คลังรับสภาพประกาศลดประมาณการณ์จีดีพีปี57จาก 2.6%เหลือแค่ 2%ชี้ปัญหาการเมืองยืดเยื้อกระแทกเศรษฐกิจครึ่งปีแรกแรงเกินคาด หวังครึ่งปีหลังฟื้นตัวเพราะได้คสช.เข้ามาบริหารจัดการ ต่างชาติเชื่อมั่น รัฐเร่งเบิกจ่ายงบลงทุน หนุนจีดีพีปี58โต 5%
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)เปิดเผยว่าได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยหรือผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)ในปี 2557ลงเหลือ 2.0 %(โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 1.5 – 2.5%) ลดลงจากการคาดการณ์เมื่อเดือนมีนาคม 2557ที่ 2.6% สาเหตุมาจากปัญหาทางการเมืองที่ผ่านมาทำให้อัตราการเจริญเติบโตในไตรมาสแรกของปีหดตัวมากกว่าคาดโดย-0.6 %และสถานการณ์ทางการเมืองที่ยืดเยื้อได้ส่งผลกระทบต่อระดับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจในช่วงครึ่งปีแรก
อย่างไรก็ตามคาดว่าช่วงครึ่งปีหลังเศรษฐกิจไทยอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น โดยคาดว่าจะขยายตัวได้ 4.3% หลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เข้ามาบริหารประเทศ ทำให้นักลงทุนต่างชาติกลับมีความเชื่อมั่น รวมถึงเร่งรัดการเบิกจ่ายการลงทุน ซึ่งจะทำให้มีแนวโน้มดีขึ้นตามลำดับ ส่งผลให้อัตราการขยายตัวปี 2558 คาดว่าจะอยู่ที่ 5% ต่อปี
มูลค่าการส่งออกสินค้าทั้งปีคาดว่าจะขยายตัวที่ 1.5% (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 0.5 ถึง 2.5%) โดยแม้ว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าในครึ่งปีแรกจะลดลงต่ำกว่าที่คาด แต่ในครึ่งปีหลัง คาดว่าจะดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกรวมถึงการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะขยายตัวดีขึ้นส่วนการนำเข้าในปี 2557 คาดว่าจะหดตัวที่ -5.2% โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ (-6.2%) ถึง (-4.2%) แม้จะมีการเร่งตัวสูงขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังตามการเร่งขึ้นของอุปสงค์ภายในประเทศที่เกี่ยวเนื่องกับการใช้จ่ายภาครัฐ
สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจของไทยนั้น ในส่วนเสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศยังคงแข็งแกร่ง โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะปรับสูงขึ้นจากปีก่อนหน้าเล็กน้อยมาอยู่ที่ 2.4% (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 1.9 – 2.9%) ตามแนวโน้มการทยอยปรับเพิ่มขึ้นของราคาต้นทุนวัตถุดิบที่ประสบปัญหาภัยแล้งและสินค้าที่ขาดแคลนวัตถุดิบโดยเฉพาะราคาอาหารสำเร็จรูป และบริการต่างๆ ได้เริ่มทยอยปรับขึ้นราคา เช่น ค่าโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินที่ปรับเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป
อย่างไรก็ดี นโยบายการตรึงราคาก๊าซ LPG และน้ำมันดีเซลตลอดจนมาตรการตรึงราคาสินค้าจะช่วยชะลออัตราเร่งของเงินเฟ้อ ขณะที่เสถียรภาพเศรษฐกิจภายนอกประเทศนั้น คาดว่า ดุลการค้าจะเกินดุลเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว เนื่องจากมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวในอัตราเร่งกว่าการนำเข้าสินค้า ส่งผลให้ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลประมาณ 13.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 3.3% ของจีดีพี(โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 3.1 -3.5% ของจีดีพี)
ผอ.สศค.ย้ำว่า การประมาณการเศรษฐกิจไทยจำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด อาทิ แนวโน้มอุปทานน้ำมันโลกที่เผชิญปัญหาขัดแย้งในประเทศอิรักและยูเครนทั้งนี้ มองว่า เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้มากกว่า 2 %ต่อปี หากภาครัฐมีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2557 และเตรียมความพร้อมในการใช้งบประมาณปี 2558 ในลักษณะเร่งรัดในช่วงแรกของปีงบประมาณ รวมทั้งส่งเสริมการส่งออกสินค้าให้เป็นไปตามเป้าหมายของกระทรวงพาณิชย์ และ
มีการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
นายสมชาย หาญหิรัญ ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปดเผยว่า แนวโน้มผลิตภัณฑ์มวลรวมภาคอุตสาหกรรมหรือจีดีพีภาคอุตสาหกรรมป 2557 คาดว่าจะเติบโต 1-2% จากเปาหมายเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 2-3% ซึ่งจะสะท้อน ไปยังดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม(MPI)ปนี้จะขยายตัวไม่ เกิน 1%จากเดิม 1.5-2%ปจจัยหลักมาจากการ คาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทยปนี้ที่ลดลง
สำหรับ MPI เดือนมิถุนายนติดลบ 6.6% ลดลงต่อเนื่องเปนเดือนที่ 14 อัตราการใช้ กำลังการผลิตอยู่ที่ 60.61% ขณะที่ MPI ไตรมาส 2/2557 หดตัว 5% ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ ที่ 59.5%และครึ่งปแรก(มกราคม-มิถุนายน) MPI หดตัว 6.1 % อัตราการใช้กำลังการผลิต 60.68%
อุตสาหกรรมสำคัญที่มี ผลให้ MPI ลดลง ได้แก่ การผลิตรถยนต์ในเดือนนี้เทียบกั บปีก่อนหน้าลดลง 26.10 % เนื่องจากปที่แล้วมีการเร่งผลิตเพื่อส่งมอบรถยนต์คันแรกทำให้มีการขยายตัวอย่างมาก ส่วนแนวโน้มครึ่งปีหลังมีทิศทางดีขึ้นจากสถานการณ์ในประเทศที่เข้าสู่ความสงบ สร้างบรรยากาศความเชื่อมั่นในการลงทุนและการบริโภค ประกอบกับการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐ ซึ่งช่วยให้ส่วนต่างๆของประเทศมีความเชื่อมั่นมากขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี