นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รัฐบาลมีความเป็นห่วงภาพรวมเศรษฐกิจ เพราะที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก เมื่อทั้งธนาคารโลก ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี)แสดงความเป็นห่วงต่อเศรษฐกิจโลกปี 2558 จึงอาจกระทบต่อการส่งออกของไทย แม้การลงทุนภาครัฐจะเป็นตัวนำในปีหน้า จึงรอดูว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบแรกจนถึงปลายปีจะเห็นผลอย่างไร เพราะเพิ่งออกมาตรการได้เพียง 2 เดือน อย่างไรก็ตาม ต้องศึกษาแนวทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจมารองรับเพิ่มจากปัญหาเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ภาพรวมของภาคอุตสาหกรรมเริ่มดีขึ้นต่อเนื่อง
เพราะภาคเอกชนจะเติบโตไปตามผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เมื่อสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)คาดว่าปีนี้จีดีพีขยาตัว 1.5 %และขยายตัวดีขึ้น 3.5% ในปี 2558 คาดว่าเอกชนน่าจะดีขึ้นตามไปด้วยโดยเฉพาะเมื่อสหรัฐไม่ออกมาตรการกีดกันทางการค้าหลังจากประกาศลดระดับความน่าเชื่อถือการตอบสนองการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ของประเทศไทยอยู่ในระดับเทียร์ 3 ทำให้ผู้ส่งออกยังเดินหน้าส่งออกไปยังสหรัฐได้ ในส่วนของภาคอุตสาหกรรมจึงยังไม่จำเป็นต้องช่วยเหลือเพิ่ม เพราะขณะนี้ภาคเอกชนใช้กำลังการผลิตเพียง 60% จึงต้องเพิ่มกำลังการผลิตอีกมาก
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยสั่งการให้ทุกกระทรวงหาแนวทางช่วยเหลือทุกกลุ่มเพิ่ม ทั้งภาคอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดเล็ก (เอสเอ็มอี) เกษตรกร ผู้ค้ารายย่อย เพื่อดูแลทุกกลุ่มและเห็นผลเป็นรูปธรรมในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. กล่าวปาฐกถา ในหัวข้อ “แผนการกระตุ้นเศรษฐกิจไทย ต้องลงมือพร้อมกันทั้งประเทศ”ว่า เศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะที่ฟื้นตัวช้าๆ หรือ Slow Growth ไม่ใช่ภาวะเศรษฐกิจชะงักงัน หรือ Stagnation อย่างที่หลายฝ่ายกังวล โดยเชื่อว่าหากการส่งออกในช่วง 4 เดือนของปีนี้ ฟื้นตัวกลับมาได้ จะทำให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจปีนี้ ขยายตัวได้ 1.5-2% แต่ยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ที่จีดีพีจะมาทางด้านต่ำ ซึ่งทางสศช.เตรียมที่จะประเมินอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้และปี 2558 ใหม่ในวันที่ 17 พฤศจิกายนนี้ โดยยังคงเป้าหมายจีดีพีปี 2558 ไว้โต 3.5-4.5% โดยปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปีหน้า จะมาจากการลงทุนภาครัฐ เนื่องจากราคาพลังงานเอื้ออำนวยต่อการลงทุน และมองว่าการบริโภคจะกลับมาเป็นปกติ
ส่วนแผนการก่อสร้างโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่มีส่วนสำคัญมากในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และ เตรียมความพร้อมในการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซีนั้น ในปี 2558 จะเน้นหนักที่การขนส่งทางราง และ การขนส่งทางน้ำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี