วันอาทิตย์ ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / Supplement
74th Anniversary of the Independence Day of the Republic of INDONESIA  on August 17th, 2019

74th Anniversary of the Independence Day of the Republic of INDONESIA on August 17th, 2019

วันเสาร์ ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2562, 02.00 น.
Tag : Independence Day INDONESIA
  •  

สารจากเอกอัครราชทูต


เนื่องในวันนี้ชาวอินโดนีเซียเฉลิมฉลองครบรอบ 74 ปี วันประกาศอิสรภาพของสาธารณรัฐอินโดนีเซีย และในโอกาสนี้ข้าพเจ้ามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งและขอส่งมอบความปรารถนาดีต่อชาวอินโดนีเซียทุกคนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย เช่นเดียวกันนี้ข้าพเจ้าขอขอบคุณอย่างจริงใจไปยังรัฐบาลและประชาชนแห่งราชอาณาจักรไทยที่ร่วมอำนวยพรและแสดงความยินดีต่อประเทศของเราในโอกาสอันสำคัญนี้

และในโอกาสอันเป็นมงคลนี้ ข้าพเจ้าในนามของรัฐบาลและประชาชนชาวอินโดนีเซีย ขอใช้โอกาสนี้เพื่อถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พุทธศักราช 2562 ข้าพเจ้าขออำนวยพรให้พระองค์และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ทรงพระเกษมสำราญ ตลอดจนรัฐบาลและประชาชนชาวไทยให้ดำรงสุขสวัสดิ์ตลอดกาลนาน

ปี 2019 นี้นับเป็นปีที่พิเศษมากสำหรับทั้งสองประเทศ เนื่องจากประเทศไทยได้มีการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2562 ในขณะเดียวกันนี้ประเทศอินโดนีเซียก็ได้ดำเนินการเลือกตั้ง ประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี รวมทั้งการเลือกสมาชิกสภานิติบัญญัติเมื่อวันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา โดยทั้งสองประเทศของเราได้แสดงให้โลกเห็นว่าเราประสบความสำเร็จในกระบวนการดำรงไว้ซึ่งประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์

วันที่ 17 สิงหาคม ปีนี้เป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 74 ปี ของการประกาศอิสระภาพและยังเป็นปีที่เริ่มต้นสมัยที่สองของประธานาธิบดี Joko Widodo หลังที่จากเขาและรองประธานาธิบดี Ma’ruf Amin ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยได้รับความไว้วางใจจากประชาชนชาวอินโดนีเซียให้ขับเคลื่อนประเทศอินโดนีเซียต่อไปอีกในห้าปีข้างหน้า

ดังนั้นในปีนี้จึงเป็นช่วงเวลาพิเศษสำหรับชาวอินโดนีเซียที่จะใคร่ครวญถึงความสำเร็จตลอดจนแก้ไขข้อบกพร่องที่มีอยู่เพื่อให้ประเทศได้ขับเคลื่อนไปอย่างต่อเนื่องภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ ปี ค.ศ. 1945 ของประเทศอินโดนีเซีย

ในขณะเดียวกันเป็นช่วงเวลาของการสะท้อนถึงความมั่นคง ปลอดภัย ที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนชาวอินโดนีเซียทุกคนอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน ไม่เฉพาะกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้นแต่จะครอบคลุมถึงประชาชนที่อาศัยอยู่ในทุกพื้นที่ของอินโดนีเซีย โดยจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังนั้นคือความมุ่งมั่นสูงสุดของเรา

ช่วงแรกของการบริหารประเทศภายใต้การนำของประธานาธิบดี Joko Widodo นั้นได้ดำเนินการตามวาระการพัฒนาประเทศในหลายด้าน เช่น โครงการประกันสังคม และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ตามนโยบายการคลังและการลงทุนรวมถึงวาระทางการเมืองที่สามารถสร้างความปรองดองกัน โครงการพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถในหมู่บ้านและชุมชนชายขอบรวมถึงพื้นที่ห่างไกล หลายโครงการสามารถพัฒนาเศรษฐกิจระดับภูมิภาคที่มีโอกาสทางเศรษฐกิจเพียงน้อยนิดสู่การพัฒนาเศรษฐกิจที่เป็นธรรมให้เกิดขึ้นทั่วทุกภูมิภาคของประเทศอินโดนีเซีย

ในช่วงที่สองของการบริหารภายใต้การนำของประธานาธิบดี Joko Widodo ที่มีนโยบายมุ่งมั่นในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งจะเน้นการพัฒนาด้านทรัพยากรมนุษย์โดยได้รับความสนใจมากขึ้นต่อไปในอีกห้าปีข้างหน้า

ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอินโดนีเซียกับประเทศไทยซึ่งจะเข้าสู่ครบรอบความสัมพันธ์ทางการทูต 70 ปี ในปีหน้านี้ ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่ดีอย่างต่อเนื่อง ข้าพเจ้ามั่นใจว่าความสัมพันธ์ฉันมิตรและความร่วมมือระหว่างอินโดนีเซียและประเทศไทยจะยังมั่นคงแน่นแฟ้นต่อไป นอกจากนี้ข้าพเจ้าขอขอบคุณภาครัฐและภาคเอกชนของประเทศไทยที่ได้ให้การสนับสนุนภาคธุรกิจและการลงทุนของบริษัทไทยในอินโดนีเซีย

ทั้งนี้ในระดับภูมิภาค ประเทศสมาชิกอาเซียนยังคงพิสูจน์ความเป็นหนึ่งในฐานะองค์กรระดับภูมิภาคที่ก้าวหน้ามีความสามารถและมีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีโดยประเทศสมาชิกมีความมุ่งมั่นสู่ความก้าวหน้าและพร้อมเผชิญกับความท้าทายทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก

ในฐานะประธานอาเซียนในปีนี้ประเทศไทยได้ทำหน้าที่อย่างดีเยี่ยม ที่จะนำพาอาเซียนสู่ความก้าวหน้า โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ ประเทศไทยประสบความสำเร็จในการจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 ที่ผ่านมา โดยเน้นถึงความสำคัญของความร่วมมือร่วมใจ ก้าวไกลและยั่งยืน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่เน้นให้อาเซียนก้าวไปข้างหน้าเพื่อสร้างประชาคมอาเซียนที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลางโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง จากสภาพการณ์ของโลกปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว สิ่งนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความเป็นปึกแผ่นและความมั่นคงและความร่วมมือกันของสมาชิกประเทศอาเซียน

ขณะเดียวกันในสถานการณ์โลกปัจจุบันการปฏิบัติตามกรอบภายใต้รัฐธรรมนูญปี ค.ศ. 1945 ของประเทศอินโดนีเซีย โดยอินโดนีเซียอยู่ในฐานะประเทศสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ด้วยคำขวัญของอินโดนีเซียที่ว่า “มิตรภาพที่แท้จริงเพื่อการสร้างสันติภาพของโลก” โดยอินโดนีเซียได้มุ่งประเด็นสำคัญหลายประการเพื่อสนับสนุนสันติภาพของโลก กล่าวคือการทำงานร่วมกันระหว่างองค์กรระดับภูมิภาค ความร่วมมือเพื่อต่อต้านการก่อการร้าย และลัทธิหัวรุนแรง และความร่วมมือระหว่างสันติภาพโลกกับการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมถึงการสร้างสันติภาพและการแก้ปัญหาเฉพาะในปาเลสไตน์ เป็นต้น

อะฮ์มัด รุสดี

เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย

การปราศรัยครั้งแรกของประธานาธิบดี

(ที่มา: https://www.sibernews.co/lima-fokus-visi-indonesia-baru)

การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์: 

วาระสำคัญของประเทศอินโดนีเซีย ภายใต้การนำของประธานาธิบดี Joko Widodo

อินโดนีเซียฉลองวันครบรอบ 74 ปี แห่งการประกาศอิสรภาพในวันที่ 17 สิงหาคม ของทุกปีและในปีนี้ถือได้ว่าเป็นปีที่พิเศษกว่าปีที่ผ่านมาเพราะประเทศอินโดนีเซียเพิ่งจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี ตลอดจนสมาชิกสภานิติบัญญัติในเดือนเมษายน พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา

ประเทศอินโดนีเซียถือว่าเป็นรัฐประชาธิปไตยที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลกและได้ดำเนินการจัดการเลือกตั้งที่มีกระบวนการอันสลับซับซ้อนที่สุด แต่อินโดนีเซียก็ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสำเร็จในการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้สู่สายตาประชาคมโลกประธานาธิบดี Joko Widodo ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนชาวอินโดนีเซียให้ดำรงตำแหน่งผู้นำของประเทศพร้อมกับรองประธานาธิบดีคนใหม่ Ma’ruf Amin ต่อไปอีก 5 ปีข้างหน้า

เสถียรภาพและการเติบโตทางเศรษฐกิจรวมถึงการพัฒนาอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียมกันของประชาชนชาวอินโดนีเซียเป็นสิ่งสำคัญตามวาระการพัฒนาชาติของประเทศอินโดนีเซียมาโดยตลอด ดังนั้นการควบคุมอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจจากการค้าและการลงทุนในประเทศเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายและสะดวกขึ้น การเพิ่มงบประมาณของกระทรวงการคลังและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานได้ถูกนำมาปฏิบัติกันอย่างจริงจังในช่วงปีแรกๆ ในยุคของรัฐบาล Joko Widodo และรองประธานาธิบดี Jusuf Kalla นอกจากนี้ทางรัฐบาลได้คำนึงถึงอาณาเขตที่กว้างใหญ่และธรรมชาติของพื้นที่ในประเทศอินโดนีเซีย การพัฒนาชายขอบและพื้นที่ห่างไกล เป็นสิ่งที่ทางรัฐบาลได้มีความตระหนักอย่างมากในบริบทของการพัฒนาที่เท่าเทียมกัน

ในภาคแรกภายใต้การบริหารงานของรัฐบาล Joko Widodo และ รองประธานาธิบดี Jusuf Kalla รัฐบาลได้มีการปรับโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ หลายๆ ด้าน เช่น ด้านการคมนาคม ไม่ว่าจะเป็น

ผลจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของอินโดนีเซีย สามารถเห็นได้จากความถี่และความต่อเนื่อง ของผู้ใช้บริการและการขนส่งสินค้าทั้งทางบกและทางอากาศที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างมาก และในระยะยาวการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจะช่วยให้สามารถเชื่อมต่อชุมชนและท้องถิ่นเข้าด้วยกันเพื่อให้เกิดการกระตุ้นการแข่งขันระหว่างภูมิภาคทั่วประเทศอินโดนีเซีย นอกจากนี้การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานจะส่งให้เกิดความมั่นคงทางด้านอาหาร และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายคือ เพิ่มความพร้อมและพัฒนาขีดความสามารถในการผลิตอาหารภายในประเทศ ทั้งนี้ยังมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ อีก เช่น อ่างเก็บน้ำ, เขื่อน, ระบบชลประทาน รวมถึงการปรับโครงสร้างพื้นฐานทางโทรคมนาคมอีกด้วย

ในขณะที่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานได้มีการดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ประธานาธิบดี Joko Widodo ยังได้เห็นความสำคัญและพยายามที่จะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ในภาคที่สองของการบริหารงานภายใต้รัฐบาลของเขาและความมุ่งมั่นดังกล่าวได้ถูกกล่าวถึงในระหว่างพิธีเปิดงานด้านการศึกษาและวัฒนธรรมแห่งชาติ ในเมือง Depok เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมา “ถึงแม้ว่าการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานได้ถูกนำมาใช้งานแล้วแต่เราก็ไม่หยุดการพัฒนา ซึ่งตอนนี้เรากำลังมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาด้านทรัพยากรมนุษย์เป็นเป้าหมายต่อไป” และสิ่งเดียวกันนี้ได้ถูกนำมากล่าวย้ำอีกครั้งในการกล่าวสุนทรพจน์เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ค.ศ. 2019 หลังจากที่เขาได้รับการประกาศชัยชนะจากการเลือกตั้งที่ผ่านมา โดยประธานาธิบดีได้กล่าวอย่างชัดเจนว่า “การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เป็นหนึ่งในโครงการหลักที่รัฐบาลให้ความสำคัญ นอกเหนือไปจากการลงทุนปรับโครงสร้างพื้นฐาน การปฏิรูประบบราชการ และการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ และมุ่งเน้นไปยังการใช้งบประมาณของรัฐให้เกิดประโยชน์สูงสุด”

โลกปัจจุบันกำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงเมื่อการปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4 หรือ (4IR) 

การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์จึงถือเป็นเรื่องเร่งด่วนอย่างยิ่งในการตอบสนองและพัฒนาให้เหมาะสมกับยุคสมัยปัจจุบัน “เพื่อรักษาความยั่งยืนของการพัฒนาประเทศอินโดนีเซีย ในปี 2020 การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่องหลังจากที่เราได้เริ่มต้นไปแล้วในปี 2019” คำกล่าวของประธานาธิบดีในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ค.ศ. 2019

ในขณะที่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเป็นรากฐานที่แข็งแกร่ง ในช่วงภาคแรกของรัฐบาลภายใต้การนำของ

นอกจากนี้รัฐบาลได้มีการออกแบบบัตร 3 ประเภท เพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวอินโดนีเซีย ซึ่งบัตรประเภทแรกเป็นบัตรสำหรับผู้มีรายได้น้อยทำให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงปัจจัยขั้นพื้นฐานได้ ด้วยโครงการนี้รัฐบาลไม่เพียงแต่จะตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานเท่านั้น แต่ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและการศึกษาของบุตรหลานอีกด้วย

ในขณะเดียวกันรัฐบาลได้ดำเนินโครงการครอบครัวแห่งความหวัง (Kartu Keluarga Harapan) โดยให้ความช่วยเหลือทางด้านอาหารแทนการให้เงินสด จะเห็นได้ชัดว่าโครงการครอบครัวแห่งความหวังมีผลอย่างมากในการลดความยากจน โดยรัฐบาลได้ประสบความสำเร็จในการลดความยากจนจาก 12.49% เหลือ 9.82% ซึ่งเป็นครั้งแรกและมีเปอร์เซ็นต์ต่ำสุดในประวัติศาสตร์ของประเทศอินโดนีเซีย

บัตรประเภทที่สองเป็นบัตรเพื่อพัฒนาและยกระดับการศึกษา (Kartu Indonesia Pintar) เป็นโปรแกรมต่อเนื่องที่ได้ดำเนินการในช่วงก่อนหน้านี้ สำหรับนักเรียนที่ควรได้รับการศึกษาภาคบังคับ 9 ปี และในโครงการนี้รัฐบาลจะให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนทางการเงินเพิ่มเติมแก่นักศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งการสนับสนุนด้านนี้จะทำให้ทรัพยากรมนุษย์ของประเทศมีการพัฒนา อีกทั้งโครงการนี้จะช่วยส่งเสริมให้นักศึกษาที่มาจากครอบครัวที่ยากจน สามารถที่จะพัฒนาทักษะและศักยภาพของตนเองอีกทั้งมีโอกาสศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น

การประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ค.ศ. 2019 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง Sri Mulyani ได้กล่าวว่า รัฐบาลจะอนุมัติเพิ่มงบประมาณด้านการศึกษา เพื่อสนับสนุนแผนการปรับปรุงคุณภาพทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งก่อนหน้านี้รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 20% ของรัฐเพื่อพัฒนาด้านการศึกษา โดยงบประมาณด้านการศึกษาสำหรับปีที่ผ่านมาใช้ไป 457.9 ล้านล้าน (รูเปียห์)หรือประมาณ 1 ล้านล้านบาท และในปี ค.ศ. 2019 นี้ได้มีการเพิ่มงบประมาณเป็น 492.5 ล้านล้าน (รูเปียห์) หรือประมาณ 1.1 ล้านล้านบาทโดยเพิ่มขึ้นคิดเป็น 13.2%

ขณะเดียวกันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานของอินโดนีเซียยอมรับว่ามีความเหลื่อมล้ำกันในด้านทักษะและความสามารถของแรงงานซึ่งสัมพันธ์กันกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การขาดโอกาสทางการศึกษาของทรัพยากรมนุษย์ส่วนใหญ่ในอินโดนีเซีย ส่งผลให้ขาดโอกาสในการแข่งขันทักษะขั้นสูง โดยเฉพาะการแข่งขันกับแรงงานต่างชาติ ดังนั้น นอกเหนือจากโครงการให้ทุนทางการศึกษาแล้วรัฐบาลจะเพิ่มโรงเรียนประเภทอาชีวศึกษา ศูนย์ฝึกอาชีพและโรงเรียนประจำ ในขณะเดียวกันรัฐบาลจะเพิ่มการพัฒนาทักษะของครูและส่งเสริมโครงการที่มีคุณภาพเพื่อฝึกอบรมและพัฒนาทักษะของนักเรียนให้เป็นไปตามมาตรฐาน

ประธานาธิบดี Joko Widodo ยังได้กล่าวถึงการพัฒนาทรัพยากรบุคคลระดับสูง โดยโครงการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อผลิตบัณฑิตที่มีผลงานจากประสบการณ์และการเรียนรู้จากบริษัทชั้นนำทั้ง 4 บริษัทที่มีสัญชาติอินโดนีเซีย กล่าวคือ Traveloka, Go-jek, Tokopedia, Bukalapak ซึ่งทั้ง 4 บริษัทนี้สามารถเจาะตลาดระดับชาติ ระดับภูมิภาค และระดับโลก โดยสามารถส่งเสริมให้ธุรกิจขนาดเล็กนับล้านธุรกิจได้มีโอกาสก้าวหน้าและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลได้ตระหนักถึงบทบาทสำคัญด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่มีขีดความสามารถสูงในการสร้างเศรษฐกิจอินโดนีเซีย สามารถต่อรองและแข่งขันในระดับโลกได้ ด้วยเหตุนี้ทางรัฐบาลยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาขีดความสามารถทรัพยากรมนุษย์ในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยการมอบทุนการศึกษาสำหรับคนที่มีความรัฐบาลอินโดนีเซียเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าทรัพยากรมนุษย์ของประเทศอินโดนีเซียจะมีความพร้อมและสามารถพัฒนาให้เข้ากับยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งเป็นยุคที่มีการแข่งขันและมีความท้าทายอย่างยิ่งสิ่งเหล่านี้สอดคล้องกับการรวมกลุ่มของประเทศสมาชิกอาเซียน ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 ที่ผ่านมาโดยประเทศไทยเป็นประธานอาเซียน ได้เน้นถึงความสำคัญของความร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกลและยั่งยืน เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่เน้นให้อาเซียนร่วมมือกันและก้าวไปข้างหน้า เพื่อสร้างประชาคมอาเซียนที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ในสภาพการณ์โลกปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเช่นทุกวันนี้

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

'อดีต ส.ว.สมชาย'สรุปฟังไต่สวนพยานคดีชั้น 14 บอกพยานเท็จอาการหนักมาก!!!

น้ำใจทหารไทย! เปิดด่านฉุกเฉินส่ง'อดีตรองเสธ.กัมพูชา' ป่วยมะเร็ง กลับบ้านอย่างอบอุ่น

ครั้งแรกในรอบ102ปี! 'ฝรั่งเศส'เปิดให้พลเมืองเล่นน้ำในแม่น้ำแซน การันตีคุณภาพน้ำดีเยี่ยม

ไม่ใช่มีแค่ถนนพระราม 2 สะพานพระราม 4 เกิดเหตุป้ายเหล็กขนาดใหญ่ตกใส่รถพังเสียหาย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved