ศึกลูกหนังโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก ประจำวันอาทิตย์นี้จะมีลงสนามฟาดแข้ง ทั้งสิ้น 5 คู่ โดยบิ๊กแมทช์จะอยู่ในเกมที่ กิเลนผยอง เอสซีจีเมืองทอง ยูไนเต็ด จะเปิดบ้าน เอสซีจี สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ “กระต่ายแก้ว” บางกอกกล๊าส เอฟซี เริ่มฟาดแข้งในเวลา 20.00 น.เป็นต้นไป รวมถึงปรีวิวคู่อื่นๆ มีดังนี้

18.00 น. บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด VS จีเอสอี-สมุทรสงคราม เอฟซี : ปราสาทสายฟ้า ที่เพิ่งพลาดโดน เซเรโซ ซัดตีเสมอ 2-2 มาในศึก แชมเปี้ยนส์ลีก กลางสัปดาห์ ทำให้โอกาสเข้ารอบมีน้อยเต็มที ทำให้ในศึกไทยลีกเกมนี้ต้องเน้นเป็นพิเศษเพื่อกู้ศรัทธาคืนมา โดยสภาพลูกทีมของ อเลฆันโดร เมเนนเดส กุนซือของทีม จะไม่มีผู้เล่นกำลังสำคัญได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม แผงหลังจะวาง ประทุม ชูทองจับคู่กับ ดาบิด โรเซล่า ส่วนแดนกลางให้ สุรัตน์ สุขะ, จักรพันธ์ แก้วพรหม และ สุเชาว์ นุชนุ่ม เป็นห้องเครื่อง พร้อมปล่อยให้
อนาวิน จูจีน, คาร์เมโล่ กอนซาเลซ และ ฆาเบียร์ ปาตินโญ่ เป็นสามประสานในแนวรุก

ทางฝั่งทีมเยือน ปลาทูคะนอง ที่ฟอร์มร่วงมหากราว และตกมาอยู่อันดับบ๊วยของตาราง เกมนี้สภาพทีมจะยังหมดสิทธิ์ใช้งาน ซารีฟสายนุ้ย และ วรเวศ จันทร์อุทัย ที่ยังไม่หายเดี้ยง แต่แข้งกำลังสำคัญทั้ง กีย์ อูแบร์, รัชนาท บำรุงชาติ และ ซามูเอล
อาจายี่ พร้อมลงสนามทั้งหมด

สกอร์ที่คาด : บุรีรัมย์ ชนะ 3-0

18.00น. ศรีสะเกษ เอฟซี VS ราชบุรี มิตรผลเอฟซี : เจ้าถิ่น กูปรีอันตราย ที่เกมที่แล้วบุกป่าย สงขลา ทำให้ร่วงมาอยู่ในอันดับ 13 ของตาราง เกมนี้สภาพลูกทีมของ “โค้ชตู่” พนิพล เกิดแย้มกุนซือของทีม จะไม่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ โดยแข้งหลักทั้งเอกพันธ์ จันดากรณ์, โจเซ่ เวลาสโก้, จักรพงษ์ สมบูรณ์รวมไปถึง 2 หัวหอกอนตรายอย่าง ศรายุทธ ชัยคำดี และ ธาตรี สีหา จะพร้อมลงทะลวงตาข่าย

ทางฝั่งทีมเยือน ราชันมังกร ที่ฟอร์มแจ่มเอาชนะไป 4 เสมอ 2 และยังไม่แพ้ใครในฤดูกาลนี้ พร้อมขึ้นมาเป็นจ่าฝูงของตารางเกมนี้ คาร์โด้ โรดริเกซ กุนซือชาวสเปนจะได้รับข่าวดีเมื่อ เกงกิ นางาซาโตะ กองกลางคนสำคัญชาวญี่ปุ่น พร้อมกลับมาลงสนามช่วยทีมได้อีกครั้ง นอกนั้นนักเตะตัวหลักทั้งหมดพร้อมลงสนามทั้งหมด นำโดย ประหยัด บุญญา, อองรี โจเอล,เฮเบอร์ตี เฟร์นานเดซ และ ดั๊กลาส การ์โดโซ่ หัวหอกตัวความหวัง

สกอร์ที่คาด : เสมอกันไป 1-1

19.00น. อาร์มี่ ยูไนเต็ด VS บีอีซี เทโรศาสน : เจ้าบ้าน “สุภาพบุรุษวงจักร” ที่พ่ายพ่าย ราชบุรี มา 0-3 เกมที่แล้วนัดนี้จำเป็นต้องเน้นเป็นพิเศษ เกมนี้สภาพทีมของ แม็ตต์ เอลเลียตต์ กุนซือชาวอังกฤษ จะต้องเช็คฟิตของ โกรัน เยอร์โควิช กองหน้าคนสำคัญ ว่าจะพร้อมกลับมาลงสนามหรือไม่ แต่ผู้เล่นกำลังสำคัญทั้ง ดาวุฒิ ดินเขต, ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร, มาซาฮิโตะ โนโตะ และ ธนากรณ์ แดงทอง จะพร้อมลงสนามทั้งหมด

ทางฝั่งทีมเยือน มังกรไฟ ที่ช่วงหลังฟอร์มไม่ค่อยดีเสมอมา3 เกมติด ร่วงมาอยู่อันดับ 6 ของตารางแล้ว เกมนี้ สภาพทีมของ โจเซ่
อัลเวช เบอร์วิส กุนซือใหญ่ จะยังไม่ส่ง “เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ปีกตัวจี๊ด ที่กำลังเรียกความฟิต ลงสนามในเกมนี้ รวมไปถึงผู้เล่นอย่างเอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์ และ ชยพัทธ์ กิจพงษ์ศรีธาดา ก็ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ รวมไปถึงจะหมดสิทธิใช้งาน กิลเบิร์ต คูมสัน หัวหอกตัวเก่งชาวฮอนดูรัส ที่โดนใบแดงในเกมที่แล้ว แต่ผู้เล่นกำลังสำคัญรายอื่นทั้งไดกิ อิวามาซะ ปราการหลังชาวญี่ปุ่น, รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค ธนบูรณ์เกษารัตนุ์ และ จอร์จี้ เวลคัม พร้อมลงสนามทั้งหมด

สกอร์ที่คาด : เสมอ 2-2

19.00 น. ชลบุรี เอฟซี VS เชียงราย ยูไนเต็ด : “ฉลามชล”ที่ฤดูกาลนี้ยังไม่แพ้ใคร แต่เสมอไปถึง 4 และชนะเพียง 2 นัด เกมนี้ สภาพทีมของ มาซาฮิโร วาดะ กุนซือชาวญี่ปุ่น จะยังมีผู้เล่นได้รับบาดเจ็บเพียบทั้ง สุทธินันท์ พุกหอม, ยูกิ บัมบะ, ไจเม่ บรากันซา และ กรกช วิริยอุดมศิริ ทำให้ยังต้องใช้ผู้เล่นชุดเดิมอย่าง แอนเดอร์สันดอส ซานโตส, อดุล หละโสะ, คาซูโตะ คูชิดะ รวมไปถึง 2 หัวหอกจอมทะลงประตูอย่าง พิภพ อ่อนโม้ และ ติอาโก้ คุนญ่า

ทางฝั่งทีมเยือน กว่างโซ้งมหาภัย ที่เพิ่งโชว์ฟอร์มเสมอกับบุรีรัมย์ มาในเกมที่แล้ว นัดนี้ไม่มีนักเตะตัวหลักบาดเจ็บ และติดโทษแบน ทำให้ “โค้ชโจ” ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น กุนซือหนุ่ม จะจัดทัพชุดใหญ่ลงสนามนำโดย เกียรติประวุฒิ สายแวว, พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, เลอันโดร อัสซัมป์เกา และ เรนัน มาร์เกวซ ดาวยิงตัวเก่ง

สกอร์ที่คาด : ชลบุรี ชนะ 2-0

20.00 น. SCG เมืองทองฯ ยูไนเต็ด VS บางกอกกล๊าส เอฟซี : เจ้าบ้าน กิเลนผยอง ที่เริ่มระส่ำหลังเพิ่งปลด สก๊อต คูเปอร์ กุนซือชาวผู้ดีออกจากตำแหน่ง พร้อมตั้ง พล ชมชื่น ผู้ช่วยขึ้นมาเป็นโค้ชรักษาการ เกมนี้สภาพทีมงานเข้าอย่างหนักเมื่อจะหมดสิทธิ์ใช้งาน 2 แข้งสำคัญอย่าง “เจ้าตอง” กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ นายทวารมือ 1 รวมไปถึง “เกรียนโอ้” มาริโอ ยูรอฟสกี้ จอมทัพคนสำคัญที่เจอปัญหาอาการบาดเจ็บทั้งคู่ รวมไปถึงผู้เล่นที่เดี้ยงอยู่ก่อนแล้วอย่าง วุฒิชัย ทาทอง, ชัยณรงค์ ทาทอง และ วีระวุฒิ กาเหย็มก็จะไม่พร้อมลงสนามในเกมนี้ทั้งหมด ทำให้ เกมนี้ต้องฝากความหวังในแนรุกเอาไว้ที่ เจย์ โบธรอยด์ และ “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา

ทางฝั่งทีมเยือน บีจี ที่ฟอร์มกำลังร้อนแรง รั้งอันดับ 3 ของตารางในตอนนี้ เกมนี้สภาพลูกทีมของ “โค้ชแต๊ก” อรรถพล ปุษปาคม
ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บและติดโทษแบน พร้อมลงสนามทุกตำแหน่ง นำทัพโดย เทรุยุกิ โมนิวะ, ลาซารัส คาอิมบี้, ดาร์โก้ ทาเซฟสกี้ และ “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย หัวหอกฟอร์มร้อน

สกอร์ที่คาด : เมืองทอง ชนะ 2-1

กาลอป