ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในค่ำคืนวันอาทิตย์ เป็นเกมบิ๊กแมตช์แดงเดือด ลงเล่นในเวลา 22.30น. “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จะเปิดแอนฟิลด์ต้อนรับการมาเยือน “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยมี ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ ลงทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสิน ส่วน ดาร์เรน อิงแลนด์ เป็นหัวหน้าผู้ควบคุม VAR 

ลิเวอร์พูล ปิดเบรกทีมชาติเดือนนี้ด้วยการแพ้ 3 เกมติด ในทุกรายการ เสียประตูให้กับคู่แข่งในลีกช่วงเวลาทดเจ็บ 2 เกมติด พร้อมเสียตำแหน่งจ่าฝูงให้กับ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ทำให้มี 15 คะแนน จากการชนะ 5 เกมรวดในช่วงการออกสตาร์ท สภาพทีมไม่มี อลิสซอน เบ็คเกอร์ ที่บาดเจ็บ แม้จะปรากฎว่าตัวสนามซ้อมชั่วพักเบรกทีมชาติก็ตาม สมทบกับ โจวานนี่ เลโอนี่ ที่พักยาว ส่วน อิบราฮิม่า โกนาเต้, วาตารุ เอ็นโดะ และไรอัน กราเฟนแบร์ช ต้องรอทดสอบความฟิต ที่เหลืออยู่กันครบ มีความเป็นไปได้ว่า อาร์เน่อ ชล็อต จะเลือกใช้แบ็กธรรมชาติอย่าง คอนอร์ แบร๊ดลีย์ ทำให้ โดมินิค โซโบสไล จะกลับไปประจำการแดนกลาง อยู่ที่ว่าจะดร็อปใคร 

ฝั่งผู้มาเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปิดเบรกด้วยการเปิดบ้านปราบทีมน้องใหม่ “แมวดำ” ซันเดอร์แลนด์ 2-0 เก็บเพิ่มเป็น 10 คะแนน จากการชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 3 เกมนี้ทีมของ รูเบน อโมริม ดีขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีใครบาดเจ็บเพิ่มเติม ลิซานโดร มาร์ติเนซ กลับมาซ้อมแล้ว แต่น่าจะยังไม่พร้อม ส่วน นูสแซร์ มาซราวี รอทดสอบความฟิต นอกนั้นไม่มีอะไรต้องกังวล ปัญหาคือวิงแบ็คจะเลือกใช้งานใคร มีทั้ง ดีโอโก้ ดาโลต์, อาหมัด ดิยัลโล่ และแพทริค ดอร์กู ที่สามารถโคเวอร์ได้ทั้งสองฝั่ง ส่วน เมสัน เมาท์ ดูจะเข้าใจในแท็คติกอาจจะได้ออกสตาร์ทก่อน มาเตอุส คุนญ่า ประสานงานกับ ไบรอัน เอ็มเบอโม่ และเบนยามิน เชชโก้ 

สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 216 นัด แมนฯยู เหนือกว่าด้วยการชนะ 83 เสมอ 61 ลิเวอร์พูล ชนะ 72 ย้อนกลับไป 10 เกมหลังสุดในทุกรายการ ลิเวอร์พูล ทำได้ดีกว่า ชนะ 5 เสมอ 3 และ แมนฯยูไนเต็ด ชนะ 2 

ส่วนการดวลกันของผู้จัดการทีมทั้งสองฝั่งเกิดขึ้น 1 ครั้ง ในเกมลีกที่ รูเบน อโมริม เข้ามารับงานต่อจาก เอริค เทน ฮาก บุกไปเสมอที่ แอนฟิลด์ 2-2 เมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา

คีย์แมนอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ผลงานฤดูกาลนี้ดร็อปลงไป อย่างไรก็ตาม เขามีสถิติที่ดีในการดวลกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพราะยิงได้ถึง 16 ประตู 6 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 17 เกมในทุกรายก ถือว่ามากที่สุดในอาชีพค้าแข้งเท่ากับการดวลกับ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ (24 เกม) แต่ใช้เวลาน้อยกว่า 

ผู้ตัดสิน ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ วัย 40 ปี จากนอร์ธัมเบอร์แลนด์ ลงตัดสินเกมแดงเดือดมาแล้ว 6 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2015 ลิเวอร์พูล ไม่เคยชนะเลย เสมอ 4 และ แมนฯยูไนเต็ด ชนะ 2 อย่างไรก็ตามเขามีสถิติที่ไม่ค่อยดีในการลงทำหน้าตัดสินใจของสองทีม โดยเฉพาะ 5 เกมหลังสุด เป่า ลิเวอร์พูล ชนะ 1 เสมอ 3 แพ้ 1 ขณะที่ แมนฯยูไนเต็ด ก็ชนะได้เกมเดียวเช่นกัน เสมอ 2 และแพ้ 2 

11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาด

ลิเวอร์พูล (4-2-3-1): จอร์จี้ มามาร์ดาซวิลี่, คอนอร์ แบร๊ดลีย์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค, มิลอส เคอร์เคซ, ไรอัน กราเฟนแบร์ช, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โดมินิค โซโบสไล, โคดี้ กัคโป และอเล็กซานเดอร์ อิซัค  

แมนฯยูไนเต็ด (3-4-2-1): เซนเน่อ ลัมเมนส์, เลนี่ โยโร่, มัตไธจ์ส เดอ ลิกต์, ลุค ชอว์, ดีโอโก้ ดาโลต์, คาเซมิโร่, บรูโน่ แฟร์นานเดส, แพทริค ดอร์กู, ไบรอัน เอ็มเบอโม่, เมสัน เมาท์ และเบนยามิน เชชโก้           

 
สกอร์ที่คาด: ลิเวอร์พูล 2-1 แมนฯยูไนเต็ด