“อรรถกร” ยันพิธีเปิดซีเกมส์งดงาม คนดังระดับโลกร่วม อุบไต๋จุดคบเพลิง ลุ้นพร้อมกัน 9 ธันวาคมนี้

เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในงานแถลงข่าวพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ซึ่งจะมีขึ้นที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก กรุงเทพฯ ในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. โดยมี นางโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย ร่วมด้วย ก่อนนำคณะผู้บริหารเข้าตรวจเยี่ยมศูนย์ถ่ายทอดวิทยุและโทรทัศน์นานาชาติ (IBC)

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร กล่าวว่า ความพร้อมของพิธีเปิดกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ยืนยันว่าแม้มีอุปสรรคตั้งแต่ที่ตนเข้ามาทำงานเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่เราจะจัดพิธีเปิดได้อย่างน่าชื่นชม ไม่อายใครแน่นอน ซึ่งจะเป็นการประยุกต์เทคโนโลยีทันสมัยกับวัฒนธรรมความเป็นไทย โดยเปิดโอกาสให้คนไทยที่มีฝีมือได้แสดงออกว่าทำได้ดี และโปรโมตไปยังต่างประเทศได้เห็น ขณะที่รูปแบบยังไม่อยากเจาะในส่วนของการแสดง แต่จะมีโชว์ 5-6 ชุด สะท้อนถึงสิ่งที่เราอยากจะสื่อสารไป บางชุดการแสดงก็ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยจะมีคนที่มีชื่อเสียงระดับประเทศและระดับโลก หล่อหลอมร่วมกันกลั่นกรองการแสดงออกมา ที่สำคัญเราจะสร้างมลพิษให้โลกได้น้อยตามคอนเซ็ปต์ กรีนซีเกมส์ เน็ต ซีโร่

นายอรรถกรกล่าวอีกว่า ส่วนกิมมิคในพิธีจุดคบเพลิง ตนได้รับทราบถึงคอนเซ็ปต์แล้ว บอกได้แค่ว่าจะเป็นการทำออกมาแล้วประทับใจ รวมถึงรักษาคอนเซ็ปต์ไม่ทำให้เกิดมลภาวะสิ่งแวดล้อมแน่นอน ก็อยากจะให้ได้ติดตามดูกันในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ ก็อยากให้ไปดูพร้อมๆ กัน หากใครที่ไม่ได้ไปที่สนามก็สามารถรับชมได้ผ่านทางการถ่ายทอดสด เรามีความมั่นใจว่าจะจัดพิธีเปิดได้อย่างงดงามประทับใจแน่ๆ เพื่อสื่อสารข้อความไปยังคอกีฬา คนไทย และคนต่างชาติ จากหลายสิ่งหลายอย่างทำให้เชื่อว่าเราจะทำได้ดี

“เราจะมีนักแสดง นักร้อง นักกีฬา อดีต ปัจจุบัน และอนาคตที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย หลักๆ ก็จะมีดารานักร้องระดับประเทศที่คนรู้จัก และนักร้องคนไทยที่ไปเติบโตสร้างชื่อเสียงในต่างประเทศ เชื่อว่าทุกคนดังหมด มีชื่อเสียงหมด และอยากให้พิธีเปิดซีเกมส์ครั้งนี้สมบูรณ์ที่ดี ผมก็อยากจะบอกว่าซีเกมส์ครั้งนี้จะเป็นกระจกสะท้อนว่าประเทศไทยเรามีความพร้อม และด้วยลักษณะภูมิศาสตร์ประเทศมีความเหมาะสม แต่ก็หนักใจหลายประเด็นที่เกิดขึ้น 2-3 วันที่ผ่านมาที่ผมไม่สบายใจ แต่ผมต้องบอกว่าหลายเรื่องก็ไม่เป็นความจริง ถึงตอนนี้ถึงเวลาที่เราต้องร่วมมือกันเป็นเจ้าภาพที่ดี”

รมต.อรรถกรกล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ วันวานที่ผ่านมาทาง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบความเรียบร้อยเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ณ บริเวณสนามราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก เพื่อเป็นการเตรียมการรายละเอียดทุกอย่างให้เป็นที่เรียบร้อยอีกด้วย

สำหรับพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 จะมีขึ้นที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก กรุงเทพฯ ในวันที่ 9 ธันวาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 18.00 น. โดยมีจะนักแสดงศิลปินคนดังเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น “บัวขาว บัญชาเมฆ” ร.อ.สมบัติ บัญชาเมฆ ยอดนักมวยไทยชื่อดัง, “แบมแบม” กันต์พิมุกต์ ภูวกุล ศิลปินเคป๊อปชาวไทยแห่งวง GOT-7, “กอล์ฟ เอฟ.ฮีโร่” ณัฐวุฒิ ศรีหมอก, “โต้งทูพี” พิทวัส พฤกษกิจ สองแร็พเปอร์ชื่อดังชาวไทย, “วี” วิโอเลต วอเทียร์ นักร้องสาวลูกไทย-เบลเยียม รวมถึงนางงาม 11 สาวงามจาก TPN ผู้จะทำหน้าที่ถือป้ายพาเหล่านักกีฬาจาก 11 ประเทศอาเซียนเข้าสู่สนามในพิธีเปิดสุดยิ่งใหญ่นำโดย โอปอล สุชาตา ช่วงศรี Miss World 2025 และแอนโทเนีย โพซิ้ว รองอันดับ 1 Miss Universe 2023

คณะกรรมการจัดการแข่งขันตั้งใจให้ “ซีเกมส์” เป็นเวทีที่โชว์ศักยภาพคนไทย โชว์ศักยภาพ New Generations หรือคนรุ่นใหม่ ในทุกมิติ เพื่อรวมพลังสร้างสรรค์ของคนไทยในหลากหลายวงการ ครอบคลุมด้านการแสดง (Performing Arts), ดนตรี (Music) ที่มีตั้งแต่ออเคสตราไปจนถึง T-POP ซึ่งจะมีภาพเคลื่อนไหวประกอบการแสดง (Visual) และการออกแบบ (Design) ไม่ว่าจะเป็น การออกแบบเวที-คอสตูม-โปรดักชั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Performing Technology ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในการประกอบการแสดงที่ทันสมัย สร้างความตื่นตาตื่นใจ อย่างแน่นอน เป้าหมายของเรา คือ การสร้าง “มาตรฐานใหม่” ที่หลายคนอาจไม่คาดคิดว่าคนไทยทำได้ มีความร่วมสมัยระดับโลก แต่ยังรักษารากและเสน่ห์ของความเป็นไทยอยู่ ในส่วนของแนวคิดที่เป็นหัวใจของพิธีเปิดการแข่งขัน คือ “ความเป็นหนึ่งเดียวกันของทั้งภูมิภาค” หรือ WE ARE ONE คือ ธีมหลักที่เชื่อมทุกการแสดงเข้าด้วยกันนอกจาก ONE ที่หมายถึงความเป็นหนึ่งเดียวกัน (Together) แล้ว ยังหมายถึงความเป็นที่หนึ่ง (Victory) และยังหมายถึงการเป็นจุดเริ่มต้นอีกด้วย เนื่องจากซีเกมส์ กลับมาจัดงานที่ประเทศไทย ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของมหกรรมกีฬานี้ ย้อนกลับไปเมื่อ 66 ปีก่อน (พ.ศ.2502 ปีที่เกิด SEAP Games) ดังนั้น ครั้งนี้จึงนับเป็นการ Back to the Origin กลับมาสู่จุดเริ่มต้น ที่พร้อมจะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่อย่างสมศักดิ์ศรี

สำหรับการแสดงในพิธีเปิด จะประกอบด้วยไปด้วยการแสดง 5 ชุด ที่นำเสนอด้วยรูปแบบไฮไลต์ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการเปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่ พาผู้ชม “ย้อนเวลา” กลับสู่รากเหง้าของซีเกมส์ โชว์ที่ปลุกไฟแพชชั่นของการแข่งขันให้ลุกโชน ในส่วนของไฮไลต์ด้านวัฒนธรรม เป็นการนำเสนอความหลากหลายที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ซึ่งนอกจากความงดงามทางวัฒนธรรมแล้ว เราก็มียังโชว์ที่นำเสนอความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณนักสู้ ถ่ายทอดออกมาอย่างทรงพลังด้วยการผสมผสานเข้ากับ Performing Technology ต่างๆ และโชว์ที่ขาดไม่ได้ คือการสะท้อนถึงมิตรภาพที่ผลิบานซึ่งเป็น “ชัยชนะร่วมกัน” ของทั้งภูมิภาค ซึ่งจะทำให้ผู้ชมได้รู้สึกถึงความภูมิใจ ในศักยภาพคนไทยกับความคิดสร้างสรรค์ เทคโนโลยี การแสดง ดนตรี และกีฬา และตื่นเต้น กับสเกลภาพ แสง สี เสียง มัลติมีเดีย และสเปเชียลเอฟเฟ็กต์ ซึ่งจะได้รับความอบอุ่น กับมิตรภาพและความเป็นหนึ่งเดียวของทั้ง 11 ชาติ

อีกหนึ่งไฮไลต์ของงานที่ทุกคนตั้งตารอ คือ โชว์ของ “K-Pop สัญชาติไทย” กับ BamBam ที่จะมาพร้อมโชว์สุดพิเศษเพื่องานนี้โดยเฉพาะ แต่ไม่เพียงเท่านั้น พิธีเปิดนี้เรียกได้ว่า รวมตัวคนไทยที่ดังไกลระดับโลกอีกมากมาย ทั้งนักกีฬาที่มาร่วมโชว์ นางงาม รวมถึงศิลปิน ดารา นักร้อง นักดนตรี นักแต่งเพลง ทั้งหมด ซึ่งทุกคนมีความตั้งใจสร้างสรรค์โชว์ขึ้นมาอย่างเต็มความสามารถ อยากให้ร่วมติดตามชมและส่งกำลังใจให้กับทุกคน และสำหรับไฮไลต์สุดท้าย ติดตามชมพิธีจุดคบเพลิง ในรูปแบบใหม่ที่จะสร้างอีกหนึ่งภาพจำให้กับซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ครั้งนี้ อย่างแน่นอน