วันอังคาร ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ความเคลื่อนไหวก่อนการแข่งขัน ซีเกมส์ 2025 ระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคมนี้ ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ซึ่งพิธีเปิดจะมีขึ้น ที่ ราชมังคลากีฬาสถานในวันที่ 9 ธันวาคมนี้
ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. มีเรื่องดราม่าเกิดขึ้นเมื่อ ผู้กำกับพิธีเปิด-ปิด ได้ออกมาเปิดเผยว่า ได้เตรียมงาน 7 เดือน ก่อนโดนเทไปไม่ได้รับค่าจ้างใดๆ หลังมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลชุดใหม่
เรืองฤทธิ์ สันติสุข อดีต Director พิธีเปิด–ปิด ซีเกมส์ 2025 โพสต์เฟซบุ๊กว่า
“ผมทำงานเปิดและปิดซีเกมส์มา7เดือน ถูกยกเลิกงานทั้งหมด และพึ่งมีทีมใหม่เข้ามาทำเมื่อกลางเดือนตุลาคมครับ”
“การแชร์สิ่งนี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อเรียกร้องใดๆ เป็นความล้มเหลวในการต่อสู้ที่พร้อมเสี่ยงตั้งแต่เริ่มต้น แต่เพื่อให้ได้รับรู้ผลจากการการพยายามทำงานกับภาครัฐอย่างซื่อตรง และหวังว่าถ้าจะทำให้เกิดประโยชน์อะไรกับประเทศนี้บ้าง ก็จะยินดีอย่างยิ่งครับ”
“กลางเดือนมีนาคม ผมได้รับโทรศัพท์ จากพี่ที่นับถือท่านนึง เชิญชวนให้ไปเป็นไดเรคเตอร์ ออกแบบพิธีเปิดและปิดเทศกาลกีฬาซีเกมส์ ผมใช้เวลาคิดนานมากเพราะไม่เคยทำงานกับภาครัฐ และไม่แน่ใจว่าจะต้องเจอกับอะไร แต่สุดท้าย ก็ไม่เจอเหตุผลที่จะปฏิเสธโอกาสที่ได้มานี้ ขออนุญาตขยายความคำว่าโอกาสของผมครับ ปกติงานระดับประเทศ จะมีเจ้าใหญ่ๆที่เค้ารับทำเป็นประจำอยู่แล้ว ถือครองสิทธิการทำมาต่อเนื่อง ทำออกมาดีไม่ดีเราจะไม่พูดถึงนะครับ แต่ ณ ตอนนั้น ทีมที่เราคุยกันมีประมาณ4คน และทุกคนเห็นพ้องต้องกัน ว่าเราน่าจะสามารถทำสิ่งที่อยากให้ประเทศนี้มี เกิดขึ้นได้ บรรทัดฐานความดีงามในการทำงานนี้เลยแปรเปลี่ยนจากงานที่ดี เป็นงานที่เปิดโอกาสให้งานระดับประเทศมีทางเลือกใหม่ๆจากคนใหม่ๆ ตกลงรับทำงานครับ”
“ทีมเราเริ่มกัน4คน ด้วยรูปแบบการทำงานกับภาครัฐที่มีเวลาแค่9เดือนและสเกลใหญ่ขนาดนี้ ถ้าเราจะทำ เราก็ต้องออกเงินจ้างทีมงานทั้งหมดเองก่อน เพื่อนำแบบและไอเดียไปเสนอผู้ใหญ่ แต่ผมเลือกเส้นทางที่ต่างออกไป เราเลือกจะทำกันเอง ค่อยๆประชุม ออกแบบสร้างภาพจำลองเวที วางรูปแบบโชว์ และนำเสนอผู้ใหญ่ ทีละขั้น ทีละตอน จนผ่านไปได้ด้วยดี ผู้ใหญ่ชอบ พาไปพบผู้ที่ใหญ่กว่า ไฟเขียวให้เริ่มงานได้ เราจึงเริ่มเรียกคนที่เห็นว่ามีความคิดตรงกันมาช่วยสร้างงาน”
“แผนงานดำเนินไปเรื่อยๆ 4เดือนผ่านไปจน กลางเดือน กค. เราต่อสู้กับงบประมาณที่จำกัด(น้อยกว่างานสงกราxxที่สนามหลวง และงานวิ่งช่วงเวลาเดียวกัน) จนถึงวันที่เรามีสงครามกับกัมพูชา ความปลอดภัยในการจัดงานในพื้นที่เปิดลดลง มีข้อเสนอแนะ ให้ย้ายสถานที่จัดงานไปที่ราชมังคลา การตัดสินใจเกิดขึ้นอีกครั้ง รูปแบบงานอาจจะไม่ดีงามอย่างที่หวัง แต่วัตถุประสงค์ที่จะให้งานเกิดจากกลุ่มคนที่ไม่ได้ผูกขาดกับงานภาครัฐยังคงเดิม เราตัดสินใจทำต่อและเริ่มออกแบบใหม่ทั้งหมด”
“ย้ายสถานที่ วัตถุประสงค์เดิมยังคงอยู่ เราเริ่มเข้าวัดพื้นที่ พบเจอปัญหา ออกแบบใหม่ สู้กันอีกรอบในเวลาและข้อจำกัดที่ยากขึ้น แบบใหม่เกิดขึ้น เป็นที่น่าพึงพอใจของทุกฝ่าย นำเสนอผู้ใหญ่ผ่าน เสนอผู้ใหญ่กว่าผ่าน เราเรียกแต่ละทีมมาคุยปรับความเข้าใจ และร่วมสร้างงานกันต่อ กระเทยไม่ได้เข้าสนามหลวงแล้ว แต่ก็ยังมีหน้ามีตาในสังคมได้รับการยอมรับให้มีโชว์ในพิธีเปิด นักร้องแรพสาวที่โดนห้ามมาหลายรอบ ก็ผ่านไปได้ด้วยดี ศิลปมวยไทยที่แสนจะหวงแหนจะได้นำมาใช้ในรูปแบบใหม่ๆ โชว์จากศิลปินที่สู้เพื่อวัตนธรรมมายาวนานจะได้เป็นโชว์ใหญ่ก่อนจุดคบเพลิง ทีมเริ่มใหญ่ขึ้น ทุกคนเริ่มถามเรื่องเวลาที่จะมีเงิน เพื่อเริ่มงาน เราก็อธิบายตามความจริง สาเหตุที่ล่าช้ากว่าที่ควรเป็น เพราะย้ายสถานที่”
“ปลายกันยายนหลังจากรัฐบาลใหม่เข้ามาได้ไม่นาน เริ่มมีกลิ่นไม่ดี ระหว่างทางที่ผ่านมา จะคอยมีคนเตือนเรื่อยๆ ทางพี่ที่ประสานกับผู้ใหญ่ก็พยายามเช็ค แต่ก็ไม่ได้ความอะไร ศิลปินบางคนที่เราโทรไปถามคิว ก็แจ้งว่ามีทีมซีเกมส์อีกทีมโทรมาเช็คคิวเช่นกัน เราทำอะไรไม่ได้นอกจากเร่งงานและสอบถามไปเรื่อยๆ ปลายกันยา มีโทรศัพท์โทรมาแจ้งว่า มีทีมซีเกมส์จากทีมผู้ที่ใหญ่กว่าคนใหม่ เข้ามาดูสถานที่ราชมัง และประชุมกับผู้ใหญ่คนเดิมอยู่ ทางเราสอบถามไป แต่ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน ทางทีมรอต่อเนื่องมาอีก2อาทิตย์ จนไม่สามารถรอได้ จึงแจ้งทางผู้ใหญ่ไปว่า ถ้าไม่ได้คำตอบทางทีมจะขอหยุดการทำงาน และปล่อยคิวศิลปิน และทีมงานทุกท่าน เพื่อให้สามารถรับงานอื่น เนื่องจากเราไม่สามารถแบกรับความเสี่ยงในความไม่แน่นอน จากทางเค้าได้กลางตุลาคม ทางทีมหยุดการทำงาน และจนถึงปัจจุบันก็ไม่ได้รับการยกเลิกหรือยืนยันใดๆจากทางผู้ใหญ่นั้น”
“การเปลี่ยนทีมงานใหม่ทั้งหมดโดยเหลือเวลาประมาณหนึ่งเดือนกว่าๆ เป็นเรื่องที่เข้าใจไม่ได้ เราเสียดายกับความพยายามที่อยากให้งานออกมาในรูปแบบที่คิดกันไว้ เราเสียใจที่นำคนหลายคนมาเกี่ยวข้องและล่มสลายไปพร้อมๆกัน เราสับสนไม่แน่ใจว่าที่ทำลงไปถูกหรือผิด เราโกรธแค้นกับระบบที่เราต้องพยายามต่อสู้แม้จะรู้ว่าเสี่ยงในการพังทลาย แต่เราเริ่มใหม่ได้ เพราะเราไม่ได้เสียหายอะไรในเชิงธุรกิจ แต่ในแง่ความคิดสร้างสรรค์ และกำลังใจที่จะต่อสู้กับประเทศนี้ มันตีบตันและไม่เห็นลู่ทาง เราไม่เข้าใจการสร้างงานระดับประเทศใหม่ภายใน1เดือน ได้แต่หวังว่ามันจะออกมาไม่อายคนทั้งโลก ไม่เอิงเอย โบราณครํ่าครึ เพราะมันจะจารึกความก้าวหน้าทางกีฬา ศิลปะ และวัฒนธรรมของชาติ ว่าในวันนี้ประเทศเรายืนอยู่ ณ จุดใด จุดที่เราเป็นตัวของเราเอง ไม่ว่าการเมือง เศรษฐกิจ อำนาจรัฐ จะเลวร้ายเพียงใด แต่ผู้คน วัฒนธรรม รากเหง้า ความสนุกสนานของคนไทยยังคงมีอยู่เหมือนเดิม หรือจุดที่เราโกงกินกันด้วยอำนาจรัฐ โดยที่ไม่สนถึงหน้าตาของประเทศ ขอเพียงอำนาจนั้นสามารถ ให้เงินทอนที่สมเหตุสมผลแก่ผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจ วัตถุประสงค์แรกที่รับทำงานเพื่อทำลายวงจรนี้ และส่งต่อไปให้คนรุ่นถัดๆไป ไม่สำเร็จ แต่ความคิดที่ต้องสู้กับระบบที่กัดกินความคิดสร้างสรรค์ และทำให้เราล้าหลังกว่าแทบจะทุกประเทศชัดเจดมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม”
“หากการนำเสนอครั้งนี้จะสามารถทำให้ความทุ่มเทที่ผ่านมา มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงประเทศ และส่งต่อให้คนรุ่นต่อๆไป ให้สามารถพัฒนาประเทศชาติให้ดีขึ้นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง จะขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งครับ”
“ปล.ถึงแม้ผมจะไม่ได้ทำงานชิ้นนี้แล้ว แต่ก็ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ที่กำลังทำงานซีเกมส์ครั้งนี้อยู่ ระยะเวลาที่พวกคุณมีและความกดดันมากมายจากความไม่แน่นอนของภาครัฐ ขอให้งานลุล่วงปลอดภัย และประสบความสำเร็จเพื่อให้เป็นชื่อเสียงแก่ประเทศชาติครับ ขอบคุณครับ”
“เรืองฤทธิ์ สันติสุข”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี