นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลางเปิดเผยว่า ได้ออกคำสั่งให้ผู้บริหารของกรมบัญชีกลางติดตามการเบิกจ่ายของหน่วยงานส่วนราชการต่างๆ ประมาณ 35 หน่วยงาน ที่มีงบลงทุนเกินกว่า 1,000 ล้านบาท โดยในส่วนของอธิบดีกรมบัญชีกลางดูแล 5 หน่วยงานใหญ่ คือ กรมทางหลวง สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ กรมการท่องเที่ยว เพื่อให้มีการเร่งรัดเบิกจ่ายงบลงทุนปีงบประมาณ 2558
การเร่งรัดเบิกจ่ายงบลงทุนปีงบประมาณ 2558 ดังกล่าว เป็นไปตามมติของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
(คสช.) ที่ระบุให้หน่วยงานต่างๆ เซ็นสัญญาการก่อหนี้แผนการลงทุนภายในวันที่ 25 ธันวาคม 2557 ในโครงการไม่เกิน 500 ล้านบาท ส่วนโครงการเกิน 500 ล้านบาทขึ้นไป ได้ให้เวลาอย่างช้าที่สุดภายในไตรมาส 2 ของปีงบประมาณ 2558
พร้อมกันนี้ได้กำชับให้ผู้บริหารของกรมบัญชีกลางเข้าหารือกับผู้บริหารหน่วยงานต่างๆ เพื่อที่จะได้ทราบว่ามีปัญหาติดขัดในการเบิกจ่ายส่วนไหน เพื่อหาทางแก้ไขและเดินหน้าเซ็นสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง โดยที่ไม่ต้องรอให้หน่วยงานนั้นทำเรื่องมาสอบถามในภายหลัง ซึ่งต้องใช้เวลานานส่งผลให้การเบิกจ่ายได้ไม่ตามเป้า โดยปีงบประมาณ 2558 ตั้งเป้าการเบิกจ่ายในภาพรวมไว้ 96% และตั้งเป้าเบิกจ่ายงบลงทุน 87%
นอกจากนี้ กรมบัญชีกลาง ยังได้มีคำสั่งให้คลังเขตและคลังจังหวัด รับผิดชอบติดตามเร่งรัดการก่อหนี้ และการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของหน่วยงานในพื้นที่ รวมทั้งงบจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ซึ่งมีงบประมาณส่วนนี้รวมกันถึง 1.8 หมื่นล้านบาท หากเร่งเบิกจ่ายได้รวดเร็วจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับพื้นที่ของประเทศให้ดีขึ้น
สำหรับการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2558 ในช่วงเดือนแรกถึง 17 ตุลาคม 2557 วงเงิน 2.57 ล้านล้านบาท เบิกจ่ายได้ 2.02 แสนล้านบาท หรือ 7.85% สูงกว่าช่วงเดียวกันที่ผ่านมาที่เบิกจ่ายได้ 5.73% ด้านการเบิกจ่ายงบเหลื่อมปีวงเงิน 1.7 แสนล้านบาท สามารถเบิกจ่ายได้แล้ว 6,941 ล้านบาท หรือ 1.05%
ขณะนี้หน่วยงานต่างๆ ยังไม่มีการเซ็นสัญญาโครงการลงทุน เนื่องจากเพิ่งเริ่มต้นปีงบประมาณ มีเพียงหน่วยงานของกระทรวงคมนาคมที่มีการเซ็นสัญญาก่อสร้างโครงการและมีการเบิกจ่ายเงินไปบางส่วนแล้ว อย่างไรก็ตามคาดว่าการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2558 จะได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ เพราะมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายที่รัฐบาลออกมามีประสิทธิภาพเพียงพอทำให้การเบิกจ่ายรวดเร็วมากขึ้น
สำหรับความล่าช้าของการจัดซื้อจัดจ้าง เป็นผลมาจากการประมูลแบบอี-อ๊อกชั่น ซึ่งที่ผ่านมากรมบัญชีกลางได้ออกประกาศผ่อนปรน เช่น หากมีผู้ประมูลรายเดียวไม่สามารถประมูลแบบอี-อ๊อกชั่นได้ ให้เรียกผู้ประมูลรายนั้นมาต่อรองราคาได้เลย แต่หน่วยงานส่วนใหญ่ก็ยังไม่กล้าดำเนินการต้องทำเรื่องมาให้กรมบัญชีกลางยืนยันเป็นรายกรณี ซึ่งเราก็เร่งทำหนังสือตอบกลับไปเพื่อให้การเบิกจ่ายทำได้รวดเร็ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี