ซีเกมส์เปิดฉาก!พิธีเปิดยิ่งใหญ่-‘พาณิภัค’จุดไฟคบเพลิง

ซีเกมส์เปิดฉาก!พิธีเปิดยิ่งใหญ่-‘พาณิภัค’จุดไฟคบเพลิง

วันอังคาร ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 21.40 น.

 

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ณ ราชมังคลากีฬาสถาน การกีฬาแห่งประเทศไทย   เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม  



โดยพิธีเปิด มีธีมหลัก คือ ความเป็นหนึ่งเดียวกันของทั้งภูมิภาค หรือ WE ARE ONE ซึ่งจะมีการแสดงแบบจัดเต็มทั้งหมด 5 ชุด เป็นการผสมผสานระหว่างศิลปวัฒนธรรม เข้ากับเทคโนโลยีการแสดงที่ทันสมัย และสร้างความตื่นตาตื่นใจ


สำหรับการแสดงชุดแรก ได้แก่ BACK TO THE ORIGIN สู่จุดเริ่มต้น ต่อด้วยการแสดงชุดที่ 2 IGNITE THE GAME ปลุกพลังสู่การแข่งขัน

 

 จากนั้นชุดที่ 3 การแสดงร่ายรำประกอบสื่อผสม แสง สี เสียง และการแสดงกีฬาทางน้ำ ชุด WE ARE ONE – WE ARE CONNECTED BY THE SEA สายน้ำหลอมดวงใจเป็นหนึ่งเดียว 


ขณะที่ชุดที่ 4 การแสดงศิลปะมวยไทยประกอบสื่อผสม แสง สี เสียง ชุด ONE SPIRIT จิตวิญญาณแห่งความเป็นหนึ่ง โดย “บัวขาว บัญชาเมฆ” ร้อยเอก สมบัติ บัญชาเมฆ 


และปิดท้ายการแสดงเบ่งบานของดอกไม้ที่เป็นตัวแทนจาก 11 ประเทศ ประกอบบทเพลงของศิลปินนักร้อง และสื่อผสม แสง สี เสียง ชุด BLOOMING OF ONE VICTORY มิตรภาพ คือ ชัยชนะ โดย “แบมแบม” กันต์พิมุกต์ ภูวกุล สมาชิกชาวไทยหนึ่งเดียวจากวง K-POP ระดับโลก GOT7


จากนั้นเป็นขบวนพาเหรดของนักกีฬาทั้ง 11 ชาติ เริ่มด้วยบรูไน และปิดท้ายที่ไทย เจ้าภาพ ซึ่งในส่วนของไทย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จร่วมขบวนพาเหรด นำนักกีฬาไทย ขณะที่ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักกีฬาแบดมินตัน เหรียญเงินโอลิมปิก 2024 และ “บี” จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง นักกีฬามวยสากลหญิง เหรียญทองแดงโอลิมปิก ปารีสเกมส์ รับหน้าที่ถือธงไตรรงค์นำนักกีฬาไทย เข้าสนามคู่กัน


ส่วนไฮไลต์สำคัญ การจุดไฟในกระถางคบเพลิง เริ่มจาก “เอสที” วารีรยา สุขเกษม นักกีฬาเอ็กซ์ตรีมจากชุดโอลิมปิก 2024 วิ่งคบเพลิงจุดไฟเป็นไม้แรก ต่อด้วย สมจิตร จงจอหอ นักมวยสากลเหรียญทองโอลิมปิก ปักกิ่ง 2008 ไม้ที่ 2 และ “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาเทควันโดประวัติศาสตร์ เจ้าของ 2 เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ ทำหน้าที่ไม้สุดท้าย


การจุดไฟในกระถางคบเพลิง พาณิภัค วางเปลวไฟลงบนกระถางคบเพลิงพิธีขนาดเล็ก เปลวไฟจริงขนาดกะทัดรัดจะติดขึ้นในฐานะ “ประกายแรก” ที่ถูกเปลี่ยนผ่านสู่เปลวไฟดิจิทัล 


ทันใดนั้น แสงเลเซอร์ แสงไฟ และภาพฉายบนพื้นสนาม สะท้อนภาพพลังที่แผ่ขยายไปทั่วพื้นสนาม ส่งพลังของเปลวไฟเคลื่อนไปสู่โครงสร้างกระถางคบเพลิงหลัก 


จากนั้นจอบนอัฒจันทร์ตลอดจนโครงสร้างของ “กระถางคบเพลิงใหญ่แบบดิจิทัล” สว่างไสวส่งพลังพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า เกิดเป็นลำแสงอันเจิดจ้า 

ก่อนปิดท้ายด้วยโดรนโชว์ที่ขยายความหมายเปลวไฟให้กลายเป็นสัญลักษณ์หนึ่งเดียวของทั้ง 11 ชาติ สะท้อนการจุดไฟเปิดการแข่งขันรูปแบบใหม่ ที่คำนึงถึงความยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสะท้อนนวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์แห่งยุคสมัยใหม่


สำหรับ มหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33  จะมีนักกีฬาจาก 11 ชาติ กว่า 1 หมื่นคน ร่วมชิงชัยใน 50 ชนิดกีฬา 573 เหรียญทอง

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top