุดมาเป็นข่าว (ที่พอจะเล่าได้) นั่นคือ ลือกันว่า การเจรจาบนโต๊ะอาหารไม่ลงตัวทำให้ต้องมีการแยกฝั่งแยกฝ่าย แม้ว่าจะนำเอา “อดีตผู้นำประเทศ” มาเป็นกาวใจ แต่ก็ไม่มีใครฟัง
นั่นหมายความว่า เรื่องมันไม่จบบนโต๊ะอาหาร ก็ต้องมาสู้กันต่อในโต๊ะประชุม ถือว่า สนุกสำหรับบางคน แต่ไม่สนุกเลยสำหรับ “สองฝ่าย” ที่ตอนแรกคือ “ฝ่ายเดียวกัน”
อย่างที่บอกไปว่า การเลือกตั้งหนนี้น่าสนใจและถูกนำทำไปเป็นโพลล์ KBU SPORT POLLโดยศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตร่วมกับสถาบันการจัดการกีฬาเพื่อองค์กรกีฬา (WISDOM) จึงสำรวจคิดเห็นเรื่อง “การเลือกตั้งประธานโอลิมปิกไทยฯกับมุมมองของแฟนกีฬา” ทางออนไลน์
ปรากฏว่า ร้อยละ 88.92 สนใจ และมองเรื่องคุณลักษณะของวิสัยทัศน์และมุ่งมั่นในการพัฒนาและยกระดับวงการกีฬา มากถึงร้อยละ 24.43
ส่วนใหญ่ร้อยละ 49.18 อยากให้ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ดำรงค์ตำแหน่ง ตามด้วย คุณพิมล ร้อยละ 33.92 และร้อยละ 15.85 เลือก คุณสุชัย และอื่นๆ ร้อยละ 1.05
อย่าไรก็ตาม ต้องไม่ลืมว่าคนทำโพลล์กับคนลงคะแนนในโพลล์ไม่ได้มีสิทธิ์อยู่ในโผหรือโผล่มาเลือกตั้ง
ผู้บริหารระดับเหรียญทองโอลิมปิก, ผู้บริหารระดับมือประสานสิบทิศหรือผู้บริหารระดับซูเปอร์คอนเนคชั่นส์ที่โลกยอมรับ
ที่สำคัญต้องไม่ลืมว่าการเลือกตั้งจะต้องเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมและไม่ควรนำการเมืองมาเกี่ยวข้องอีกต่อไปแล้ว แม้จะดูเหมือนว่า เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ไม่บัญญัติไว้ แต่ทุกคนต้องเข้าใจและต้องรู้
แม้ว่าเราอยู่ในวัยที่หย่านมมานานและรู้ดิว่าการเมืองมันไปทุกเรื่องจริงๆก็ตาม
นี่คือสิ่งที่องค์กรกีฬาระดับโลกลงมาโฟกัสอยู่ตลอดเวลา เพราะถ้าหากมีการเมืองเข้ามาพัวพันหลายประเทศโดนฟันโดนแบนมาแล้วหลายสมาคมกีฬา เพียงแต่กรณีนี้คือ ไม่แบนแต่ถูกประณาม
ลองดูดีดีดีนะครับว่า เวลานี้ที่มองว่าเป็น “2 ฝั่ง” และเหมือนกับ “3 ฝั่ง” แต่ผมมองว่าหนนี้ 1-1 (หนึ่งลบหนึ่ง) นายพิมล กับ นายสุชัย จากขั้วการเมืองเดียวกัน และ อีก +1(บวกหนึ่ง) จากคุณหญิงปัทมา ที่ไม่มีขั้ว
ว่ากันตรงๆ ในอนาคต หวังใจอยากให้เปลี่ยนเป็นระบบเดียวกันกับ “โอลิมปิกสากล” หรือ ไอโอซี ที่ปิดรับสมัครกันก่อน อย่างน้อยสัก 1 เดือน จากนั้นก็ให้ผู้สมัครมาแสดงวิสัยทัศน์
ดีกว่า ล็อบบี้ แล้วมันหลุดออกมาไปเรื่อย ๆ
เพราะปัญหา คือ กลัวทำงานกันยาก เพราะยังไงก็ต้องทำงานร่วมกัน
ส่วนหนนี้แม้จะไม่ทันแล้ว แต่ 4 ปีจากนี้มันนาน ก็ได้แต่หวังว่า ผู้ที่มีโอกาสเลือกจะเลือกคนที่มีผลงานจับต้องได้และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ เลือกผู้ที่เหมาะสมไม่ใช่เลือกตามอัธยาศัย
จับตาดูว่าใครจะแตกแถว น่าสนใจมากกว่าก็คือ ใครพร้อมจะอยู่ฝ่ายผู้ชนะ
ท้ายที่สุด ไม่ว่าใครจะแพ้ ใครจะชูมือก็ควรหันหน้าเข้าหากัน ให้เกียรติกัน ทำงานร่วมกันเพื่อวงการกีฬา
เพราะท่านทั้งหลายก็พวกกันทั้งนั้นแล.......
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี