การเสียชีวิตของ ดีโอโก้ โชต้า กองหน้าทีมชาติโปรตุเกส ของสโมสรลิเวอร์พูล แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ด้วยวัยเพียง 28 ปีเท่านั้น พร้อมกับ อังเดร ซิลวา น้องชายของเขา วัย 26 ปี ที่ประเทศสเปน เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สร้างความตกใจและเศร้าสลดไปทั่วโลกของวงการฟุตบอล รวมถึงวงการกีฬา
โดยบุคคลในแวดวงต่าง ๆ ออกมาแสดงความไว้อาลัยผ่านทางช่องทางอย่างเป็นทางการทั้งขององค์กรและของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นสโมสรลิเวอร์พูล ต้นสังกัด, สหพันธ์ฟุตบอลโปรตุเกส, ผู้บริหารระดับประเทศทั้งอังกฤษและโปรตุเกส รวมถึงสโมสรฟุตบอลต่าง ๆ แฟนบอลต่างร่วมอาลัยในครั้งนี้ พร้อมกับแฟนฟุตบอลจำนวนมากที่ไปยังหน้าสนามแอนฟิลด์เพื่อวางดอกไม้, เสื้อ, ผ้าพันคอ รวมถึงข้อความไว้อาลัยที่ฝั่งเมนสแตนด์ รวมถึงรูปปั้นแลนด์มาร์กของ บิลล์ แชงคลีย์
การเสียชีวิตครั้งนี้ เจ้าหน้าที่เชื่อว่า เกิดจากยางรถยนต์ระเบิดระหว่างทำการแซง ทำให้สูญเสียการควบคุมรถ และเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวตามมา ทำให้ รถแลมโบร์กินี ไฟลุกไหม้กลางทางหลวง A-52 ในพื้นที่เซร์นาดิยา ที่จังหวัดซาโมรา ประเทศสเปน ซึ่งอยู่ห่างจากมาดริด ประมาณ 250 กิโลเมตร โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุ พบว่า ทั้งสองคนได้จากโลกนี้ไปในที่เกิดเหตุทันที หลังจาก 11 วันที่แล้ว โชต้า เพิ่งจะแต่งงานกับรูธ การ์โดโซ ที่คบหากันมายาวนาน โดยทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 3 คน
รายงานจาก CNN Portugal ระบุว่า โดยปกติแล้ว โชต้า จะไม่ใช้เส้นทางนี้ แต่เป็นเพราะเพิ่งเข้ารับการผ่าตัดที่ปอด และแพทย์ไม่แนะนำให้นั่งเครื่องบิน ทำให้ โชต้า กับ น้องชาย กำลังเดินทางไปยังซานตานเดร์ และบิลเบา บนชายฝั่งสเปน เพื่อเดินทางต่อทางเรือไปยังเกาะอังกฤษ
แพทย์ได้แนะนำ โชต้า เนื่องจากการผ่าตัดและความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากแรงกดดันภายในเครื่องบินที่มีต่อร่างกายของนักกีฬา ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้ใช้วิธีอื่นในการเดินทาง ซึ่ง โชต้า ตั้งใจจะเข้าไปยังสโมสร เพื่อกลับมาทำกิจกรรมเรียกความฟิต หลังจากพักร้อนมาระยะหนึ่ง
ทางด้าน มิเกล กอนซัลเวส นักกายภาพบำบัดระบบทางเดินหายใจ ชาวโปรตุเกส ได้เปิดเผยรายละเอียดจากช่วงเวลาสุดท้ายของ ดีโอโก้ โชต้า ว่า โชต้า ได้รับบาดเจ็บในช่วงระหว่างต้นฤดูกาล ซึ่งทำให้เขามีอาการบาดเจ็บที่ปอด ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาต้องเผชิญตลอดช่วงที่เหลือของฤดูกาล 2024-25
“เขาเพิ่งเข้ารับการผ่าตัดปอดเพียงไม่กี่วันก่อน ซึ่งเป็นอาการที่ปอดส่วนหนึ่งยุบตัว และเขาเลื่อนการผ่าตัดออกไปเพื่อไปเล่นให้กับโปรตุเกสในศึกเนชันส์ลีก ซึ่งพวกเขาเอาชนะ สเปน ครองแชมป์มาได้ ซึ่งตัวผมได้กล่าวคำอำลา ดีโอโก้ และอังเดรเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. พวกเขาจะเดินทางในเวลากลางคืนเพื่อหลีกเลี่ยงความร้อนของอากาศ“
”พวกเขาจะไปพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองบูร์โกส เขาดูมีความสุข มองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับการฟื้นตัวของ ดีโอโก้ และมุ่งมั่นกับฤดูกาลใหม่เป็นอย่างมาก เขาปฏิบัติตามสิ่งที่ผมบอกอย่างเคร่งครัดอย่างที่คุณเห็นได้จากวิธีที่เขากำลังฟื้นตัว”
นักกายภาพยืนยันว่า ฐานปอดขวาของ โชต้า ยุบลงเล็กน้อย แต่ด้วยการทำกายภาพบำบัดหลังผ่าตัด เขาก็แทบจะหายเป็นปกติ เมื่อวานนี้เขาไม่รู้สึกเจ็บปวดอีกต่อไป และกำลังจะเดินทางกลับลิเวอร์พูล พร้อมกับรู้สึกตื่นเต้น มั่นใจในการฟื้นฟูร่างกาย และกระตือรือร้นกับฤดูกาลหน้า เขาบอกกับผมว่าเขาจะไม่ไปทัวร์ปรีซีซั่น เนื่องจากลิเวอร์พูลจะไปญี่ปุ่น แต่จะอยู่เพื่อฟื้นฟูร่างกาย เขา พร้อมกับมั่นใจและเชื่อว่าเขาจะมีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยม
โดยพิธีศพของทั้งสองคน จะมีขึ้ินในวันเสาร์นี้ เวลา 16.00 น.ตามเวฃาประเทศไทย โดยจะนำร่างของ โชต้า และอันเดร จาก
เมืองปวยบลา เด ซานาเบรีย ทางตะวันตกเฉียงเหนือของสเปน มายังเมืองกงดูมาร์ บ้านเกิดของทั้งคู่ ที่ประเทศโปรตุเกส
สำหรับ โชต้า เกิดเมื่อ 4 ธันวาคม 1996 ที่ปอร์โต้ ประเทศโปรตุเกส เริ่มเล่นบอลอาชีพกับ ปากอส เฟอร์เรยร่า ปี 2013 ก่อนจะย้ายมา แอตเลติโก มาดริด ปี 2016 ต่อด้วย วูล์ฟส์ ปี 2017 และมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ตั้งแต่ปี 2020 ครองแชมป์พรีเมียร์ลีก 1 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย และลีกคัพ อีก 2 สมัย ลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล ทั้งสิ้น 182 นัด ทำได้ 65 ประตู 22 แอสซิสต์ ซึ่งตลอดอาชีพการค้าแข้งนั้น โชต้า ลงสนามให้ทุกทีมรวมกัน 395 นัด ยิงได้ 133 ประตู โดยติดทีมชาติโปรตุเกส 49 นัด ยิงได้ 14 ประตู
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี