ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาคณะกรรมการ(บอร์ด) และผู้บริหารระดับสูง บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)​ ได้ร่วมประชุมยุทธศาสตร์และการปรับโครงสร้างองค์กร ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและเพื่อความอยู่รอดขององค์กรทีโอที  รวมถึงการกำหนดบทบาทของทีโอที เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการรองรับนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล  ตามนโยบายของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ด้วย  โดยคาดว่าจะโครงสร้างองค์กรใหม่จะแล้วเสร็จและบอร์ดทีโอทีอนุมัติในเดือนพ.ย.2557นี้  ซึ่งหลังจากบอร์ดอนุมัติโครงสร้างแล้ว ก็จะวางตัวบุคคลหรือรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ เพื่อรับผิดชอบสายงานโดยตรง และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเรื่องการจัดทัพผู้บริหารระดับสูง ถือเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญมาก

ปัจจุบันผู้บริหารระดับสูงของทีโอที มีจำนวนมาก  อาทิ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ มี 10 - 12 คน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อีก 12  คน ผู้จัดการฝ่ายอีก  36 คน ขณะที่โครงสร้างใหม่อาจปรับเปลี่ยนเป็นกลุ่มธุรกิจและสายงานมีไม่เกิน 6 - 7 กลุ่ม ดังนั้นรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ที่เหลือก็ต้องรองฝ่ายที่ปรึกษาและรับผิดชอบแต่ละโครงการเท่านั้น

“ขณะที่ตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และผู้จัดการฝ่ายที่มีเป็นจำนวนมากนั้น ก็ต้องคัดสรรบุคคลากรที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพการทำงานตามสายงาน  โดยจะไม่นำระบบอุปภัมถ์หรือเด็กฝากการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง  และต้องยอมรับว่าผู้บริหารที่มาจากระบบอุปภัมถ์หลายคนทำงานได้ดี แต่หลายคนทำงานไม่เป็นเลย แม้แต่การเขียนโครงการเพื่อนำเสนอบอร์ดก็ไม่สามารถดำเนินการได้”

ดังนั้น บอร์ดทีโอที จึงจำเป็นกำหนดหลักเกณฑ์และระเบียบการปรับขึ้นตำแหน่งผู้ให้บริหารให้ชัดเจน เพื่อสร้างความขวัญและกำลังใจให้กับคนทำงาน  เพราะหากทีโอที ยังคงใช้ระบบอุปถัมภ์ระบบการเมืองอีก  ทีโอที จะไปไม่รอด ในยุคที่ธุรกิจโทรคมนาคมมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง ขณะที่ ทีโอที มี 2 สถานะคือรัฐวิสาหกิจที่ต้องปฏิบัติตามระเบียบ และผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม ที่ต้องแข่งขันกับเอกชน ฉะนั้นต้องปรับตัวให้เข้มแข็ง เพื่อแข่งขันกับเอกชนในตลาดโทรคมนาคม